ข่าวการหายจากอาการพระประชวร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช หลังจากที่ทรงเข้าประทับรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลศิริราช เป็นเวลายาวนานหลายเดือน ย่อมเป็นข่าวที่ยังความปิติสุขให้เกิดแก่ปวงชนชาวไทย ยิ่งกว่าข่าวใดๆ

นับจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อทรงดำรงพระราชสถานะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสมบูรณ์แบบตามโบราณราชประเพณี สิ่งสำคัญยิ่งที่ทรงถือเป็นพระราชภาระอันดับแรกๆ คือการเก็บข้อมูลปัญหาของอาณาประชาราษฎร์ด้วยพระองค์เอง โดยเสด็จพระราชดำเนินยังจังหวัดต่างๆ ด้วยพระพักตร์ที่แสดงถึงความมุ่งมั่น แน่วแน่ และพระศอที่คล้องไว้ด้วยกล้องตลอดเวลา เพื่อบันทึกภาพเป็นข้อมูลหลักฐานระหว่างทางเสด็จ

เส้นทางเสด็จที่ถูกตระเตรียมขึ้นครั้งแรก เริ่มต้นที่จังหวัดในภาคอีสาน เป็นเวลา ๑๙ วันเต็ม ในปี พ.ศ. ๒๔๙๘  ซึ่งจากข้อมูลพื้นฐานครั้งนั้น ก็นำมาสู่โครงการพระราชดำริต่างๆ ในเวลาต่อมา จนกระทั่งลุถึงกาลปัจจุบัน

ถึงแม้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจมากมาย อย่างที่ไม่อาจหากษัตริย์แผ่นดินใดเสมอเหมือน แต่พระองค์ก็ยังทรงสามารถบริหารเวลา แบ่งเวลาให้กับเรื่องของศิลปวิทยาการ กีฬา และดนตรี ความสามารถในเชิงดุริยางคศิลป์ของพระองค์ ทรงแสดงออกทั้งด้วยการทรงดนตรีด้วยพระองค์เอง ทั้งทรงพระราชนิพนธ์เพลงประจำสถาบันการศึกษา เพลงพระราชนิพนธ์จำนวนมาก ที่แสดงถึงความเป็นอัครมหาศิลปินของพระองค์ 

ในบรรดาเพลงพระราชนิพนธ์เหล่านั้น เพลง “พรปีใหม่” ที่ขึ้นต้นว่า “สวัสดีวันปีใหม่พา ให้บรรดาเราท่านรื่นรมย์...” เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๓ ที่เป็นอมตะในใจคนไทยมาเกือบ ๖๐ ปีแล้ว

ทรงพระราชนิพนธ์ทำนอง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ  ทรงนิพนธ์คำร้อง วันส่งท้ายปีเก่า พ.ศ. ๒๔๙๔  เพลงพรปีใหม่ของพระองค์ด้งก้องไปทั่วทั้งแผ่นดินเป็นครั้งแรก โดยเมื่อแรกนั้นขับร้องโดยวงสุนทราภรณ์

ปีนี้เพลงพรปีใหม่คงไพเราะ จับหัวใจยิ่งนัก เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากพระอาการประชวร เสียงเพลงพรปีใหม่ อันแสดงถึงภาพของพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีเลือดเนื้อ อารมณ์ ความรู้สึกที่พร้อมจะแบ่งปันกับประชาชน  จะเป็นหลักฐานอันยิ่งใหญ่ที่บ่งบอกภาพของพระมหากษัตริย์ที่ครองใจคนทั้งแผ่นดินตลอดไป

Advertisement