จุดเริ่มต้นของต้นรัก
ต้นรัก คำนี้เกิดขึ้นมาได้ยังไง ผมก็ยังนึกย้อนกลับไปไม่ได้เลย ว่าวันนั้นมีอะไรเข้ามาในความรู้สึก รู้แต่ว่าวันนั้นเป็นช่วงต้นเดือนมีนาคม พศ.2549 ที่จังหวัดสงขลา ราววันที่ 14 มีนาคม ซึ่งตอนนั้นกำลังทำงานอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการสายงานปฎิบัติการ บริษัทสมุยฟู้ดส์อินเตอร์คอร์ป จำกัด ดูแลควบคุมการผลิตปลาทูน่าบรรจุกระป๋อง ร่วมกับบริษัทซีฮอร์ส จำกัด(มหาชน ) ( ; เป็นช่วงหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในชีวิตที่สำคัญแบบที่ไม่ได้มีเค้ารางมาก่อนเลยว่า อยู่ๆชีวิตที่ดูราวประหนึ่งทุกอย่างลงตัวดีแล้ว ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี )
บนโต๊ะทำงานในห้องส่วนตัวที่ทางโรงงานที่นั่นจัดให้ กับ เพื่อนร่วมงานสาวรุ่นน้องคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(หาดใหญ่) ว่างจากงานก็ใช้เวลาท่อง Internet เพื่อค้นคว้าข้อมูล และ เพื่อความบันเทิง
….จุดเริ่มต้นน่าจะเริ่มจากตรงนี้มั่ง ก็ได้เข้าไปเล่น Chat โดยใช้ Program Sanook QQ ได้เข้าไปทักทายสาวคนนึงชื่อที่เธอใช้ในขณะนั้นคือแก้มก้อย รู้สึกว่าที่เข้าไปทักทายเพราะสะดุดใจที่ชื่อ (; ก้อย เป็นคำที่ติดอยู่ในความทรงจำ เมื่อสมัยรุ่น ๆ ตามน้าชายไปซื้อกับแกล้มให้ญาติที่ร้านอาหารอีส่าน มีเมนูหนึ่งชื่อลาบก้อย ดูการทำแล้วรู้สึกว่าส่วนประกอบทุกอย่างที่คนปรุงใส่ลงไปกับรสชาติของมันช่างกลมกลืนอร่อยมาก ๆ ) และเมื่อคุยกันไปก็รู้ว่าจริงๆ แล้วเธอเคยมาฝึกสอนที่โรงเรียนอำนวยวิทย์ อำเภอหาดใหญ่ ก่อนจะกลับไปทำงานแถวบ้านที่ จังหวัดพิจิตร เมื่อเรียนจบจากวิทยาลัยพละศึกษา
วันเดียวนะที่ได้คุย จำอะไรไม่ได้มากหรอกนะว่าคุยอะไรไปบ้าง จำได้แต่ว่า บอกว่าถ้าผมจะคบใครสักคนๆนั้นจะต้องมีพรหมจรรย์ ซึ่งคำว่าพรหมจรรย์ในความหมายของผมคือ เมื่อคนสองคนตกลงใจที่จะคบกันแล้วก็ย่อมที่จะรักษาความรู้สึกนี้ไว้เพียงคน ๆ เดียว โดยไม่สนใจนะว่าก่อนหน้าที่เราจะคบกันคุณมีที่มาอย่างไร ให้ความสำคัญกับปัจจุบันของคนที่เราประทับใจมากกว่า และขอปลูกต้นรักกับครูสาว ก่อนจะจบการสนทนาในวันนั้นได้ขอ E-mail ไว้ เพราะคิดว่าถ้าขอเบอร์โอกาสที่จะได้แทบจะไม่มีเลย สำหรับครูสาวที่มีความคิดดีเช่นเธอ
แล้วรู้สึกว่าจะไม่ได้คุยกันอีกเลย เพราะผมมีงานเพิ่มเข้ามาอีกมาก เนื่องจากช่วงนั้นงานที่ทำดูจะสดใส ทางผู้บริหารเลยได้ขยายพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มอีก 2-3 ราย จากปกติจะได้ประจำที่โรงงานเดียว ต่อไปนี้ก็ต้องวิ่งรอกเพื่อไปประสานและติดตามงานกับโรงงานใหม่อีก
