หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
กุลชดาภา ตนะทิพย์
จากจังหวัด

สุขภาพ
โพสต์เมื่อวันที่ : 16 ก.ย. 2551 IP : เปิดอ่าน : 6383 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
-ไม่มีผลโหวต-
☰แชร์เลย >  
  Share on Google+   LINE it!  
เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย

Advertisement

ถ้าอยากสุขภาพดีจะต้องขยันออกกำลังกาย ดื่มน้ำมากๆเท่านี้ก็สุขภาพดีได้ ไม่ยาก

.....

สำหรับผู้รักสุขภาพทุกท่าน

ภัยร้ายมันฝรั่งทอด
มันฝรั่งทอด คุกกี้กรอบๆ หรือขนมสำเร็จรูปในถุงสวยๆ ทั้งหลาย
ไม่ได้ทำให้อ้วนหากออกกำลังกายสม่ำเสมอ
และควบคุมปริมาณอาหารที่กินในแต่ละวัน
แต่อาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยไขมันชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ทำให้มีโอกาสเป็นโรคหัวใจและโรคมะเร็งมากขึ้น...
ที่มา : Are You Getting Enough Fat?"
By Colleen Pierre, R.D. Reader's Digest, 2001




ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิด ทำให้กระดูกบางลงได้
นำไปสู่ปัญหากระดูกพรุน
เมื่อแก่ตัวลง ดังนั้นหากจำเป็นต้องกินหรือฉีดยาเหล่านี้
ก็อย่าลืมหมั่นกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง
เช่น ผักใบเขียวเข้ม ปลาเล็กปลาน้อย ฯลฯ
หรือทานแคลเซียมเสริมไว้ด้วย...
ที่มา : Canadian Medical Association Journal, October 2001




ผู้หญิงชอบดื่มพึงระวัง
คุณผู้หญิงที่ชอบดื่มพึงระวังเพราะร่างกายคุณ
จะซึมซับแอลกอออล์ได้เร็วกว่าผู้ชาย ( เมาเร็วกว่า)
แล้วคุณยังมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม
ได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ดื่มถึง 50%
แถมยังกระดูกเปราะกว่ากันมาก
เพราะเหล้าจะเข้าไปทำลายเนื้อกระดูก( bone mass) ของคุณ...
ที่มา : Rethinking Drinking" Reader's Digest, December 2001




นั่งรถตรงไหนปลอดภัยที่สุด
นั่งรถเก๋งที่เบาะหลังตรงกลางปลอดภัยที่สุด
รองลงมาคือ ที่นั่งด้านหลังทางซ้าย ( หลังคนนั่งข้างคนขับ)
เพราะตามสถิติอุบัติเหตุจะเกิดทางด้านหน้า และ ด้านคนขับมากกว่า
และหากมีคนนั่งรถไปกับคุณด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
จะลด อันตรายจากอุบัติเหตุการชนด้านหน้ารถลงไปด้วย...
ที่มา : The Seattle Times, November 11, 2001
(ข้อมูลจาก
http://www.thaihealth.or.th/th/index_th.php )




ทานกะหล่ำปลีดิบมีพิษนะ
ในกะหล่ำปลีดิบจะมีสารพิษที่เรียกว่า กอยโตรเจน (Goibrogen)
ซึ่งเป็นสารที่จะไปกันไม่ให้ต่อมไทรอยด์จับไอโอดีน
ไปสร้างเป็น ฮอร์โมนไทร๊อกซิน ( Thyroscine) ได้
ซึ่งผลที่เกิดขึ้นคือ จะทำให้เกิดเป็นโรคคอหอยพอก
แต่สารพิษเหล่านี้จะถูกทำลายได้ โดยการต้ม
จึงควรรับประทานกะหล่ำปลีสุก
จะดีกว่ากะหล่ำปลีดิบ




ถั่วงอกดิบมีโทษครับ
ในผักสดบางชนิดมีสารพิษที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ในถั่วงอก
มีสารพิษพวกที่เรียกว่าไฟเตต ซึ่งเมื่อกินเข้าไปจะ
ไปจับแร่ธาตุบางชนิดที่อยู่ในอาหาร
ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแร่ธาตุเหล่านั้นเข้าร่างกาย
ร่างกายจะเป็นโรคขาดแร่ธาตุ
สารพิษเหล่านี้สามารถทำลายได้โดยการต้ม
จึงควรรับประทานถั่วงอกสุขดีกว่าถั่วงอกดิบ




วิธีป้องกันตะคริว
ตะคริวเกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่
การดื่มน้ำและ รับประทานผลไม้สดมากๆ
จึงช่วยลดการเป็นตะคริวได้...
ที่มา : Health& Fitness Column, Detroit News,
August 22, 2001




อดนอนบ่อยๆ ระวังเป็นเบาหวาน
ร่างกายที่ไม่ได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม
จะใช้อินซูลินได้น้อยลง
คนอดนอนบ่อยๆ จึงมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานสูงกว่าปกติ...
ที่มา : The Seattle Times, July 22, 2001




ตรวจฉี่ด้วยตัวเอง
ร่างกายแต่ละคนต้องการน้ำไม่เท่ากัน
แพทย์แนะนำว่าควรดื่มมาก พอที่จะถ่ายปัสสาวะได้ทุกๆ 3-4 ชั่วโมง
หากปัสสาวะคุณเป็นสีเหลือง เข้มกว่าปกติ แสดงว่าคุณกำลังขาดน้ำ...
ที่มา : Health & Fitness Column, Detroit News, August 22, 2001




เนยแท้ vs เนยเทียม
เนยแท้ๆ ที่ทำมาจากนม อร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายกว่าเนยเทียม
หรือมาร์การีนซึ่งไม่มีประโยชน์เลยแถมเป็นพิษต่อร่างกายอีกต่างหาก
แต่ไม่ควรจะบริโภคเนยให้มากนักเพราะมากไป
ก็ทำให้เป็นโรคหัวใจ และความดันได้ง่าย...





วิธีชะลอความแก่ 7 ประการ
เรื่องความชราที่มาเยือนนั้นเป็นไปตามวัยก็จริง
แต่หนุ่มสาวสมัยนี้กลับ "แก่ก่อนวัย"
ถึงเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า "ทุกอย่างนั้นอยู่ที่ใจ"
เคล็ดลับเหล่านี้ได้จาก น.พ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์
สูตินารีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
๑.ต้องไม่อยากแก่...
ต้องตั้งใจคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวเอาไว้
และต้องปฏิบัติควบคู่ไปทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ
๒.มีใจเป็นหนุ่มสาว..
คือ รักอิสระ มองโลกในแง่ดีและที่สำคัญมีความหวังเสมอ
หรือการคบเพื่อนที่อายุน้อยกว่าก็เป็นวิธีการที่ดี
๓.ลดความเครียด..
เลิกเอาคิ้วผูกโบได้แล้ว ลองยิ้มให้มากขึ้น
ถ้าไม่รู้จะยิ้มอย่างไรก็ลองยิ้มกับกระจกเงาที่บ้านดูสิ
๔.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ..
ออกกำลังการอย่างน้อย 15 นาทีจะดี
๕.กินอาหารต้านชรา..
พยายามเลือกอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย
เช่น พืชผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
๖.นอนหลับเพียงพอ..
เราควรจะนอนให้เพียงพอกับร่างกาย
ที่ดีที่สุดควรนอนก่อนสี่ทุ่มจะดีที่สุด
๗.ความรัก..
ความรักเท่านั้นที่จะช่วยให้คนสดชื่น กระชุ่มกระชวย
ทั้งความรักของคนหรือสัตว์ ก็จะช่วยให้เราหัวใจเบิกบาน




