ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ |
เจ้าของโพสต์นี้ ธีระ พึ่งนิล จากจังหวัด ลำปาง |
|
ชีวิตครูของผม ตอน เมื่อผมเข้าคุก |
โพสต์เมื่อวันที่ : 14 ต.ค. 2551 IP : เปิดอ่าน : 6410 ครั้ง คะแนนของ BLOG นี้ (80.00%-18 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย > |
|
|
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย
|
|
Advertisement
|
อันนี้เป็นประสบการณ์ของผมอีกแบบหนึ่งเลยนะครับ .....
อันนี้อย่าเข้าใจผิดว่าผมต้องไปติดคุกนะครับ เรื่องมีอยู่ว่าระหว่างที่ผมเรียนศึกษาศาสตร์ มสธ.นั้น ก็อยากจะหาประสบการณ์การสอน จึงอาสาเข้าไปสอนในเรือนจำ อยากทราบถึงวีการสอนเป็นอย่างไร ก็ทำหนังสือถึง ผบ.เรือนจำ และ หน.ต้นสังกัด ซึ่งท่านก็กรุณาให้ไปสอนได้ ก็การสอนวันแรก ต้องผ่านประตูคุกเพื่อตรวจสอบสิ่งของต้องห้ามก่อน สิ่งที่ห้ามนำเข้าไปคือกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ ที่ต้องเก็บไว้ในช่องเก็บของที่ทางเรือนจำกำหนดให้ จากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายศึกษาของเรือนจำมารับเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง เพื่อจะไปรอนักเรียนที่ห้องรับรอง ขอบอกว่า กำหนดสอนเวลา 13.00 น. แต่สอนจริง ๆ อาจจะเริ่มเมื่อ 13.15 น. เพราะทางฝ่ายศึกษาจะต้องเบิกตัวผู้ต้องขังที่เป็นนักเรียนออกมาจากส่วนที่เรียกว่าเรือนนอนก่อน กว่าจะตรวจสอบ กว่าจะมาถึงห้องเรียนก็กินเวลาพอสมควร เวลาเลิก เราต้องเลิกก่อน เพราะผู้ต้องขังต้องอาบน้ำเตรียมกินข้าว ตั้งแต่ 15.00 น. อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องวางแผนการสอนให้พอดีเวลาในคราวต่อไป การสอนนั้นจะแยกผู้ต้องขังชายและหญิงออกต่างหาก ผู้ต้องขังหญิงก็จะเรียนอีกอาคารหนึ่ง แต่ใช้ห้องสมุดร่วมกัน เวลาใช้ห้องสมุดก็จะแยกกันเป็นเวลา เวลาที่ผู้ต้องขังหญิงยืมหนังสือ ก็จะมีเจ้าหน้าที่คุมแถวมายืมหนังสือ ซึ่งก็จะเป็นอาหารตาสำหรับลูกศิษย์ผมในช่วง 1 นาที บางคนก็เป็นสามีภรรยากัน แต่มาติดคุกเรือนจำเดียวกัน ก็จะมีโอกาสเห็นตอนมายืมหนังสือ แต่คุยกันไม่ได้ แต่เรือนจำก็ไม่ใจร้ายหรอกนะ เค้าจะจัดให้มีโอกาสพบกันสัปดาห์ละครั้ง โดยจัดพบกันที่ห้องเรียนสำหรับคนที่เป็นสามีภรรยากัน โดยให้นั่งคุยกันได้ 30 นาที แต่ห้ามจับมือถือแขน หรือทำอะไรที่เลยกว่านี้ ให้คุยกันได้ โดยมีผู้คุมเป็นผู้กำกับดูแล ผมก็ว่าวีธีนี้ก็ดีนะ ตอนเรียนก็มีโอกาสได้สอนเพื่อนผมที่ติดคุกด้วย แต่ถึงจะเป็นเพื่อนแต่เมื่ออยู่ข้างใน การปฏิบัติตัวก็ต้องทำตามระเบียบ คือเค้าจะมาคุยกับเราตามลำพังไม่ได้ และจะเรียกเราอย่างเพื่อนสนิทไม่ได้ ต้องใช้คำว่าครู แต่เราก็จะพูดกับเพื่อนตามปกติและให้กำลังใจเพื่อนก่อนกลับทุกครั้ง การเรียนการสอน ก็จะเน้นในระบบครูเป็นศูนย์กลาง