แดนเกิดสายที่ห้า ได้แก่ พระนิพพาน
แดนเกิดสายที่ห้า ได้แก่ พระนิพพาน แดนนี้เป็นเขตที่รู้
เรื่องกันยากมาก เพราะนักปราชญ์สมัยนี้ถือว่า "นิพพานสูญ"
กันเป็นประเพณีไปแล้ว ขอบอกไว้ย่อๆ ว่า คนที่จะถึงพระนิพพาน
ได้นั้น ต้องมีความบริสุทธิ์ ๑๐ อย่าง คือ
๑)ไม่เมาในตนเองหรือวัตถุต่างๆ ที่คิดว่าเป็นสมบัติของ
คน รู้เสมอว่าจะต้องตายและพลัดพรากจากของรักของชอบแน่นอน
ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามความตายและความพลัดพลากได้ทำจิตใจ
เป็นปกติเมื่อความตายมาถึงหรือเมื่อต้องพลัดพรากจากสิ่งที่ตนรัก
๒)ไม่สงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ทรงสอนตาม
ความเป็นจริง ทุกอย่างในโลกนี้ไม่ว่าสิ่งที่มีชีวิตต้องทำลายตนเอง
ลงไปในเมื่อกาลเวลามาถึง ไม่มีอะไรทรงสภาพเป็นปกติอยู่ได้ ใคร
ทำความดี ความดีก็คุ้มครองให้มีความสุขใจ ใครทำความชั่ว ความชั่ว
จะบันดาลความเดือดร้อนให้ แม่ผู้อื่นยังไม่ลงโทษ ตนเองก็มี
ความหวาดสะดุ้งเป็นปกติ
๓)รักษาศีลมั่นคง ดำรงจิตอยู่ในศีลเป็นปกติ
๔)ทำลายความใคร่ในกามารมณ์ให้สิ้นไปจากใจ ด้วย
อำนาจความรู้ถึงความจริง รู้ว่าความรักเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์
ภัยอันตรายที่มีขึ้นแก่ตน เพราะอาศัยความรักเป็นเหตุ
๕)มีจิตใจเต็มไปด้วยความเมตตาปรานี ไม่โกรธ ไม่จอง
ล้างจองผลาญ คิดทำอันตรายใคร ไม่ว่าใครจะแสดงอาการอย่างไร
จิตก็ไม่คลายจากความเมตตา
๖)ไม่มัวเมาในรูปฌาน โดยคิดว่าการที่ตนทรงรูปฌาน
ได้นี้ เป็นผู้ถึงที่สุดของความดี เมาฌานจนไม่สนใจความดีที่ตนยังไม่ได้
๗)ไม่มัวเมาในอรูปฌาน โดยคิดว่าความดีเพียงเท่านี้ ยังไม่เป็นทาง
สิ้นทุกข์
๘)มีอารมณ์เป้นปกติ ไม่คิดถึงเรื่องอารมณ์เหลวไหล มี
จิตใจเต็มไปด้วยความหวังดี ไม่ว่าต่อคนหรือสัตว์ ตลอดเวลาที่ตื่นอยู่
๙)ไม่ถือตน ทะนงตน ว่าดีเลิศประเสริฐกว่าใคร มี
อารมณ์ใจเป็นปกติ เห็นคน สัตว์ ทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของ
ธรรมดาที่จะต้องตาย จะต้องสลายไป และมีอารมณ์ไม่หวั่นไหว
เมื่อเข้าสังคมสมาคมใดๆ มีอาการเป็นเสมือนว่าสังคมนั้น
สมาคมนั้นๆ เป็นกลุ่มของคนที่ต้องตาย ไม่ทำตัวใหญ่หรือเล็ก
จนน่าเกลียด ทำตนพอเหมาะพอสมควรแก่สมาคมนั้นๆเรื่องของ
เขา เขาจะดีจะชั่วก็ตัวของเขา เราช่วยได้ก็ช่วย ช่วยไม่ได้ก็เฉยไว้
ไม่สนใจที่จะไปเบ่งบารมีทับใคร
๑๐)ตัดความรัก ความพอใจในโลกีย์วิสัยให้หมด
งดอารมณ์อยากดีอยากเด่น ทำอารมณ์เป็นพระพุทธในพระ
อุโบสถ พระพุทธท่านยิ้มเสมอ ท่านที่จะถึงพระนิพพานต้องยิ้ม
ได้อย่างพระพุทธ ใครจะดีจะชั่วก็ยิ้ม เพราะเห็นเป็นของธรรมดา
มันหนีไม่ได้ไล่ไม่พ้น
เมื่อยังมีตัวตนเป็นคนมันก็ต้องพบอาการอย่างนี้ อยู่
ก็สบายใจ ความตายจะมาถึงก็ไม่สะดุ้งหวาดกลัวเพราะรู้ตัวอยู่
เสมอว่าจะต้องตาย มีอารมณ์ในปกติ ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่ผูกพัน
ทรัพย์สินหรือสัตว์ หรือบุคคลอื่น เท่านี้ก็ไปพระนิพพานได้
ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ ที่ไม่ทำความชั่วเลยน่ะไม่มี ดังนั้น
ถ้าเราจะชดใช้บาปก็คงชดใช้กันไม่ไหว มีทางเดียวในกิจของ
พระพุทธศาสนา คือ หนีบาป ด้วยการปฏิบัติดังนี้
๑)การคิดถึงคุณพระรัตนตรัย คือ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ
และพระอริยสงฆ์คุณ
๒)ทรงศีล ๕ ให้บริสุทธิ์
๓)มีพรหมวิหาร ๔ ให้ครบถ้วน
๔)มีอิทธิบาท ๔ ทรงตัว
๕)มีการภาวนาจิตให้ทรงตัว
๖)พยายามรวบรวมบารมี ๑๐ ประการ ให้มีในจิตให้ครบถ้วน
๗)พยายามตัดสังโยชน์ ๑๐ ประการให้หมด
๘)จรณะ ๑๕ ปฏิบัติให้ครบถ้วน
|