ขนมเด็กเคลือบยาพิษ Safe Stamp ระวัง !
อันตรายจากอาหารขบเคี้ยว ข้อมูลจากการสำรวจ
ของราชพฤกษ์โพล
คณะสาธารณะสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ซึ่งเก็บตัวอย่างจากขนมหลายประเภท
จากโรงเรียนอนุบาลและประถมศึกษา จำนวน 40 โรงเรียน
ในพื้นที่ 17 เขตของกรุงเทพมหานคร
พบว่าภัยร้ายที่แฝงอยู่ในขนมเด็ก
โดยเฉพาะสารตะกั่วซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย
ขณะเดียวกันก็ยังพบสารอันตรายอื่นๆ
โดยเฉพาะเกลือโซเดียมในปริมาณมากน้อยต่างกันไป
ซึ่งหากบริโภค มากจนตกค้างสะสมในร่างกาย
อาจมีผลให้เส้นเลือดในสมองโป่งพองได้
10 อันดับขนมขบเคี้ยวประเภทข้าว แป้ง
ที่พบปริมาณโซเดียมสูงสุดดังนี้
1. ข้าวเกรียบปลาหมึก ตราอาริงาโตป้ง
2. ขนมทอดกรอบตราปูไทย ซองส้มเข้มป้ง
3. ข้าวเกรียบทอด ตราเอสบี รสพริกหยวกี่
4. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราฮานามิ รสเม็กซิกันชิลลี่ษ
5. แป้งมันฝรั่งทอดกรอบ ตราโรลเลอร์ โคสเตอร์
รสหัวหอมทรงเครื่อง
6. แป้งข้าวโพดอบกรอบ ตราโจโต้ รสปลาหมึก
7. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราคาลบี้ รสต้มยำรสแซบ
8. ข้าวเกรียบปลา ตรามโนห์รา
9. ข้าวเกรียบกุ้ง ตรามโนห์รา
10. ข้าวเกรียบรสมะเขือเทศ




โทษของน้ำต้มเดือดหลายๆ ครั้ง
น้ำประปามีแร่ธาตุหลายชนิด
เมื่อต้มเดือดแล้วเดือดอีกหลายๆ ครั้ง
น้ำจำนวนมากจะระเหยกลายเป็นไอ ส่วนที่เหลือ
จึงมีปริมาณแร่ธาตุ ชนิดต่างๆ เข้มข้นขึ้นมาก
และเกินมาตรฐานการบริโภค น้ำที่ต้มเดือดนานๆ
ไอออนของซิลเวอร์ไนเตรทที่อยู่ในน้ำ
จะเปลี่ยนเป็นซิลเวอร์ไนไตรท์
ซึ่งเป็นสารที่ให้โทษแก่ร่างกาย
และแร่ธาตุบางอย่างที่เป็นโทษต่อร่างกาย
จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเพราะการระเหยของน้ำ
และอาจมากจนเกินขีดจำกัด ความสามารถของร่างกาย
ในการกำจัดขับถ่ายออกมา
จึงไม่ควรดื่มน้ำที่ ต้มเดือดแล้วหลาย ๆ ครั้ง ครับ




อาหารต้านมะเร็ง 5 ประการเพื่อการป้องกัน
1. รับประทานผักตระกูลกะหล่ำให้มาก
เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ผักคะน้า หัวผักกาด บรอคโคลี่ ฯลฯ
เพื่อป้องกัน โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลำไส้ส่วนปลาย
กระเพาะอาหาร และอวัยวะระบบทางเดินหายใจ
2. รับประทานอาหารที่มีกากมาก
เช่น ผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด และเมล็ดธัญพืชอื่น ๆ
เพื่อป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
3. รับประทานอาหารที่มีเบต้าแคโรทีน และไวตามินเอสูง
เช่น ผัก ผลไม้สีเขียว-เหลือง
เพื่อป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร กล่องเสียง และปอดำ
4. รับประทานอาหารที่มีไวตามินซีสูงเช่น ผัก ผลไม้ต่างๆ
เพื่อป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร และกระเพาะอาหาร
5. ควบคุมน้ำหนักตัว..โรคอ้วนมีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็ง
เช่น มดลูก ถุงน้ำดี เต้านม และลำไส้ใหญ่




ผลกระทบของการอดนอน
งานวิจัยเชิงทดลอง โดยอาสาสมัครหนุ่มสาว
ทดลองนอนหลับวันละ 4 ชม. เป็นเวลา 6 คืน เมื่อเจาะตัวอย่างเลือด
พบว่า มีปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นและควบคุมยาก
ซึ่งเกือบจะเป็นเหมือนโรคเบาหวาน
นักวิจัยยังพบว่าการอดนอนเป็นสาเหตุของโรคอ้วน
โดยเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเร่งการเติบโต
ซึ่งเป็นฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตทางกายภาพ
และควบคุมสัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อในร่างกาย
การอดนอนทำให้ฮอร์โมนนี้หลั่งน้อยลง
ร่ายกายรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น
นอกจากนี้ยังส่งผลต่อฮอร์โมนเลปติน
ซึ่งเป็นสารที่สื่อต่อระบบประสาท
ว่า ควรจะอิ่มได้เร็วหรือช้าเท่าใด
ตามความต้องการอาหารของร่างกาย
เมื่อระดับเลปตินลดลงจากการนอนน้อย
ผู้คนจะรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น
แม้จะได้กินอาหารจนได้พลังงานเพียงพอแล้วก็ตาม
การนอนไม่พอยังส่งผลต่อเม็ดเลือดขาว
และกลไกการตอบสนองภูมิคุ้มกันต่างๆ ของร่างกาย
ทำให้เจ็บป่วยง่ายเมื่อเจอเชื้อโรค
การนอนไม่พออาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง
มีความเกี่ยวข้องกันในเรื่องวงจรการหลั่งฮอร์โมนแปรปรวน
เนื่องมาจากการอดนอนและ แสงรบกวนในเวลากลางคืน
ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม
ฉะนั้น นอกจากเราควรจะนอนให้เพียงพอแล้ว
เรายังไม่ควรเปิดไฟนอนอีกด้วย





6 อัศวินช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
ร่างกายของคนเราสามารถสร้างคอเลสเตอรอลได้เองอยู่แล้ว
ดังนั้นถ้าเรารับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
ระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด
ก็จะมีสูงขึ้นตามไปด้วย
เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน
และหัวใจวายแน่นอน
อาหารบางอย่างมีคุณสมบัติ
ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลได้ เป็นอย่างดีเยี่ยม
6 อัศวินตัวสำคัญนั้นคือ
1. มะเขือต่างๆ..
2. หอมหัวใหญ่..
3.กระเทียม
4.ถั่วเหลือง..
5. แอปเปิล..
6. โยเกิร์ต
วันใดมื้อใดที่คุณมีเมนูอาหารซึ่งอุดมไปด้วยไขมันมากๆ
ก็ควรรับประทานอัศวินตัวหนึ่งตัวใดเพื่อควบคุมไขมัน.




อาหารอันตรายเมื่อท้องว่าง
คุณทราบไหมว่าเมื่อท้องของคุณว่างแล้วคุณรับประทานอาหารเข้าไป
อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคุณได้ เพราะฉะนั้น
ก่อนที่จะรับประทานอาหาร ควรเลือกชนิดของอาหารเสียก่อน
อาหารที่ไม่ควรรับประทาน ขณะท้องว่างมีชนิดใดบ้าง
มีบางชนิดที่เราแทบไม่เชื่อเลยล่ะ
กล้วย.. เพราะกล้วยอุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม การรับประทานกล้วย
ขณะท้องว่าง จะทำให้ปริมาณธาตุแมกนีเซียมในเลือดสูงขึ้น
ทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมไป เป็นการยับยั้ง
การทำงานของหลอดเลือดหัวใจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างยิ่ง
กระเทียม.. เพราะจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหาร ได้รับการกระตุ้นเกิด
โรคกระเพาะอาหารอักเสบอย่างรุนแรง
ผัก.. การรับประทานผักอย่างเดียวขณะท้องว่าง
จะทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการผิดปรกติ
นอกจากนั้น ยังไม่ควรอาบน้ำ และออกกำลังกายด้วยเช่นกัน
เพราะการอาบน้ำและการออกกำลังกาย ในขณะที่ท้องว่าง
จะทำให้เกิดอาการช็อก เนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย
นมและนมถั่วเหลือง.. แม้ว่านมถั่วเหลืองจะอุดมไปด้วยโปรตีน
แต่จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อกระเพาะอาหาร
มีสารอาหารประเภทแป้งอยู่ด้วย
เหล้า .. หากดื่มเหล้าในขณะท้องว่าง จะไปกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร
ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้
น้ำตาลหรืออาหารหวาน. .. ไม่ควรรับประทานอาหารหวาน
หรือน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ช็อกโกแลต เพราะหากรับประทานขณะท้องว่าง
จะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาลส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิด
และลดสมรรถภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไต
ชา... ที่แก่เกินไป ชาทำให้กรดเกลือในน้ำย่อย
ในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การทำงาน
ของระบบย่อยอาหารลดลง และเกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะ
มือเท้าไม่มีแรง จิตใจไม่สงบ
ลูกพลับ .. ไม่ควรรับประทานลูกพลับในขณะที่ท้องว่าง
เพราะกระเพาะอาหารจะหลั่งกรดเกลือออกมามาก หากไปรวมตัวกับยาง
และสารแขวนลอยในลูกพลับแล้วจะทำให้เจ็บหน้าอก
คลื่นไส้ และเป็นแผลในกระเพาะอาหาร




