ของฟรีไม่มีในโลก

      คำว่าของฟรีไม่มีในโลก   หลายคนคงเคยได้ยิน แต่จะมีสักกี่คนที่เก็บเอาประโยคนี้มาคิดให้ลึกซึ้ง   เพราะว่ามันจะช่วยให้เราเข้าใจอะไรๆ ในชีวิตได้มากมาย ถ้าเราเข้าใจคำๆ นี้ เราอาจจะทำบางอย่างเปลี่ยนไปจากเดิม และไม่ทำบางอย่างที่เคยทำ จริงๆ แล้วทัศนคติ มีอิทธิพล ต่อความคิด คำพูด และการกระทำของมนุษย์ทุกๆ คน

     สังเกตไหมว่า ตอนเราเป็นเด็กๆ เวลาเราได้เงิน หรือสิ่งของจากญาติผู้ใหญ่ เราจะรู้สึกดีใจ และก็เริ่มอยากได้อะไรต่ออะไรอีกมากมาย เด็กบางคนถูกเลี้ยงมาจากพ่อแม่ที่ใจดี ถ้าแถมร่ำรวยด้วยล่ะก็ โอกาสที่จะได้อะไร ต่ออะไรง่ายๆ ก็จะยิ่งมากขึ้น ซึ่งดูเหมือนจะขัดแย้งกับประโยคที่ว่า ของฟรีไม่มีในโลก

     ผู้หญิงที่น่าตาดีๆ หลายคน หาเงินใช้อย่างง่าย ๆ ด้วยการขอเงินจากผู้ชาย ที่มาติดพัน หรือยินยอมแลกกับการไปหลับนอนด้วย และนึกว่าไม่ได้เสียอะไรมากมาย เพราะผู้ชายเอาอะไรไปไม่ได้

     ข้าราชการ หรือนักการเมือง ที่หาเงินด้วยการโกงกิน คอรัปชั่น เรียกค่าคอมมิชชั่น จากผู้ที่เข้ามาทำหากินกับงบประมาณของรัฐบาล

     การที่บางคนไปขโมย หรือจี้ปล้น ทรัพย์สินเงินทองของคนอื่นมา แล้วไม่ถูกตำรวจจับ

     แม้แต่คนที่เห็นแก่ตัว ชอบหาของฟรีกิน ไปกินเหล้าฟรีของเพื่อน หาคนเลี้ยงอาหาร พาเที่ยว ไปเรื่อยๆ

    คนที่ขอบเอาเปรียบเป็นนักวางแผน เพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์มากกว่าคนอื่นๆ อย่างไม่เป็นธรรม และก็ได้ผล ตามที่วางแผนไว้

     คนเหล่านี้ ไม่ได้ใส่ใจกับ ประโยคที่ว่า ของฟรีไม่มีในโลก เลย เพราะไม่ว่าเขาจะได้อะไรก็ตาม ที่ทำให้รู้สึกว่า ได้เปรียบ ได้มาง่ายๆ กำไร หรือ คิดว่าตัวเองโชคดี โชคเข้าข้าง

    แต่ถ้าช่างสังเกตหน่อย จะพบว่า สุดท้าย เราต้องจ่ายคืนให้กับ สิ่งของเหล่านี้ ตามมูลค่ามันในที่สุด และส่วนใหญ่ต้องจ่ายมากกว่าที่ได้รับมาเสมอ ซึ่งถ้าทุกคนเข้าใจ และเห็นความจริง จะไม่มีใคร อยากได้ของฟรีอีกเลย

