หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
รัชนี คุณานุวัฒน์
จากจังหวัด ยโสธร

วิถีทางธรรมะ..สู่วิทยฐานะ
โพสต์เมื่อวันที่ : 13 ต.ค. 2551 IP : เปิดอ่าน : 6402 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
(93.33%-51 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย >  
  Share on Google+   LINE it!  
เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย

Advertisement

ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ด้วยเมตตาจิต ปรารถนาดีต่อผู้ถูกตักเตือน ทั้งกาย วาจา ใจ และผู้ถูกตักเตือนก็ต้องมีใจกว้าง มองเห็นความปรารถนาดีของผู้ตักเตือน

.....

 

***...เพิ่งผ่านพ้นไปสำหรับประเพณีทำบุญกลางปี สารทไทย วันที่มี ความหมาย

ความสำคัญซึ่งไม่เพียงการทำบุญสร้างกุศลก่อเกิดความเป็นสิริมงคลแล้ว ประเพณีนี้

ยังถ่ายทอด วิถีวัฒนธรรม  ความร่วมมือร่วมใจ ในการสืบสานรักษางานบุญประเพณี

               ออกพรรษา อีกวันสำคัญทางพุทธศาสนาที่ใกล้จะมาถึงในโอกาสนี้ จึงขอนำ

บทความส่วนหนึ่งที่ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม

รวบรวมเผยแพร่ ไว้ มาบอกเล่า             วันออกพรรษา    หมายถึง   วันครบกำหนด

ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบัญญัติเป็นวินัยให้พระภิกษุสงฆ์ อยู่จำพรรษาประจำที่

หรือในวัดแห่งเดียว  ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน โดย เริ่มตั้งแต่ วันแรม 1 ค่ำ  เดือน 8

วันเข้าพรรษา       และสิ้นสุดในวัน ขึ้น 15 เดือน 11 คือ   วันออกพรรษา

              ในวันนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วันปวารณา หรือวันมหาปวารณา เปิดโอกาสให้

เพื่อนพระภิกษุ ว่ากล่าวตักเตือนกันได้  ด้วยเมตตาจิต  ปรารถนาดี  ต่อผู้ถูกตักเตือน

ทั้งกาย วาจา ใจ และผู้ถูกตักเตือนก็ต้องมีใจกว้าง มองเห็นความปรารถนาดีของผู้ตักเตือน

ซึ่งหากเป็นจริงตามคำกล่าว ก็ปรับปรุงตัวใหม่  แต่ถ้าไม่จริงก็สามารถชี้แจงแสดงเหตุผล

ให้กระจ่าง ฟังเพื่อแก้ไขจึงจะได้ประโยชน์   และตรงกับความมุ่งหมายของการปวารณา

ที่จะสร้างความสามัคคี   การดำรงความบริสุทธิ์หมดจด

            จากแนวทางปฏิบัติของสงฆ์ สู่การดำเนินชีวิตของพุทธศาสนิกชนได้ โดย

ฆราวาส หรือพุทธศาสนิกชนนั้น สามารถนำหลักการปวารณา ในวันออกพรรษานี้

มา ประยุกต์ใช้ ในการดำเนินชีวิตทั้งในครอบครัว  สถานศึกษา  สถานที่ทำงาน  โดยการ

เปิดโอกาส และเปิดใจ ให้มีการตักเตือนซึ่งกันและกัน ด้วยเมตตาจิตเป็นที่ตั้ง  ซึ่งถ้าหาก

จะติก็ติด้วยความหวังดี  มิใช่ทำลายอีกฝ่าย  ส่วนผู้ถูกติก็ควรรับฟังด้วยดี  และมองเห็น

ความหวังดีของผู้ว่ากล่าว หากจริงก็แก้ไข  ไม่จริงก็ปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน

เช่นนี้ย่อมทำให้สังคมเกิดความสงบสุข สามารถแก้ไขปัญหา และพร้อมที่จะพัฒนา

ด้วยกันทุกฝ่าย........................

***จากบทความ คงพอเป็นแนวทางที่จะนำ  วิถีธรรม   นี้ สู่การประยุกต์ กับ

วิถีการดำเนินชีวิตของคุณครูหลายๆท่าน  ด้วยความสำเร็จแห่งปรารถนาในทุกๆเรื่อง

ธรรมะจรรโลงโลก  จรรโลงใจ  ผู้ใดใช้ ผู้นั้นได้รับ  สิ่งดีทุกคนย่อมปรารถนาให้เกิด

กับตัวเอง การยอมรับ การรู้แก้ไขปรับปรุง เป็นการนำไปสู่ การพัฒนาแห่งความสำเร็จ

คนเราทุกคน  ถ้าทำตัวเป็นแก้วน้ำที่พร่อง  รอที่จะรองรับสิ่งดีๆให้แก่ตัวเองเพื่อเติมเต็ม

นั่นคือสิ่งที่เป็นโอกาสของการแก้ไข ปรับปรุง เพื่อพัฒนาตัวเองด้วย.....แล้วความสงบ

ความมีสติ ความสุข ความสำเร็จ ก็จะบังเกิดแก่ทุกๆท่าน...อุปสรรคใดๆก็จะลดน้อยลง

ฝากคุณครูทุกท่านด้วยความรัก  โดยเฉพาะท่านที่กำลังทำผลงานวิชาการ ส่ง

 เพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะ.........ขอให้คุณครูทุกท่านจงโชคดี.....

มีวิถีธรรมสู่ความสำเร็จสุขของชีวิต..../

                                                                                                   ของฝาก จากครูรัชนี   คุณานุวัฒน์

  e-mail  ratchaneekuna@hotmail.com 

 โทร.  085 - 4968429

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง วิถีทางธรรมะ..สู่วิทยฐานะ
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

รัชนี คุณานุวัฒน์
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
รัชนี คุณานุวัฒน์..