ไอศกรีม อาหารขยะ
ไอศกรีมบางยี่ห้อ บางผู้ผลิต ใช้ไขมันที่เหลือจากโรงฆ่าสัตว์ แทน
และได้ใส่ส่วนผสมสังเคราะห์ จากสารเคมีต่าง ๆ ดังนี้
1. ไดอิธิลกลูคอล ( diethyl glucol ).. สารเคมีราคาถูก ใช้ตีไขมัน
ให้กระจาย แทนการใช้ ่ไข่ เป็นสารกันเยือกแข็ง ที่ใช้กันน้ำแข็ง
( anti freeze) และผสมในน้ำยากัดสี
2. อัลดีไฮด์ - ซี71 ( aldehyde-C71 ) .. ใช้สร้างกลิ่น เชอร์รี่
ให้ไอศกรีมเป็นของเหลวติดไฟง่าย และยังนำไปใช้ทำสีอะนิลีน พลาสติกและยาง
3. ไปเปอร์โอรัล ( piperoral ).. ใช้แทนวานิลลา เป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าเหาและหมัด
4. อิธิลอะซีเตท ( ethyl acetate ).. ใช้สร้างกลิ่นรสสับปะรด
ใช้เป็นตัวทำความสะอาดหนังและผ้าทอ กลิ่นของสารเคมีตัวนี้
ทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง ตับ และหัวใจผิดปกติ
5. บิวธีรัลดีไฮด์ ( butyraldehyde) ใช้สร้างกลิ่นรสเมล็ดในผล
ไม้เปลือกแข็ง เป็นสารประกอบสำคัญในกาวยาง
6. แอนนิล อะซีเตท( anyle acetate) ใช้สร้างกลิ่นรสกล้วยหอม
เป็นสารทำลายใช้ล้างไขมัน
7. เบนซิล อะซีเตท(benzyle acetate) ใช้สร้างกลิ่นและรสสตรอเบอร์รี่
เป็นสารละลายไนเตรทเวลาเกิดความอยากอยากให้คิดถึงสารเคมีเหล่านี้
ทั้งสารกันเยือกแข็ง ตัวทำละลายน้ำมัน น้ำยาลอกสี ยาฆ่าเหา ยาฆ่าหมัด
บางยี่ห้อมีตัวนั้น บ้างมี ตัวนี้ ไมใช ่ว่าทุกยี่ห้อ จะมีหมด ทุกตัว นะครับ
นอกจากนี้สารที่ใช้ทำความหวานก็คือ แซคคาริน หรือน้ำตาลเทียม
ทั้งมีสารเติมสีเติมกลิ่น ซึ่งเหล่านี้ล้วนพิสูจน์แล้วว่า
มีส่วนสนับสนุนทำให้เกิดมะเร็งได้
ไอศกรีม อาหารขยะ เป็นสาเหตุโรคอาหารเป็นพิษ ถึง 98 เปอร์เซ็นต์
อย่าลืมนะครับ จะซื้ออะไรดูสักนิดเช่น
น้ำมันพืช.. มีสาร กันหืน BTH หรือเปล่า
ซีอิ้ว น้ำปลา แมกก..ี้ มี สารกัน บูด (โซเดียมเบนโซเอท) หรือผงชูรส
( โมโนโซเดียมกลูตาเมท) หรือไม่
ขนมปัง .. ขาวมีสารกันเสีย สารกันบูดไหม
หรืออาหารใดๆ.. ก็แล้วแต่ แวะอ่านดูฉลากสักนิด ว่า มีผงชูรส มีวัตถุกันเสีย
เจือสีสังเคราะห์ แต่งกลิ่น แต่งรส หรือเปล่า แม้ อย.อนุญาตก็ตามเถอะ
ที่มา :
http://www.rapidreply.net/cgi-bin/varpro/vartrack.cgi?t=mysuccess:23





เลือดแต่ละกรุ๊ปกับการเลือกทานอาหาร..
กรุ๊ป A.. คนที่เลือดกรุ๊ป A จะอ่อนไหวต่อโรคมะเร็งมากกว่า หมู่อื่นๆ
ควรลดหรือละเว้น นม.เนื่องจากแอนติเจนที่อยู่ในเซลล์ของเลือดกรุ๊ป A
ควรหันมารับประทานกันเพิ่มขึ้นก็คือ พวกผักใบ เขียว ใบเหลือง
รวมทั้งธัญพืช และถั่วต่างๆ
กรุ๊ป B.. พวกที่อยู่ในกลุ่มเลือดกรุ๊ป B ถือว่าเป็นเลือดที่ถือ
กำเนิดขึ้นมาเป็นอันดับสามของมนุษย์ การดื่มนม
และรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ ทำจากนม โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าท้องไส้
จะปั่นป่วน หรือท้องเฟ้อเรอเหม็น เปรี้ยว อย่างคนกรุ๊ปเลือด A
นอกจากนี้ อาหารพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ ก็ล้วนแต่มีประโยชน์
ต่อร่างกายทั้งนั้นแต่สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง คือ เนื้อไก่
กรุ๊ป O.. ถือว่าเป็นเลือดกรุ๊ปแรกของมนุษย์เราเลยก็ว่า ได้
ดังนั้นคนที่มีเลือดกรุ๊ป O จะมีสุขภาพแข็งแรงดี
เมื่อกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น เป็ด ไก่ และปลา ( ยกเว้นหมู)
แล้วก็ออกกำลังกายหนักๆ เช่นเต้าเอโรบิค.
.คนที่มีเลือดกรุ๊ป O มีแนวโน้มที่ จะเป็นโรคแผลเน่าเปื่อย
หรือเกิดการอักเสบได้ง่ายกว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ปอื่นๆ อีกด้วย
กรุ๊ป AB.. มาถึงเลือดกรุ๊ปสุดท้ายที่เกิดขึ้นในหมู่มนุษย์เรา
คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีเพียงแค่ 2 % เท่านั้นเอง จะมีลักษณะคล้ายๆ
คนเลือดกรุ๊ป B คือ รับประทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้
แต่ก็มีจุดอ่อน คือ ระบบย่อย อาหาร มักจะมีกรดเกิดขึ้นมาก
ในท้องส่วนล่าง หรือลำไส้ใหญ่ ดังนั้นข้อ แนะนำก็คือ
ควรรับประทานเนื้อสัตว์ในปริมาณที่น้อยและอย่าบ่อยนัก
อาจสังเกตุได้ง่ายๆ ถ้ามีอาการผิดปกติ คือ จะเรอบ่อย