ความเป็นจริงที่รับรู้และเข้าใจ ก็คือว่าการรู้จักกันทาง Internet ยากจะหาคนที่มีความจริงใจได้ยาก ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้คุยกันเลย แต่ขณะที่เธอไม่ได้เข้ามาเล่นอีกเลย หรือเข้ามาเล่นไม่ตรงเวลากัน เพราะไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้สานสัมพันธ์ต่อกัน นอกจาก E-mail
เมื่องานเริ่มลงตัว งานสามารถดำเนินไปตามระบบที่วางไว้ ผมก็เริ่มมีเวลามากขึ้น ก็มีเวลาเข้ามาใช้ Internet เหมือนเดิม ขณะที่อีกคนหนึ่งจะรู้สึกอย่างไรไม่รู้ รู้แต่ว่าในความรู้สึกผม กลับยังคงจดจำความรู้สึกและเรื่องราวของเธอคนนั้น เหมือนความรู้สึกนั้นเริ่มมีชีวิตที่ก่อตัวเติบโตขึ้นเงียบๆ ในหัวใจ เมื่อเป็นความรู้สึกของหัวใจ คนเราก็จะเริ่มทำทุกอย่างเพื่อหวังว่าคงมีสักวันนึงสินะ เราคงจะได้เจอเธออีก หากเธอคือคนที่ฟ้าส่งมาให้ได้เจอกันจริง ๆ
เวลาและชีวิตก็ดำเนินมาตามองค์ประกอบของสิ่งที่เรียกว่าพรหมลิขิต คนเรามีชีวิตภายใต้กฎเกณฑ์ของฟ้าลิขิต หลังสงการณ์ปี 2549 ผมได้ลาบวชที่วัดเขาพระ อ.รัษฎา จ.ตรัง เป็นเวลา 7 วัน คุณลองคิดดูสิว่า อะไรถ้าไม่ใช่ความอานุภาพของพรหมลิขิต ด้วยการเติบโตของความรู้สึก ผมก็ส่งรูปงานบวชไปทาง E-mail ที่เธอให้ไว้ มึความจริงข้อหนึ่งที่ตลอดช่วงชีวิตผม สัมผัสก็คือ การกระทำทุกอย่าง เหมือนการต่อชิกซอร์ ทุกการกระทำที่เราทำด้วยความมุ่งมั่นมักจะก่อเกิดความเป็นจริงเสมอ ไม่ว่าดีหรือร้าย แล้วแต่เราทำดีหรือเลว
วันหนึ่งเธอส่งเมลล์กลับมา นั่นแสดงให้ผมคิดว่าคงน่าจะเป็นไปได้หากผมจะขอเบอร์เธอ เพราะโอกาสไม่ได้เข้ามาหาเราทุกวัน อะไรที่เราคิดว่าจะเราจะเสียดายหากไม่ได้ทำในวันนี้ เราต้องรีบทำทันที ความทรงจำต่อจากนั้นก็เริ่มเลือนลาง เพราะจำไม่ได้นะว่าได้โทรไปคุยกับเธอหรือเปล่า แต่ที่จำได้ดีและน่าจะทำให้ความเลือนลางนั้นแจ่มชัดก็คือ การโทรไปอวยพรวันเกิด ด้วยตั้งใจว่าจะต้องเป็นคนแรกที่โทรไปอวยพรวันเกิดเธอ โทรไปวันที่ 13 ตุลาคม พศ. 2549 ที่บ้านตอนค่ำ ๆ ได้ผลมากครับ เพราะเธอหัวเราะแบบ งง (; ในใจคงคิดว่าเอ๊ะหมอนี่คงไปคุยกับสาว ๆ ไว้หลายคน และคงเข้าใจอะไรผิดแน่ ) พร้อมกับตอบว่า พี่จำวันผิดหรือเปล่า แก้มเกิดวันที่ 15 ตุลาคม จ้า
และสิ่งที่ผมสัมผัสได้และยืนยันความเป็นจริงข้อนึงก็คือ อะไรที่เราตั้งใจทำด้วยความมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว จริงใจ ผลการกระทำจะออกมาน่าภูมิใจเสมอ เพราะนี่คือจุดสำคัญที่ 3 ที่ภายหลังผมคิดว่ามันคือจุดกำเนิดของต้นรักต้นนี้