หลังเสร็จสิ้นคำตัดสินของศาลในคดีรัชดาผมก็เลยอยากหาหนังดีๆเพื่อแนะนำให้ท่านทักษิณได้ดู ถึงแม้ผมจะไม่เลือกข้างก็เถอะ แต่ความวุ่นวายในบ้านเมืองวันนี้ท่านก็มีส่วนอยู่ไม่น้อย ผมจึงขอเขียนบทความนี้เพื่อตอบแทนความดีที่ท่านได้ทำไว้ให้บ้านเมือง  please enjoy 1. Silence of The Lamb (1991) หนังคุกรางวัลออสการ์ที่แสดงให้เห็นว่า เมื่ออยู่ท่ามกลางเหล่าอาชญกรโหดคุณต้องโหด กว่า เงียบกว่า สงบกว่าและบริโภคเนื้อคนเป็นอาหาร แต่กว่าจะทำได้อย่างนี้คงต้องไป take course จิตแพทย์ซะก่อน จากนั้นก็หัดกินเครื่องในสดๆ และก็ต้องระวังเรื่องคลอเรสเตอรอลในเลือดด้วยเพราะเครื่องในมนุษย์นั้นมีแต่ไขมัน (อึ๋ย)     2. The Fugitive (1993) เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องโทษจำคุกและคิดว่าตัวเองไม่ผิด และคิดว่ามันเป็นเรื่องของการเมืองได้ดูเอาไว้เป็นกรณีศึกษาและเป็นกำลังใจ เพราะการที่จะแก้ต่างให้ตัวเองและหาหลักฐานมายืนยันนั้นต้องอาศัยความฉลาดมากกว่าเงินตรามากมายนัก ไม่ใช่ว่าเอะอะอะไรก็กล่องขนมลูกเดียว 3. The Shawshank Redemtion (1994) เรื่องราวของแอนดี ดรูเฟรน ที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตข้อหาฆ่าเมียตัวเองทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำ เขาจึงวางแผนแหกคุกแบบนิ่มๆซึ่งใช้เวลาทั้งหมด 19 ปีกว่าจะออกมาจากคุกทางท่อระบายของเสีย หนังให้กำลังใจมากสำหรับนักโทษที่ถูกคุมขัง หรือผู้ที่กำลังจะติดคุก (ทั้งที่ถูกขังด้วยกาย หรือใจก็ดี) 4. Dead Man Walking (1995) อันนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักโทษประหารที่กำลังรอเดินไปสู่ห้องประหารชีวิต และได้เรียนรู้ที่จะยอมรับความผิดในสิ่งที่ตนเองทำลงไป เรียกว่าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา 5. The Rock (1996) หนังแหกคุกอัลคาทราซที่ พระเอกต้องนำนักโทษแหกคุกเพียงหนึ่งเดียวของอัลคาทราซไปปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกอดีตนายทหารจับเอาไว้ต่อรองให้ปล่อยลูกน้องของตนและมีอาวุธเคมีร้ายแรงในครอบครอง หนังแสดงให้เห็นว่าขนาดอัลคาทราซยังแหกเข้าแหกออกได้ง่ายซะขนาดนั้น ก็น่าจะเป็นกำลังใจให้ได้ไม่น้อยในระหว่างที่ท่านใช้ชีวิตอยู่ในคุก 6. The Devil’s Advocate (1997) จริงๆอันนี้ทนายทักษิณควรได้ดูก่อนไปติดสินบนนะ แต่ก็สายไปแล้วล่ะ หนังเล่าเรื่องของทนายหนุ่ม(คีนู รีฟ) ที่ถูกเจ้านาย (อัล ปาชิโน) ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของสำนักกฏหมายและซาตานจำแลงครอบงำ ให้เอาชนะคดีอย่างผิดกฏหมาย ด้วยการติดสินบน เอ๊ยไม่ใช่ ขอโทษเอาของจริงไปปน (หรือว่าใช่หว่า) ในที่สุดเขาก็เลยต้องสังเวยวิญญาณของตัวเองให้ซาตานซะงั้น 7. ขังแปด (2002) เป็นหนังชูใจชายฉกรรจ์ที่ต้องไปอยู่ในคุก หนังสร้างขึ้นเพื่อเตือนใจให้รู้ว่านักโทษสาวๆนั้นเซ็กซี่ขนาดไหน เอ้อโทษทีลืมไป เขาแบ่งชายหญิงนี่หว่า 8. นช.นักโทษชาย (2002) เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ต้องติดคุกเพราะอุบัติเหตุที่ไม่ได้ตั้งใจ (แต่ไม่ใช่เรื่องที่ดิน) ทำให้เศรษฐีคนหนึ่งต้องตายลง (ลองขับรถชนคนจนสิรับรองโอกาสรอดคุกสูง) ผู้คุมนักโทษเตือนให้เขาไม่ให้เชื่อเรื่องราวต่างๆ ที่นักโทษเล่าเด็ดขาด เพราะนักโทษทุกคน จะพูดเหมือนกันหมด คือพวกมัน "ไม่ผิด" และต้องระวังมากๆเวลาจะก้มเก็บสบู่ในห้องอาบน้ำรวม 9. Carandiru (2003) เป็นหนังคุกของอาร์เจนติน่า ที่จำลองภาพให้เห็นว่าเมื่อกลุ่มนายทุนขายทุกอย่างให้ต่างชาติไปแล้ว คุกของไทยก็จะเหมือนคุก Carandiru ของอาร์เจนติน่านี่แหละ เพราะเถื่อนสุดๆ ชนิดที่ไม่ต้องก้มเก็บสบู่ก็เสียประตู(หลัง)ได้ทันที หนังเล่าเหตุการณ์ปราบจลาจลในคุกที่มีนักโทษตายเพราะการใช้ความรุนแรงสิริรวมแล้ว 111 คนไม่ขาดไม่เกิน เอ้อโดยกำลังตำรวจเหมือนเช่นเคย หนังน่าจะเหมาะกับเหล่านักการเมืองขายชาติด้วยเพราะถ้าเมืองไทยเป็นแบบอาร์เจนติน่าเมื่อไหร่ เราจะเอานักการเมืองไปขังคุกให้หมด เพราะคงไม่มีอะไรจะทรมานไปกว่าการต้องระวังหลังตลอดเวลาอีกแล้ว 10. Prison break เป็นซีรี่ส์หนังอเมริกันที่เกี่ยวกับการแหกคุกที่ซับซ้อนน่าทึ่งของวิศวกรหนุ่มสมองเพชร จนออกจะงงและเลอะเทอะในซีซั่นหลังๆ แต่ก็ยังน่าดูอยู่เพราะไล่ล่ากันมันหยด ท่านทักษิณควรเอาไว้ดูเผื่อการวางแผนที่ซับซ้อนในการแหกคุก ที่ไม่แนะนำหนังประเภท Court room drama เพราะท่านไม่ยอมมาขึ้นศาลเลยคิดว่าคงไม่มีอารมณ์ร่วมไปด้วย แต่ถ้าท่านกลับมายิ่งใหญ่ได้เมื่อไหร่ผมจะหา Eagle Eye มาดูเพื่อใช้เป็นแนวทางในการหลบหนีอำนาจมืดและจะไปไล่ตามดูหนังที่แนะนำท่านมาทั้งหมดเผื่อจะต้องระวังหลังตอนเก็บสบู่บ้าง ส่วนเพื่อนๆคนไหนมีหนังแนะนำให้อดีตท่านผู้นำดูก็มาแชร์กันได้ครับ แต่ถ้าวันหนึ่งข้างหน้าเราต้องมานั่งดู Eagle Eye ด้วยกันหรือเปล่าอันนี้ไม่รับประกัน ขอบคุณ    oknaion....

Advertisement