รอบเอวมรณะ
ีสิ่งที่พึงตระหนักคือ ผู้ชายไม่ควรให้รอบเอวเกิน 36 นิ้ว
หญิงไม่ควรเกิน 32 นิ้วถ้ามากกว่านี้ต้องเร่งลดน้ำหนัก
เพราะถ้าหากท่านวัดรอบเอวแล้ว
ได้ตัวเลขเกินกว่ามาตราฐานนี้ แสดงว่าท่านกำลังเป็นโรคอ้วน
คนเป็นโรคอ้วนมีความเสี่ยงที่จะต้องพบกับโรคร้ายต่างๆ มากมาย
นับตั้งแต่ โรคหัวใจ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูงอัมพาต
และท่านอาจจะหยุดหายใจขณะหลับ
จนเกิดภาวะพร่องออกซิเจนตื่นนอนจะมีอาการมึน เป็นต้อหินง่าย
เนื่องจากเลือดขาดออกซิเจนเป็นโรคไขข้อ เพราะแบกรับน้ำหนักมาก
เป็นเกาต์ มะเร็ง นิ่วในถุงน้ำดี มีลูกยาก โรคเกี่ยวกับระบบหายใจ
โรคถุงน้ำดี ท่านทราบหรือไม่ว่าคนอ้วน
จะเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานมากกว่าคนน้ำหนักปกติถึง 30 เท่า
เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบกว่าคนทั่วไป 15 เท่า
โรคอัมพาต 11 เท่า โรคมะเร็งลำไส้ 2 เท่า
วิธีรักษาโรคอ้วนสามารถทำได้ด้วยการควบคุมแคลอรี
ของอาหารที่รับประทานคือพยายามให้ลดลงวันละ 600 แคลอรี
ซึ่งภายใน 7 วันจะสามารถลดน้ำหนักได้0.6 กิโลกรัม
เพราะไขมัน 1 กิโลกรัมเท่ากับ 7,000 แคลอรี
ประการที่สำคัญ ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
อย่างน้อย 20 นาทีถ้าออกกำลังกายได้ 60 นาทีจะยิ่งเป็นผลดี








สุราอาจป้องกันโรค
วอชิงตัน ๑๖ พ.ค. - แพทย์สหรัฐ กล่าวว่า การดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์วันละ ๒ แก้ว อาจช่วยป้องกันโรคเบาหวานในกลุ่มผู้หญิงอายุมากได้
และดูเหมือนว่า ไม่ว่าจะเป็นสุราประเภทไหนก็ดื่มได้ดีทั้งนั้น จากการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่ควบคุมอาหารและดื่มสุราในปริมาณที่กำหนด
สามารถควบคุมระดับอินซูลินได้ดีกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ แต่นักวิจัยย้ำว่า ต้องมีการศึกษากันต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า การดื่มเครื่องดื่มอะไรก็ตามสามารถช่วยได้ทั้งนั้น ขอให้มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ใส่เหล้าก็ได้
ชาวอเมริกันราว ๑๕ ล้านคน ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ ๒ ซึ่งจะส่งผลต่อการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย
คนไข้โรคเบาหวานควรระมัดระวังในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วตัวแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดอยู่แล้ว ไมเคิล เดวี่ส์ และเดวิด เบเออร์ ผู้เชี่ยวชาญประจำศูนย์วิจัยด้านโภชนาการ
ของกระทรวงเกษตรสหรัฐ ทำการทดลองในผู้หญิง ๖๓ คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และรายงานผลการศึกษาลงในวารสารสมาคมแพทย์ของสหรัฐ
พบว่า ผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน หากดื่มเหล้าวันละ ๒ แก้ว จะมีสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ดื่ม หรือดื่มแต่น้ำส้มเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้น
จะมีน้ำหนักตัวเท่าไรก็ตามการดื่มสุราเพียงวันละ ๓๐ กรัมช่วยลดระดับอินซูลินที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตามนักวิจัยเตือนว่า
การดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์มากกว่านี้จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ และจะเป็นอันตรายต่อร่างกายด้วย






อาหารเป็นยา
9 ยอดอาหารธรรมชาติที่ช่วยรักษาสุขภาพของท่าน
1. บร็อคโคลี่. แชมเปี้ยนผักในตระกูลกะหล่ำที่เป็นที่นิยมของนักบริโภคทั่วโลก บร็อคโคลี่มีประโยชน์ดังนี้
- ช่วยป้องกันมะเร็ง
- อุดมด้วยวิตามินซี สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ในร่างกาย และยังช่วยให้ผนังเส้นเลือดแข็งแรงอีกด้วยถ
- ประกอบด้วยสาร glutathione ซึ่งช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดไข ถ ข้ออักเสบ เบาหวาน และโรคหัวใจ
และนอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย ลดระดับคลอเลสเตอรอล และช่วยลดความดันโลหิตสูงถ
- ป้องกันการเกิดต้อกระจก เนื่องจากบร็อคโคลี่ จะมีสารเบต้าแคโรทีนสูง โดยเฉพาะสาร lutein ขนาดรับประทาน : บร็อคโคลี่ 1/2 ถ้วย ต่อสัปดาห์
2. กระเทียม.. ช่วยลดคลอเลสเตอรอล มีฤทธิ์คล้ายกับยาแอสไพรินในการช่วยป้องกัน การแข็งตัวและการอุดตันของหลอดเลือด มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้เหมือนกับ
ยาเพ็นนิซิลิน โดยเฉพาะเวลาที่เจ็บคอ สามารถใช้กระเทียมรักษา ได้ดี และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ในการช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ถ และมะเร็งเต้านม
ขนาดรับประทาน : การป้องกันโรคหัวใจรับประทานวันละ 1 กลีบ และโดย ทั่วไปก็แนะนำให้รับประทานกระเทียมเป็นประจำทุกวัน แล้วแต่ปริมาณที่ชอบถ
3.ถั่วแดง เป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของเส้นใยอาหารสูงมาก ดังนั้นจึง ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล ป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดใน สมองแตก และมะเร็งลำไส้ใหญ่
อุดมด้วยกรดโฟลิค ที่ช่วยบำรุง โลหิต ป้องกัน ความผิดปกติของทารกในครรภ์ นอกจากนี้ยังประกอบ ด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ polyphenolics
ที่ช่วยป้องกันการเกิด โรคหัวใจได้ดีอีกด้วย ขนาดรับประทาน : ควรรับประทาน 1 ถ้วย / วัน
4. นมพร่องมันเนย .. เป็นแหล่งของแคลเซี่ยมสูงที่ปลอดไขมัน ซึ่งป้องกันภาวะกระดูกพรุน ถ และยังประกอบด้วยสารโปรตัสเซี่ยมและแมกเนเซี่ยม
ที่ออกฤทธิ์ช่วย ลดความดันโลหิตสูง ขนาดรับประทาน : คนวัยหนุ่มสาวต้องการแคลเซี่ยมวันละ 1000 mg
ส่วนวัยสูงอายุจะต้องการเพิ่มขึ้นเป็น 1500 mg /วัน จึงจะเพียงพอ ปัจจุบันมีนมพร่องมันเนยแคลเซี่ยมสูงจำหน่ายอยู่ทั่วไป เลือกดื่มได้ตาม ปริมาณที่แนะนำถ ถ
5. ส้ม .. ยอดผลไม้ที่มีปริมาณวิตามิน ซี สูง เส้นใยอาหารสูง รวมทั้งสารอาหาร ชนิดอื่นๆ ซึ่งช่วยป้องกันหวัด ลดระดับคลอเลสเตอรอล
ช่วยในการสร้างกระดูก ป้องกันการเกิดนิ่วในไต ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ตลอดจนช่วยฟื้นฟูอาการเจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจ
นอกจากนี้ สาร phytochemicals ในส้มยังช่วยต่อต้านมะเร็งเต้านมด้วยถ ขนาดรับประทาน : ควรรับประทานส้มวันละ 1-2 ผล เป็นประจำทุกวัน
6. ปลาแซลมอน .. มีปริมาณน้ำมันปลาที่เรียกว่า Omega-3s ค่อนข้างสูง ซึ่งช่วยป้องกัน โรคหัวใจ และช่วยควบคุมอาการไขข้ออักเสบ
ช่วยลดอาการปวดรอบเดือน กลุ่มอาการก่อนมีรอบเดือน รวมทั้ง ช่วยระงับอาการซึมเศร้าได้ด้วย ขนาดรับประทาน : รับประทานสัปดาห์ละ 3 ออนซ์
7. เต้าหู้ ..หนึ่งในอาหารชั้นเลิศที่ควรเลือกรับประทานค่ะ ช่วยลดระดับไขมัน ถ คลอเลสเตอรอล อุดมด้วยสาร Isoflavone