แต่ก็สามารถให้ผู้ต้องขังฝึกปฏิบัติได้ โดยระหว่างที่สอนจะมีพัศดี มานั่งอยู่หลังห้อง และเวลานักเรียนยกมือถาม และเราจะต้องเดินไปหานักเรียน ผู้คุมก็จะเดินมาใกล้ ๆ กับเรา ทั้งนี้อาจจะเป็นเพื่อความปลอดภัยของเราก็ได้ อันนี้ถือว่าเป็นระเบียบ สำหรับการบ้านเราก็จะพยายามให้ฝึกปฏิบัติในห้องให้เสร็จเลย และตรวจให้เสร็จ เพราะผู้ต้องขังจะต้องเข้านอนเป็นเวลา และขึ้นเรือนนอนเป็นเวลา เอกสารหรือตำราบางอย่าง นำไปได้ แต่อาจจะถูกจำกัดในเวลาอ่าน มีการสอบและการประเมินผลเหมือนนักเรียนข้างนอก แต่ต่างกันตรงที่ระเบียบวินัย นักเรียนของเราในเรือนจำนั้นอยากเรียนหรือไม่อยากเรียน ก็ต้องฟังเราสอน จะคุยกันหรือทำอะไรเหมือนนักเรียนข้างนอกจะยาก มีคุยกันเป็นส่วนน้อย ถ้าไม่สนใจ ผู้คุมก็จะมาสะกิดว่าฟังครูสอน แต่จากการที่คุยแล้ว ส่วนใหญ่เมื่อไปอยู่ในเรือนจำ ก็เริ่มมีเวลาคิดทบทวนในสิ่งที่กระทำไป หลายคนบอกว่าจะกลับเนื้อกลับตัว ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งเราก็ให้กำลังใจเค้าเสมอ และในเรือนจำก็จะมีห้องสมุดให้ผู้ต้องขังสามารถยืมหนังสือไปอ่านได้ ระบบก็เหมือนกับห้องสมุดข้างนอก เจ้าหน้าที่ก็จัดจากผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดี และมีการเรียนการสอนทุกอย่างในนั้น รวมถึงวิชาคอมพิวเตอร์และวิชานวดแผนไทย มีการให้ผุ้ต้องขังมาฝึกนวดโดยเปิดบริการให้กับบุคคลภายนอกด้วย วิทยากรก็จะมาจากภายนอกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผู้ต้องขังหลายคนพยายามที่จะเรียนให้มาก ๆ เพราะผลจากการเรียนมาก ก็มีสิทธิ์ที่จะนำใบประกาศนียบัตร ไปใช้ในการประกอบการลดหย่อนโทษได้ แถมวิชาที่ผมได้เห็นก็มีวิชาที่น่าสนใจแยะ มีแม้กระทั่งฝึกเป็นนักจัดรายการวิทยุ ผมเคยถามที่แรงงานจังหวัดว่า ห้างร้านทั่วไป มีการรับผู้ต้องขังทำงานหรือไม่หลังพ้นโทษ ก็ทราบว่าปัจจุบันได้เปลี่ยนไปจากเดิม คือร้านค้าต่าง ๆ ก็รับเข้าทำงาน ซึ่งผิดจากแต่ก่อน พอทราบว่าเคยติดคุกมาแล้ว โอกาสที่จะได้ทำงานนั้นยาก ส่งผลให้ผู้ที่พ้นโทษออกไปต้องก่อคดีและกลับเข้ามาอีกลูกศิษย์ผมหลายคนก็เรียนต่อจนจบระดับปริญญา ผู้ต้องขังที่เป็นลูกศิษย์ผม เรียนจนจบ มสธ.ในคุกก็หลายคน หลายคนก็เริ่มที่จะเรียนต่อ บางคนก็ได้ทำงาน เวลาผมไปธุระพบพวกเค้า พวกเค้าก็มาทักทายเรา ซึ่งผมก็ดีใจมากที่เห็นลูกศิษย์ผมได้ทำงาน กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การสอนของผมที่อยากนำมาเล่าให้ท่านได้อ่านกันครับ ต้องขอขอบคุณทางเรือนจำที่ได้เปิดโอกาสให้ผมได้เข้าไปสอน และได้รับรู้ความจริงว่า ปัจจุบันเรือนจำได้มีการพัฒนามาก และเน้นที่จะคืนคนดีสู่สังคม อันนี้ไม่ได้สนับสนุนให้ใครเข้าไปในคุกหรอกนะครับ แต่เล่าถึงการพัฒนาของเรือนจำในการปฏิบัติกับผู้ต้องขัง
Advertisement
|