หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
ประวิช สินธุศิริ
จากจังหวัด กาฬสินธุ์

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
โพสต์เมื่อวันที่ : 27 ก.ย. 2551 IP : เปิดอ่าน : 6414 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
(50.00%-10 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย >  
  Share on Google+   LINE it!  
เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย

Advertisement

รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่อง เงื่อนเชือก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนหนองโพนวิทยายน

.....

ชื่อเรื่อง  รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกันเรียนรู้
เรื่อง  เงื่อนเชือก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  โรงเรียนหนองโพนวิทยายน
ชื่อผู้รายงาน        นายประวิช  สินธุศิริ
โรงเรียน หนองโพนวิทยายน
ปีที่พิมพ์ 2550
บทคัดย่อ

 การจัดการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เป็นการพัฒนานักเรียน
ในด้านวิชาการ เป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญ รวมทั้งเป็นการเสริมทักษะ
สังคมให้กับนักเรียน โดยให้นักเรียนในแต่ละกลุ่มย่อยลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามแบบฝึกทักษะ
ร่วมกันจนประสบผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมายของการเรียนทุกคน  ซึ่งมีความสอดคล้องกับการแบ่ง
หมู่ของกิจกรรมลูกเสือสามัญ การรายงานในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1)ศึกษาการใช้แบบฝึกทักษะ
ลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่อง เงื่อนเชือก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพ
ตามเกณฑ์80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกัน
เรียนรู้ เรื่อง เงื่อนเชือก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ
นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกันเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียน
4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมโดยใช้
แบบฝึกทักษะลูกเสือแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่อง เงื่อนเชือก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการรายงานเป็นลูกเสือ
สามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2549 โรงเรียนหนองโพนวิทยายน อำเภอเมือง
กาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1  จำนวน  2 หมู่
เป็นลูกเสือสามัญ จำนวน 16  คน โดยการเลือกอย่างเจาะจง ( Purposive Sampling)  เครื่องมือที่ใช้
ในการรายงานครั้งนี้ประกอบด้วย แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญโดยใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือ
แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  เรื่อง เงื่อนเชือก  จำนวน 10 แผน  แบบฝึกทักษะ
ลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง เงื่อนเชือก จำนวน 10  เล่ม
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6 เรื่องเงื่อนเชือก เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ
แบบสอบถามความพึงพอใจของลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมลูกเสือ
โดยใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่อง เงื่อนเชือก เป็นแบบสอบถามชนิด
มาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน  20 ข้อ

 

 ผลการรายงานปรากฏดังนี้
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะลูกเสือแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 
เรื่อง  เงื่อนเชือก มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 85.66/84.38
                2.  ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะลูกเสือแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6  เรื่อง  เงื่อนเชือก มีค่าเท่ากับ 0.691 แสดงว่าลูกเสือสามัญมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็น
ร้อยละ 69.10
               3.  นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะลูกเสือแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
เรื่อง  เงื่อนเชือก มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
                4. ความพึงพอใจของลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  เรื่อง  เงื่อนเชือก โดยรวมมีระดับ
ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
 โดยสรุป  การจัดกิจกรรมลูกเสือโดยใช้แบบฝึกทักษะลูกเสือสามัญแบบร่วมมือกันเรียนรู้
เรื่อง เงื่อนเชือก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  ที่พัฒนาขึ้นในครั้งนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
สามารถนำมาใช้เป็นสื่อเพื่อแก้ปัญหาในการเรียนการสอนเกี่ยวกับทักษะการผูกเงื่อนเชือกได้และ
การเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เป็นเทคนิคที่เหมาะสมในการจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญ ทำให้ผู้เรียน
เกิดการเรียนรู้ได้ดี การซักถามทำให้เกิดความกล้า และได้ทราบคำตอบในเรื่องที่ตนสนใจหรือไม่
กระจ่าง การอธิบายให้เพื่อนฟังจะทำให้ผู้อธิบายมีความแม่นยำในเรื่องที่เรียนมากขึ้น เพื่อน ๆที่ฟัง
เกิดความเข้าใจแจ่มแจ้ง ผู้เรียนได้พัฒนาการทำงานเป็นกลุ่มให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คนอ่อนได้
เรียนรู้จากคนเก่งกว่าซึ่งมีความตั้งใจช่วยเหลือเพื่อน ๆเพื่อยกระดับผลงานของกลุ่มให้สูงขึ้นซึ่ง
ส่งผลต่อสมาชิกในกลุ่ม ดังนั้นครู ควรมีการพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึก
ทักษะประกอบการจัดกิจกรรมในกลุ่มสาระอื่น ๆเพื่อให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น
และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป

 

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

ประวิช สินธุศิริ
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
ประวิช สินธุศิริ..