สำหรับผู้รักสุขภาพทุกท่าน

ภัยร้ายมันฝรั่งทอด
มันฝรั่งทอด คุกกี้กรอบๆ หรือขนมสำเร็จรูปในถุงสวยๆ ทั้งหลาย
ไม่ได้ทำให้อ้วนหากออกกำลังกายสม่ำเสมอ
และควบคุมปริมาณอาหารที่กินในแต่ละวัน
แต่อาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยไขมันชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ทำให้มีโอกาสเป็นโรคหัวใจและโรคมะเร็งมากขึ้น...
ที่มา : Are You Getting Enough Fat?"
By Colleen Pierre, R.D. Reader's Digest, 2001




ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิด ทำให้กระดูกบางลงได้
นำไปสู่ปัญหากระดูกพรุน
เมื่อแก่ตัวลง ดังนั้นหากจำเป็นต้องกินหรือฉีดยาเหล่านี้
ก็อย่าลืมหมั่นกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง
เช่น ผักใบเขียวเข้ม ปลาเล็กปลาน้อย ฯลฯ
หรือทานแคลเซียมเสริมไว้ด้วย...
ที่มา : Canadian Medical Association Journal, October 2001




ผู้หญิงชอบดื่มพึงระวัง
คุณผู้หญิงที่ชอบดื่มพึงระวังเพราะร่างกายคุณ
จะซึมซับแอลกอออล์ได้เร็วกว่าผู้ชาย ( เมาเร็วกว่า)
แล้วคุณยังมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม
ได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ดื่มถึง 50%
แถมยังกระดูกเปราะกว่ากันมาก
เพราะเหล้าจะเข้าไปทำลายเนื้อกระดูก( bone mass) ของคุณ...
ที่มา : Rethinking Drinking" Reader's Digest, December 2001




นั่งรถตรงไหนปลอดภัยที่สุด
นั่งรถเก๋งที่เบาะหลังตรงกลางปลอดภัยที่สุด
รองลงมาคือ ที่นั่งด้านหลังทางซ้าย ( หลังคนนั่งข้างคนขับ)
เพราะตามสถิติอุบัติเหตุจะเกิดทางด้านหน้า และ ด้านคนขับมากกว่า
และหากมีคนนั่งรถไปกับคุณด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
จะลด อันตรายจากอุบัติเหตุการชนด้านหน้ารถลงไปด้วย...
ที่มา : The Seattle Times, November 11, 2001
(ข้อมูลจาก
http://www.thaihealth.or.th/th/index_th.php )




ทานกะหล่ำปลีดิบมีพิษนะ
ในกะหล่ำปลีดิบจะมีสารพิษที่เรียกว่า กอยโตรเจน (Goibrogen)
ซึ่งเป็นสารที่จะไปกันไม่ให้ต่อมไทรอยด์จับไอโอดีน
ไปสร้างเป็น ฮอร์โมนไทร๊อกซิน ( Thyroscine) ได้
ซึ่งผลที่เกิดขึ้นคือ จะทำให้เกิดเป็นโรคคอหอยพอก
แต่สารพิษเหล่านี้จะถูกทำลายได้ โดยการต้ม
จึงควรรับประทานกะหล่ำปลีสุก
จะดีกว่ากะหล่ำปลีดิบ




ถั่วงอกดิบมีโทษครับ
ในผักสดบางชนิดมีสารพิษที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ในถั่วงอก
มีสารพิษพวกที่เรียกว่าไฟเตต ซึ่งเมื่อกินเข้าไปจะ
ไปจับแร่ธาตุบางชนิดที่อยู่ในอาหาร
ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแร่ธาตุเหล่านั้นเข้าร่างกาย
ร่างกายจะเป็นโรคขาดแร่ธาตุ
สารพิษเหล่านี้สามารถทำลายได้โดยการต้ม
จึงควรรับประทานถั่วงอกสุขดีกว่าถั่วงอกดิบ




วิธีป้องกันตะคริว
ตะคริวเกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่
การดื่มน้ำและ รับประทานผลไม้สดมากๆ
จึงช่วยลดการเป็นตะคริวได้...
ที่มา : Health& Fitness Column, Detroit News,
August 22, 2001




อดนอนบ่อยๆ ระวังเป็นเบาหวาน
ร่างกายที่ไม่ได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม
จะใช้อินซูลินได้น้อยลง
คนอดนอนบ่อยๆ จึงมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานสูงกว่าปกติ...
ที่มา : The Seattle Times, July 22, 2001




ตรวจฉี่ด้วยตัวเอง
ร่างกายแต่ละคนต้องการน้ำไม่เท่ากัน
แพทย์แนะนำว่าควรดื่มมาก พอที่จะถ่ายปัสสาวะได้ทุกๆ 3-4 ชั่วโมง
หากปัสสาวะคุณเป็นสีเหลือง เข้มกว่าปกติ แสดงว่าคุณกำลังขาดน้ำ...
ที่มา : Health & Fitness Column, Detroit News, August 22, 2001




เนยแท้ vs เนยเทียม
เนยแท้ๆ ที่ทำมาจากนม อร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายกว่าเนยเทียม
หรือมาร์การีนซึ่งไม่มีประโยชน์เลยแถมเป็นพิษต่อร่างกายอีกต่างหาก
แต่ไม่ควรจะบริโภคเนยให้มากนักเพราะมากไป
ก็ทำให้เป็นโรคหัวใจ และความดันได้ง่าย...





วิธีชะลอความแก่ 7 ประการ
เรื่องความชราที่มาเยือนนั้นเป็นไปตามวัยก็จริง
แต่หนุ่มสาวสมัยนี้กลับ "แก่ก่อนวัย"
ถึงเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า "ทุกอย่างนั้นอยู่ที่ใจ"
เคล็ดลับเหล่านี้ได้จาก น.พ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์
สูตินารีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
๑.ต้องไม่อยากแก่...
ต้องตั้งใจคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวเอาไว้
และต้องปฏิบัติควบคู่ไปทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ
๒.มีใจเป็นหนุ่มสาว..
คือ รักอิสระ มองโลกในแง่ดีและที่สำคัญมีความหวังเสมอ
หรือการคบเพื่อนที่อายุน้อยกว่าก็เป็นวิธีการที่ดี
๓.ลดความเครียด..
เลิกเอาคิ้วผูกโบได้แล้ว ลองยิ้มให้มากขึ้น
ถ้าไม่รู้จะยิ้มอย่างไรก็ลองยิ้มกับกระจกเงาที่บ้านดูสิ
๔.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ..
ออกกำลังการอย่างน้อย 15 นาทีจะดี
๕.กินอาหารต้านชรา..
พยายามเลือกอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย
เช่น พืชผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
๖.นอนหลับเพียงพอ..
เราควรจะนอนให้เพียงพอกับร่างกาย
ที่ดีที่สุดควรนอนก่อนสี่ทุ่มจะดีที่สุด
๗.ความรัก..
ความรักเท่านั้นที่จะช่วยให้คนสดชื่น กระชุ่มกระชวย
ทั้งความรักของคนหรือสัตว์ ก็จะช่วยให้เราหัวใจเบิกบาน




