![](http://variety.teenee.com/foodforbrain/img8/53016.jpg) |
|
การปั่นต้องใช้มือจับหูหม้อทองเหลืองทั้ง 2 ข้าง แกว่งหรือหมุนไปมาในถังไม้ที่ใส่นํ้าแข็งผสมเกลือ
หลังจากปั่นได้ครึ่งชั่วโมง - 1 ชั่วโมง ไอของความเย็นจะเริ่มเกาะรอบนอกของกระบอก นํ้าหวานข้างในจะเริ่มแข็งตัว ช่วงนี้ต้องเสียบไม้เข้าไปตรงกลางเพื่อเอาไว้จับกิน จากนั้นหมุนต่อไปอีกจนไอติมแข็งตัว เอากระบอกโลหะไปจุ่มในนํ้าอุ่นเพื่อให้ดึงไอติมออกจากกระบอกง่ายขึ้น นำไปใส่กระติกเร่ขาย ปัจจุบันยังมีไอติมแบบนี้ออกขายอยู่
ต่อมา บริษัทป๊อบ ผู้ผลิตไอศกรีมตราเป็ด ไอศกรีมรายแรกของเมืองไทย สั่งซื้อเครื่องทำไอศกรีมจากต่างประเทศมาผลิตไอศกรีมได้ครั้งละมากๆ เน้นความสะอาดและคุณภาพ
ทำให้ไอศกรีมเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว โดยไอศกรีมตราเป็ดยุคแรก ๆ ยังเป็นไอติมหวานเย็น ก่อนมีการดัดแปลงรสชาติใหม่ ๆ เป็นรสระกำ เฉาก๊วย ลอดช่อง โอเลี้ยง ข้าวเหนียวแดง ถั่วดำ ฯลฯ พร้อมกับนำสูตรใส่นมจากต่างประเทศทำให้เนื้อไอศกรีมละเอียดและเนียน เป็นที่นิยมยิ่งขึ้น
ไทยสมัยนั้นยังสามารถดัดแปลงไอศกรีมจนเป็นเอกลักษณ์ไทยคือ ไอติมกะทิ โดยใช้กะทิสดผสมนํ้าตาลใส่แทนนมและครีม ไม่ต้องใช้กระบอกทำเป็นแท่ง แต่ใช้ตักใส่ถ้วยเป็นลูกๆ และมีคำเรียกขานใหม่ว่า "ไอติมตัก"
ต่อมาจึงมีแบบตักใส่ถ้วยกรอบและขนมปังผ่ากลาง จุดเด่นของไอศกรีมกะทิคือ ดัดแปลงให้มีรสชาติต่างๆ ได้ง่าย เช่น เติมลอดช่อง เม็ดแมงลัก ข้าวโพด ขนุน และเผือก เป็นถ้วย เอ๊ย! เป็นต้น...อ่านเสร็จแล้วก็ลองๆเดินแวะหาร้านไอศกรีมชิมสักถ้วยให้เย็นฉ่ำอุราสิ!..อากาศหนาวๆอย่างนี้คิดถึงครั้งหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ออสเตรเลีย...นะ....
|