    เด็กที่พ่อแม่ตามใจ ได้ของแจกของแถม ของขวัญ อะไรง่ายๆ จากพ่อแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ ก็จะเติบโต พร้อมกับความเกียจคร้าน ไม่เห็นคุณค่าของการทำงาน ไม่เห็นคุณค่าของความเหน็ดเหนื่อย ไม่รู้จักความยากลำบาก ไม่รู้จักคำว่าประหยัดอดออม ไม่มีความมานะพยายาม เพราะทุกสิ่งเขาได้มาง่ายๆ เพียงแค่ร้องขอ ก็ได้มา แต่พอโตเป็นผู้ใหญ่ ทุกสิ่งไม่สามารถร้องขอได้เหมือนตอนเป็นเด็ก และยิ่งความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเด็กเหล่านี้ จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่โชคร้าย ไม่มีคุณภาพ ไม่มีความสามารถ และไม่ความภาคภูมิใจในตนเอง ง่ายที่จะติดอบายมุข สนุกสนานไปวันๆ และประสบความล้มเหลวในที่สุด

     ส่วนหญิงสาวที่ ใช้ความสาวเข้าแลก นานๆ เข้าความสาวเริ่มเสื่อมโทรม แต่ภาพพจน์ที่ไม่ดี เรื่องราวที่เสื่อมเสียกับติดตามดั่งเงาตามตัว และสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้องอยู่กับความหวาดกลัว เพราะไม่อยากให้ใครรู้ ไม่อยากให้ใครดูถูก ส่วนบางคนก็ไม่แคร์ว่าใครจะว่าอย่างไร แต่ลึกๆ แล้ว ตนเองย่อมติเตียนตัวเอง คนเหล่านี้รังเกียจตนเอง แม้จะพยายามแก้ตัว หาเหตุผลเข้าข้างตัวเองอย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้เลย คนเหล่านี้ไม่รัก ไม่ศรัทธาตัวเอง สุดท้ายก็ไม่มีความสุข หลายคนต้องตกระกำลำบาก เรียกได้ว่า สบายตอนสาว เจ็บปวดรวดร้าวตอนแก่

     พวกข้าราชการ นักการเมืองก็เช่นกัน ไม่ติดคุกติดตะราง โดนไล่ออก หักหลังกันเอง ฆ่ากันตาย ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง บางคนที่เร็ว บางคนก็ช้า ล้วนมีจุดจบ ที่สายไปเสียแล้วแทบทั้งสิ้น ได้มาเท่าไร ก็ฉิบหายไปเท่านั้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่า เวรกรรม ติดตามตัว เหมือนสุนัขดมกลิ่น จะหลบจะซ่อนอย่างไร ก็หลบซ่อนไม่พ้นเลย

    แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของฟรี ที่ดูเหมือนจะฟรี แต่สุดท้ายก็ไม่ฟรี เพื่อนเลี้ยงเหล้าวันนี้ วันหนึ่งก็ต้องเลี้ยงคืน หรือจ่ายคืนเป็นอย่างอื่น ลองสังเกตดูสิ ไม่มีอะไรได้มาฟรีจริงๆ

    มีนิทานเรื่องหนึ่ง พระราชา ให้นักปราชญ์ไปค้นคว้าหาหลักการแห่งความสำเร็จมา นักปราชญ์ใช้เวลา 10 ปี สรุปเป็นหนังสือ 24 เล่ม พระราชาบอกเวียนหัวอ่านไม่รู้เรื่อง นักปราชญ์ ใช้เวลาอีก 10 สรุปออกมาเป็นหลักการในหนังสือ 10 เล่ม พระราชาบอกว่า ยังใช้ไม่ได้ นักปราชญ์ใช้เวลาค้นคว้าต่ออีก 10 ปี และได้ข้อสรุปออกมาว่า หลัการแห่งความสำเร็จ ก็คือ ของฟรีไม่มีในโลก อยากได้ต้องทุ่มเทอุทิศตน คราวนี้พระราชาพอใจ

    ฉะนั้นจงจำไว้ให้ดี อย่าคิดรวยทางลัด อย่าหาความสำเร็จที่ได้มาง่ายๆ หากต้องการความสำเร็จต้องฝึกไม่เป็นนักนิยม ของฟรี หรือของที่ได้มาฟรีๆ เพราะเวลาจ่ายคืนนั้นมันเจ็บ....อาเมน

คุณเกรียง