ขนมเด็กเคลือบยาพิษ Safe Stamp ระวัง !
อันตรายจากอาหารขบเคี้ยว ข้อมูลจากการสำรวจ
ของราชพฤกษ์โพล
คณะสาธารณะสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ซึ่งเก็บตัวอย่างจากขนมหลายประเภท
จากโรงเรียนอนุบาลและประถมศึกษา จำนวน 40 โรงเรียน
ในพื้นที่ 17 เขตของกรุงเทพมหานคร
พบว่าภัยร้ายที่แฝงอยู่ในขนมเด็ก
โดยเฉพาะสารตะกั่วซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย
ขณะเดียวกันก็ยังพบสารอันตรายอื่นๆ
โดยเฉพาะเกลือโซเดียมในปริมาณมากน้อยต่างกันไป
ซึ่งหากบริโภค มากจนตกค้างสะสมในร่างกาย
อาจมีผลให้เส้นเลือดในสมองโป่งพองได้
10 อันดับขนมขบเคี้ยวประเภทข้าว แป้ง
ที่พบปริมาณโซเดียมสูงสุดดังนี้
1. ข้าวเกรียบปลาหมึก ตราอาริงาโตป้ง
2. ขนมทอดกรอบตราปูไทย ซองส้มเข้มป้ง
3. ข้าวเกรียบทอด ตราเอสบี รสพริกหยวกี่
4. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราฮานามิ รสเม็กซิกันชิลลี่ษ
5. แป้งมันฝรั่งทอดกรอบ ตราโรลเลอร์ โคสเตอร์
รสหัวหอมทรงเครื่อง
6. แป้งข้าวโพดอบกรอบ ตราโจโต้ รสปลาหมึก
7. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราคาลบี้ รสต้มยำรสแซบ
8. ข้าวเกรียบปลา ตรามโนห์รา
9. ข้าวเกรียบกุ้ง ตรามโนห์รา
10. ข้าวเกรียบรสมะเขือเทศ




โทษของน้ำต้มเดือดหลายๆ ครั้ง
น้ำประปามีแร่ธาตุหลายชนิด
เมื่อต้มเดือดแล้วเดือดอีกหลายๆ ครั้ง
น้ำจำนวนมากจะระเหยกลายเป็นไอ ส่วนที่เหลือ
จึงมีปริมาณแร่ธาตุ ชนิดต่างๆ เข้มข้นขึ้นมาก
และเกินมาตรฐานการบริโภค น้ำที่ต้มเดือดนานๆ
ไอออนของซิลเวอร์ไนเตรทที่อยู่ในน้ำ
จะเปลี่ยนเป็นซิลเวอร์ไนไตรท์
ซึ่งเป็นสารที่ให้โทษแก่ร่างกาย
และแร่ธาตุบางอย่างที่เป็นโทษต่อร่างกาย
จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเพราะการระเหยของน้ำ
และอาจมากจนเกินขีดจำกัด ความสามารถของร่างกาย
ในการกำจัดขับถ่ายออกมา
จึงไม่ควรดื่มน้ำที่ ต้มเดือดแล้วหลาย ๆ ครั้ง ครับ




อาหารต้านมะเร็ง 5 ประการเพื่อการป้องกัน
1. รับประทานผักตระกูลกะหล่ำให้มาก
เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ผักคะน้า หัวผักกาด บรอคโคลี่ ฯลฯ
เพื่อป้องกัน โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลำไส้ส่วนปลาย
กระเพาะอาหาร และอวัยวะระบบทางเดินหายใจ
2. รับประทานอาหารที่มีกากมาก
เช่น ผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด และเมล็ดธัญพืชอื่น ๆ
เพื่อป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
3. รับประทานอาหารที่มีเบต้าแคโรทีน และไวตามินเอสูง
เช่น ผัก ผลไม้สีเขียว-เหลือง
เพื่อป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร กล่องเสียง และปอดำ
4. รับประทานอาหารที่มีไวตามินซีสูงเช่น ผัก ผลไม้ต่างๆ
เพื่อป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร และกระเพาะอาหาร
5. ควบคุมน้ำหนักตัว..โรคอ้วนมีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็ง
เช่น มดลูก ถุงน้ำดี เต้านม และลำไส้ใหญ่




ผลกระทบของการอดนอน
งานวิจัยเชิงทดลอง โดยอาสาสมัครหนุ่มสาว
ทดลองนอนหลับวันละ 4 ชม. เป็นเวลา 6 คืน เมื่อเจาะตัวอย่างเลือด
พบว่า มีปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นและควบคุมยาก
ซึ่งเกือบจะเป็นเหมือนโรคเบาหวาน
นักวิจัยยังพบว่าการอดนอนเป็นสาเหตุของโรคอ้วน
โดยเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเร่งการเติบโต
ซึ่งเป็นฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตทางกายภาพ
และควบคุมสัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อในร่างกาย
การอดนอนทำให้ฮอร์โมนนี้หลั่งน้อยลง
ร่ายกายรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น
นอกจากนี้ยังส่งผลต่อฮอร์โมนเลปติน
ซึ่งเป็นสารที่สื่อต่อระบบประสาท
ว่า ควรจะอิ่มได้เร็วหรือช้าเท่าใด
ตามความต้องการอาหารของร่างกาย
เมื่อระดับเลปตินลดลงจากการนอนน้อย
ผู้คนจะรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น
แม้จะได้กินอาหารจนได้พลังงานเพียงพอแล้วก็ตาม
การนอนไม่พอยังส่งผลต่อเม็ดเลือดขาว
และกลไกการตอบสนองภูมิคุ้มกันต่างๆ ของร่างกาย
ทำให้เจ็บป่วยง่ายเมื่อเจอเชื้อโรค
การนอนไม่พออาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง
มีความเกี่ยวข้องกันในเรื่องวงจรการหลั่งฮอร์โมนแปรปรวน
เนื่องมาจากการอดนอนและ แสงรบกวนในเวลากลางคืน
ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม
ฉะนั้น นอกจากเราควรจะนอนให้เพียงพอแล้ว
เรายังไม่ควรเปิดไฟนอนอีกด้วย





6 อัศวินช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
ร่างกายของคนเราสามารถสร้างคอเลสเตอรอลได้เองอยู่แล้ว
ดังนั้นถ้าเรารับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
ระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด
ก็จะมีสูงขึ้นตามไปด้วย
เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน
และหัวใจวายแน่นอน
อาหารบางอย่างมีคุณสมบัติ
ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลได้ เป็นอย่างดีเยี่ยม
6 อัศวินตัวสำคัญนั้นคือ
1. มะเขือต่างๆ..
2. หอมหัวใหญ่..
3.กระเทียม
4.ถั่วเหลือง..
5. แอปเปิล..
6. โยเกิร์ต
วันใดมื้อใดที่คุณมีเมนูอาหารซึ่งอุดมไปด้วยไขมันมากๆ
ก็ควรรับประทานอัศวินตัวหนึ่งตัวใดเพื่อควบคุมไขมัน.




อาหารอันตรายเมื่อท้องว่าง
คุณทราบไหมว่าเมื่อท้องของคุณว่างแล้วคุณรับประทานอาหารเข้าไป
อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคุณได้ เพราะฉะนั้น
ก่อนที่จะรับประทานอาหาร ควรเลือกชนิดของอาหารเสียก่อน
อาหารที่ไม่ควรรับประทาน ขณะท้องว่างมีชนิดใดบ้าง
มีบางชนิดที่เราแทบไม่เชื่อเลยล่ะ
กล้วย.. เพราะกล้วยอุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม การรับประทานกล้วย
ขณะท้องว่าง จะทำให้ปริมาณธาตุแมกนีเซียมในเลือดสูงขึ้น
ทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมไป เป็นการยับยั้ง
การทำงานของหลอดเลือดหัวใจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างยิ่ง
กระเทียม.. เพราะจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหาร ได้รับการกระตุ้นเกิด
โรคกระเพาะอาหารอักเสบอย่างรุนแรง
ผัก.. การรับประทานผักอย่างเดียวขณะท้องว่าง
จะทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการผิดปรกติ
นอกจากนั้น ยังไม่ควรอาบน้ำ และออกกำลังกายด้วยเช่นกัน
เพราะการอาบน้ำและการออกกำลังกาย ในขณะที่ท้องว่าง
จะทำให้เกิดอาการช็อก เนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย
นมและนมถั่วเหลือง.. แม้ว่านมถั่วเหลืองจะอุดมไปด้วยโปรตีน
แต่จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อกระเพาะอาหาร
มีสารอาหารประเภทแป้งอยู่ด้วย
เหล้า .. หากดื่มเหล้าในขณะท้องว่าง จะไปกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร
ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้
น้ำตาลหรืออาหารหวาน. .. ไม่ควรรับประทานอาหารหวาน
หรือน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ช็อกโกแลต เพราะหากรับประทานขณะท้องว่าง
จะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาลส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิด
และลดสมรรถภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไต
ชา... ที่แก่เกินไป ชาทำให้กรดเกลือในน้ำย่อย
ในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การทำงาน
ของระบบย่อยอาหารลดลง และเกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะ
มือเท้าไม่มีแรง จิตใจไม่สงบ
ลูกพลับ .. ไม่ควรรับประทานลูกพลับในขณะที่ท้องว่าง
เพราะกระเพาะอาหารจะหลั่งกรดเกลือออกมามาก หากไปรวมตัวกับยาง
และสารแขวนลอยในลูกพลับแล้วจะทำให้เจ็บหน้าอก
คลื่นไส้ และเป็นแผลในกระเพาะอาหาร




