1. ชื่อเรื่อง  รายงานการใช้นวัตกรรมเอกสารประกอบการเรียนการสอน  กลุ่มสาระการเรียนรู้                            สุขศึกษาและพลศึกษา(สุขศึกษา) เรื่อง สัมพันธ์ชีวิต สำหรับนักเรียนชั้น                                    ประถมศึกษาปีที่ 6 
   ชื่อผู้รายงาน         นายไพโรจน์     สุภาพ
   ตำแหน่ง               ครู คศ.2  โรงเรียนบ้านทุ่งสวน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำแพงเพชร
                                   เขต 1
   ปีที่จัดทำ               2552
    
   บทคัดย่อ
    
                      การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา(สุขศึกษา) เรื่อง สัมพันธ์ชีวิต      
   สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาการเรียนการสอน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แผนการเรียนรู้และเอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้
   สุขศึกษาและพลศึกษา(สุขศึกษา) เรื่อง สัมพันธ์ชีวิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 
   กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่   6 โรงเรียนบ้านทุ่งสวน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำแพงเพชรเขต 1 ปีการศึกษา 2551   จำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ก่อนเรียนและหลังเรียน เอกสารประกอบการเรียนการสอน แผนการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและ พลศึกษา(สุขศึกษา) เรื่อง สัมพันธ์ชีวิต 
   สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผู้รายงานได้ดำเนินการสอนและเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนการสอน ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ทดสอบความแตกต่างของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน
                           ผลการรายงาน พบว่า
    1.   ผลการหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมเอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา(สุขศึกษา) เรื่อง สัมพันธ์ชีวิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
   มีประสิทธิภาพ 92.92/89.75 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80
    2.   ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้
   เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา(สุขศึกษา)
    เรื่อง สัมพันธ์ชีวิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และพบว่าประสิทธิภาพการเรียนการสอนอยู่ในระดับดี มาก (C.V. =7.26)

Advertisement