การศึกษาครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อ(1) เพื่อประเมินคุณภาพของเอกสารประกอบการเรียนการสอน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมยุวกาชาด ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น (2) เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนการสอน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมยุวกาชาด ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและ หลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนการสอน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมยุวกาชาด (4) เพื่อศึกษาความ พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยเอกสารประกอบการเรียนการสอน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมยุวกาชาด
กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการศึกษา เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดสิตาราม
จำนวน 22 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียนการสอน แบบทดสอบก่อนเรียน–หลังเรียน แบบสอบถามความพึงพอใจ วิธีดำเนินการทดลอง โดยทดสอบก่อนเรียน หลังจากนั้นจัดการเรียนการสอนโดยเอกสารประกอบการเรียนการสอนและทดสอบ หลังเรียน แล้วนำผลการทดสอบไปวิเคราะห์ผล โดยใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที (t-test)

ผลการวิจัย
1. การประเมินคุณภาพของ เอกสารประกอบการเรียนการสอน จากผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน โดยรวมมีประสิทธิภาพความสอดคล้องตามความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ถึงมากที่สุด
2. ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนการสอน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรม ยุวกาชาด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 84.11/ 86.92 เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์แล้วปรากฏว่า สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ 80/80
3. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยเอกสารประกอบการเรียน การสอน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมยุวกาชาด ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนพบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีคะแนนสูงขึ้นร้อยละ 26.47
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยเอกสารประกอบการเรียนการสอน สำหรับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมยุวกาชาด แต่ละข้ออยู่ในระดับมาก ถึงมากที่สุด

Advertisement