ไอศกรีม อาหารขยะ
ไอศกรีมบางยี่ห้อ บางผู้ผลิต ใช้ไขมันที่เหลือจากโรงฆ่าสัตว์ แทน
และได้ใส่ส่วนผสมสังเคราะห์ จากสารเคมีต่าง ๆ ดังนี้
1. ไดอิธิลกลูคอล ( diethyl glucol ).. สารเคมีราคาถูก ใช้ตีไขมัน
ให้กระจาย แทนการใช้ ่ไข่ เป็นสารกันเยือกแข็ง ที่ใช้กันน้ำแข็ง
( anti freeze) และผสมในน้ำยากัดสี
2. อัลดีไฮด์ - ซี71 ( aldehyde-C71 ) .. ใช้สร้างกลิ่น เชอร์รี่
ให้ไอศกรีมเป็นของเหลวติดไฟง่าย และยังนำไปใช้ทำสีอะนิลีน พลาสติกและยาง
3. ไปเปอร์โอรัล ( piperoral ).. ใช้แทนวานิลลา เป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าเหาและหมัด
4. อิธิลอะซีเตท ( ethyl acetate ).. ใช้สร้างกลิ่นรสสับปะรด
ใช้เป็นตัวทำความสะอาดหนังและผ้าทอ กลิ่นของสารเคมีตัวนี้
ทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง ตับ และหัวใจผิดปกติ
5. บิวธีรัลดีไฮด์ ( butyraldehyde) ใช้สร้างกลิ่นรสเมล็ดในผล
ไม้เปลือกแข็ง เป็นสารประกอบสำคัญในกาวยาง
6. แอนนิล อะซีเตท( anyle acetate) ใช้สร้างกลิ่นรสกล้วยหอม
เป็นสารทำลายใช้ล้างไขมัน
7. เบนซิล อะซีเตท(benzyle acetate) ใช้สร้างกลิ่นและรสสตรอเบอร์รี่
เป็นสารละลายไนเตรทเวลาเกิดความอยากอยากให้คิดถึงสารเคมีเหล่านี้
ทั้งสารกันเยือกแข็ง ตัวทำละลายน้ำมัน น้ำยาลอกสี ยาฆ่าเหา ยาฆ่าหมัด
บางยี่ห้อมีตัวนั้น บ้างมี ตัวนี้ ไมใช ่ว่าทุกยี่ห้อ จะมีหมด ทุกตัว นะครับ
นอกจากนี้สารที่ใช้ทำความหวานก็คือ แซคคาริน หรือน้ำตาลเทียม
ทั้งมีสารเติมสีเติมกลิ่น ซึ่งเหล่านี้ล้วนพิสูจน์แล้วว่า
มีส่วนสนับสนุนทำให้เกิดมะเร็งได้
ไอศกรีม อาหารขยะ เป็นสาเหตุโรคอาหารเป็นพิษ ถึง 98 เปอร์เซ็นต์
อย่าลืมนะครับ จะซื้ออะไรดูสักนิดเช่น
น้ำมันพืช.. มีสาร กันหืน BTH หรือเปล่า
ซีอิ้ว น้ำปลา แมกก..ี้ มี สารกัน บูด (โซเดียมเบนโซเอท) หรือผงชูรส
( โมโนโซเดียมกลูตาเมท) หรือไม่
ขนมปัง .. ขาวมีสารกันเสีย สารกันบูดไหม
หรืออาหารใดๆ.. ก็แล้วแต่ แวะอ่านดูฉลากสักนิด ว่า มีผงชูรส มีวัตถุกันเสีย
เจือสีสังเคราะห์ แต่งกลิ่น แต่งรส หรือเปล่า แม้ อย.อนุญาตก็ตามเถอะ
ที่มา :
http://www.rapidreply.net/cgi-bin/varpro/vartrack.cgi?t=mysuccess:23





เลือดแต่ละกรุ๊ปกับการเลือกทานอาหาร..
กรุ๊ป A.. คนที่เลือดกรุ๊ป A จะอ่อนไหวต่อโรคมะเร็งมากกว่า หมู่อื่นๆ
ควรลดหรือละเว้น นม.เนื่องจากแอนติเจนที่อยู่ในเซลล์ของเลือดกรุ๊ป A
ควรหันมารับประทานกันเพิ่มขึ้นก็คือ พวกผักใบ เขียว ใบเหลือง
รวมทั้งธัญพืช และถั่วต่างๆ
กรุ๊ป B.. พวกที่อยู่ในกลุ่มเลือดกรุ๊ป B ถือว่าเป็นเลือดที่ถือ
กำเนิดขึ้นมาเป็นอันดับสามของมนุษย์ การดื่มนม
และรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ ทำจากนม โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าท้องไส้
จะปั่นป่วน หรือท้องเฟ้อเรอเหม็น เปรี้ยว อย่างคนกรุ๊ปเลือด A
นอกจากนี้ อาหารพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ ก็ล้วนแต่มีประโยชน์
ต่อร่างกายทั้งนั้นแต่สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง คือ เนื้อไก่
กรุ๊ป O.. ถือว่าเป็นเลือดกรุ๊ปแรกของมนุษย์เราเลยก็ว่า ได้
ดังนั้นคนที่มีเลือดกรุ๊ป O จะมีสุขภาพแข็งแรงดี
เมื่อกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น เป็ด ไก่ และปลา ( ยกเว้นหมู)
แล้วก็ออกกำลังกายหนักๆ เช่นเต้าเอโรบิค.
.คนที่มีเลือดกรุ๊ป O มีแนวโน้มที่ จะเป็นโรคแผลเน่าเปื่อย
หรือเกิดการอักเสบได้ง่ายกว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ปอื่นๆ อีกด้วย
กรุ๊ป AB.. มาถึงเลือดกรุ๊ปสุดท้ายที่เกิดขึ้นในหมู่มนุษย์เรา
คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีเพียงแค่ 2 % เท่านั้นเอง จะมีลักษณะคล้ายๆ
คนเลือดกรุ๊ป B คือ รับประทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้
แต่ก็มีจุดอ่อน คือ ระบบย่อย อาหาร มักจะมีกรดเกิดขึ้นมาก
ในท้องส่วนล่าง หรือลำไส้ใหญ่ ดังนั้นข้อ แนะนำก็คือ
ควรรับประทานเนื้อสัตว์ในปริมาณที่น้อยและอย่าบ่อยนัก
อาจสังเกตุได้ง่ายๆ ถ้ามีอาการผิดปกติ คือ จะเรอบ่อย




รอบเอวมรณะ
ีสิ่งที่พึงตระหนักคือ ผู้ชายไม่ควรให้รอบเอวเกิน 36 นิ้ว
หญิงไม่ควรเกิน 32 นิ้วถ้ามากกว่านี้ต้องเร่งลดน้ำหนัก
เพราะถ้าหากท่านวัดรอบเอวแล้ว
ได้ตัวเลขเกินกว่ามาตราฐานนี้ แสดงว่าท่านกำลังเป็นโรคอ้วน
คนเป็นโรคอ้วนมีความเสี่ยงที่จะต้องพบกับโรคร้ายต่างๆ มากมาย
นับตั้งแต่ โรคหัวใจ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูงอัมพาต
และท่านอาจจะหยุดหายใจขณะหลับ
จนเกิดภาวะพร่องออกซิเจนตื่นนอนจะมีอาการมึน เป็นต้อหินง่าย
เนื่องจากเลือดขาดออกซิเจนเป็นโรคไขข้อ เพราะแบกรับน้ำหนักมาก
เป็นเกาต์ มะเร็ง นิ่วในถุงน้ำดี มีลูกยาก โรคเกี่ยวกับระบบหายใจ
โรคถุงน้ำดี ท่านทราบหรือไม่ว่าคนอ้วน
จะเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานมากกว่าคนน้ำหนักปกติถึง 30 เท่า
เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบกว่าคนทั่วไป 15 เท่า
โรคอัมพาต 11 เท่า โรคมะเร็งลำไส้ 2 เท่า
วิธีรักษาโรคอ้วนสามารถทำได้ด้วยการควบคุมแคลอรี
ของอาหารที่รับประทานคือพยายามให้ลดลงวันละ 600 แคลอรี
ซึ่งภายใน 7 วันจะสามารถลดน้ำหนักได้0.6 กิโลกรัม
เพราะไขมัน 1 กิโลกรัมเท่ากับ 7,000 แคลอรี
ประการที่สำคัญ ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
อย่างน้อย 20 นาทีถ้าออกกำลังกายได้ 60 นาทีจะยิ่งเป็นผลดี








สุราอาจป้องกันโรค
วอชิงตัน ๑๖ พ.ค. - แพทย์สหรัฐ กล่าวว่า การดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์วันละ ๒ แก้ว อาจช่วยป้องกันโรคเบาหวานในกลุ่มผู้หญิงอายุมากได้
และดูเหมือนว่า ไม่ว่าจะเป็นสุราประเภทไหนก็ดื่มได้ดีทั้งนั้น จากการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่ควบคุมอาหารและดื่มสุราในปริมาณที่กำหนด
สามารถควบคุมระดับอินซูลินได้ดีกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ แต่นักวิจัยย้ำว่า ต้องมีการศึกษากันต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า การดื่มเครื่องดื่มอะไรก็ตามสามารถช่วยได้ทั้งนั้น ขอให้มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ใส่เหล้าก็ได้
ชาวอเมริกันราว ๑๕ ล้านคน ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ ๒ ซึ่งจะส่งผลต่อการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย
คนไข้โรคเบาหวานควรระมัดระวังในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วตัวแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดอยู่แล้ว ไมเคิล เดวี่ส์ และเดวิด เบเออร์ ผู้เชี่ยวชาญประจำศูนย์วิจัยด้านโภชนาการ
ของกระทรวงเกษตรสหรัฐ ทำการทดลองในผู้หญิง ๖๓ คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และรายงานผลการศึกษาลงในวารสารสมาคมแพทย์ของสหรัฐ
พบว่า ผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน หากดื่มเหล้าวันละ ๒ แก้ว จะมีสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ดื่ม หรือดื่มแต่น้ำส้มเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้น
จะมีน้ำหนักตัวเท่าไรก็ตามการดื่มสุราเพียงวันละ ๓๐ กรัมช่วยลดระดับอินซูลินที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตามนักวิจัยเตือนว่า
การดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์มากกว่านี้จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ และจะเป็นอันตรายต่อร่างกายด้วย






อาหารเป็นยา
9 ยอดอาหารธรรมชาติที่ช่วยรักษาสุขภาพของท่าน
1. บร็อคโคลี่. แชมเปี้ยนผักในตระกูลกะหล่ำที่เป็นที่นิยมของนักบริโภคทั่วโลก บร็อคโคลี่มีประโยชน์ดังนี้
- ช่วยป้องกันมะเร็ง
- อุดมด้วยวิตามินซี สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ในร่างกาย และยังช่วยให้ผนังเส้นเลือดแข็งแรงอีกด้วยถ
- ประกอบด้วยสาร glutathione ซึ่งช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดไข ถ ข้ออักเสบ เบาหวาน และโรคหัวใจ
และนอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย ลดระดับคลอเลสเตอรอล และช่วยลดความดันโลหิตสูงถ
- ป้องกันการเกิดต้อกระจก เนื่องจากบร็อคโคลี่ จะมีสารเบต้าแคโรทีนสูง โดยเฉพาะสาร lutein ขนาดรับประทาน : บร็อคโคลี่ 1/2 ถ้วย ต่อสัปดาห์
2. กระเทียม.. ช่วยลดคลอเลสเตอรอล มีฤทธิ์คล้ายกับยาแอสไพรินในการช่วยป้องกัน การแข็งตัวและการอุดตันของหลอดเลือด มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้เหมือนกับ
ยาเพ็นนิซิลิน โดยเฉพาะเวลาที่เจ็บคอ สามารถใช้กระเทียมรักษา ได้ดี และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ในการช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ถ และมะเร็งเต้านม
ขนาดรับประทาน : การป้องกันโรคหัวใจรับประทานวันละ 1 กลีบ และโดย ทั่วไปก็แนะนำให้รับประทานกระเทียมเป็นประจำทุกวัน แล้วแต่ปริมาณที่ชอบถ
3.ถั่วแดง เป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของเส้นใยอาหารสูงมาก ดังนั้นจึง ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล ป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดใน สมองแตก และมะเร็งลำไส้ใหญ่
อุดมด้วยกรดโฟลิค ที่ช่วยบำรุง โลหิต ป้องกัน ความผิดปกติของทารกในครรภ์ นอกจากนี้ยังประกอบ ด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ polyphenolics
ที่ช่วยป้องกันการเกิด โรคหัวใจได้ดีอีกด้วย ขนาดรับประทาน : ควรรับประทาน 1 ถ้วย / วัน
4. นมพร่องมันเนย .. เป็นแหล่งของแคลเซี่ยมสูงที่ปลอดไขมัน ซึ่งป้องกันภาวะกระดูกพรุน ถ และยังประกอบด้วยสารโปรตัสเซี่ยมและแมกเนเซี่ยม
ที่ออกฤทธิ์ช่วย ลดความดันโลหิตสูง ขนาดรับประทาน : คนวัยหนุ่มสาวต้องการแคลเซี่ยมวันละ 1000 mg
ส่วนวัยสูงอายุจะต้องการเพิ่มขึ้นเป็น 1500 mg /วัน จึงจะเพียงพอ ปัจจุบันมีนมพร่องมันเนยแคลเซี่ยมสูงจำหน่ายอยู่ทั่วไป เลือกดื่มได้ตาม ปริมาณที่แนะนำถ ถ
5. ส้ม .. ยอดผลไม้ที่มีปริมาณวิตามิน ซี สูง เส้นใยอาหารสูง รวมทั้งสารอาหาร ชนิดอื่นๆ ซึ่งช่วยป้องกันหวัด ลดระดับคลอเลสเตอรอล
ช่วยในการสร้างกระดูก ป้องกันการเกิดนิ่วในไต ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ตลอดจนช่วยฟื้นฟูอาการเจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจ
นอกจากนี้ สาร phytochemicals ในส้มยังช่วยต่อต้านมะเร็งเต้านมด้วยถ ขนาดรับประทาน : ควรรับประทานส้มวันละ 1-2 ผล เป็นประจำทุกวัน
6. ปลาแซลมอน .. มีปริมาณน้ำมันปลาที่เรียกว่า Omega-3s ค่อนข้างสูง ซึ่งช่วยป้องกัน โรคหัวใจ และช่วยควบคุมอาการไขข้ออักเสบ
ช่วยลดอาการปวดรอบเดือน กลุ่มอาการก่อนมีรอบเดือน รวมทั้ง ช่วยระงับอาการซึมเศร้าได้ด้วย ขนาดรับประทาน : รับประทานสัปดาห์ละ 3 ออนซ์
7. เต้าหู้ ..หนึ่งในอาหารชั้นเลิศที่ควรเลือกรับประทานค่ะ ช่วยลดระดับไขมัน ถ คลอเลสเตอรอล อุดมด้วยสาร Isoflavone

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพ
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

กุลชดาภา ตนะทิพย์
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
กุลชดาภา ตนะทิพย์..