หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
สุภาภรณ์ นิลยกานนท์(เพชรสุภา)
จากจังหวัด ชุมพร

เหตุผล 6 อย่าง ที่จะไม่ให้ของขวัญกันในวันคริสต์มาสปีนี้
โพสต์เมื่อวันที่ : 21 ธ.ค. 2552 IP : เปิดอ่าน : 6417 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
(47.50%-8 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย >  
  Share on Google+   LINE it!  
เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย

Advertisement

.....

 

เหตุผล 6 อย่าง ที่จะไม่ให้ ของขวัญ กันใน วันคริสต์มาส ปีนี้





เหตุผล 6 อย่าง ที่จะไม่ให้ของขวัญกันในวันคริสต์มาสปีนี้ (ประชาชาติธุรกิจ)

          เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน เดอะไทม์ส ของอังกฤษตีพิมพ์บทความเรื่อง "เหตุผล 6 อย่าง ที่จะไม่ให้ของขวัญกันในวันคริสต์มาสปีนี้" ซึ่งเป็นบทความของ มาร์ติน ลูอิส ประชา ชาติออนไลน์มีโอกาสได้อ่าน และเห็นว่ามีแง่มุมน่าสนใจ จึงขอนำมาแปลและแบ่งบันให้กับผู้อ่านได้ลองอ่านกัน เห็นด้วยหรือไม่อย่างไร ใช้วันที่ 25 ธันวาคมนี้เป็นคำตอบก็แล้วกันนะครับ

          เทศกาล คริสต์มาสกำลังเข้าใกล้มาทุกขณะ เหล่านักช็อปเตรียมตบเท้าสู่แหล่งชอปปิ้ง ร้านรวงต่างๆ คงเต็มไปด้วยความคึกคักส่งท้ายปี ร้านค้าออนไลน์ก็เช่นกัน เพื่อเสาะหาของขวัญให้กับบุคคลอันเป็นที่รัก เพื่อน ครอบครัว แต่ไม่ใช่สำหรับผม ที่ผมสนคือเลิกซื้อของขวัญคริสต์มาส

          เหตุผลของผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนา แต่มันเกี่ยวกับภาวะวิกฤตทางการเงิน ที่เทศกาลคริสต์มาสนี้จะตอกย้ำให้หนักยิ่งขึ้น และผมก็ไม่ได้หวังว่าจะได้รับห่อของขวัญจากพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายที่ซุกอยู่ ใต้ต้นคริสต์มาส การซื้อของขวัญคือวงจรที่ไม่รู้จบ ที่ผู้คนรู้สึกว่าจำเป็นต้องเติมเต็มพันธะเหล่านั้น

1.เราต้องหยุดคิดว่า ทำไมเราต้องให้ของขวัญ

          ความคาดหวังว่าจะได้รับของขวัญนั้นไม่ได้อยู่นอกเหนือวัฒนธรรมของตะวันตก นักมานุษยวิทยาเรียกมันว่า "พิธีแลกเปลี่ยนของขวัญ" แต่วาระของการให้ของขวัญส่วนใหญ่คือการแต่งงานหรือการก้าวพ้นวัยที่สำคัญ เชิงผลสืบเนื่อง นี่เป็นรูปแบบของการเงินที่รอบคอบ เมื่อใครบางคนที่อ่อนวัยและเริ่มต้นชีวิตแต่งงาน ผู้คนให้ของขวัญหรือเงินสดเพื่อเป็นทุนสำหรับเริ่มต้นชีวิต ซึ่งคือเงินได้สุทธิ และเมื่อเขาเหล่านั้นเริ่มที่จะมีความมั่นคงทางการเงิน พวกเขาก็จะให้ของขวัญหรือเงินกับคู่แต่งงานใหม่ เป็นการคืนเข้าสู่ระบบ  

          การให้ของขวัญในเทศกาลคริสต์มาส ครอบครัวที่ใกล้ชิดกันไม่ทำเช่นนั้น ส่วนใหญ่จะดูว่า สมาชิกต้องการเงินจริง ๆ หรือต้องการเป็นของขวัญ ดังนั้นจึงไม่มีการหมุนเวียนของเงินหรือสิ่งของ

2.มันเป็นการสร้างข้อผูกมัดที่ไม่ยุติธรรมกับผู้อื่น

          ณ จุดนี้ ผู้ให้ของขวัญที่มีความรู้สึกอินเป็นอย่างมากจะละล่ำละลักต่อกระดาษห่อของ ขวัญ คำต่อว่าจากฝ่ายตรงข้าม แน่นอนว่าเข้าร่วมอย่างจริงใจ ผู้คนมากมายประสบความสำเร็จและพึงพอใจ แต่มันก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคิดถึงความสนใจของผู้รับ เพราะความกรุณาอาจกลายเป็นการทำร้ายพวกเขา ซึ่งจะไม่ช่วยอะไร

          การให้ของขวัญกับใครสักคน หรือลูกของพวกเขา เสมือนคุณบังคับให้พวกเขากระทำเช่นนั้นตอบกลับมา ไม่ว่าพวกเขาจะสามารถหามันมาได้หรือไม่ก็ตาม

3.เป็นการให้ความสำคัญผิด ซึ่งส่งผลต่อการเงิน

          บ่อยครั้งที่ของขวัญคริสต์มาสจะเป็น "ผลลัพธที่เท่ากับศูนย์" ที่ผู้คนแลกเปลี่ยนของขวัญที่มีมูลค่าเท่ากัน เช่น ชารอนให้สร้อยคอ 20 ยูโรกับไวโอเล็ต ไวโอเล็ตให้ต่างหู 20 ยูโรกับชารอน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือชารอนใช้เงิน 20 ยูโรเพื่อต่างหู ไวโอเล็ตใช้เงิน 20 ยูโรเพื่อสร้อยคอ ปัญหาที่ผุดขึ้นมาก็คือ ชารอนเป็นผู้สร้างพันธะ และไวโอเล็ตเป็นผู้ต้องสนองตอบ ถ้าปราศจากพันธะตรงนี้ ไวโอเล็ตสามารถใช้เงิน 20 ยูโรที่หามาได้อย่างลำบากซื้ออาหารให้กับลูกๆ จ่ายใบทวงหนี้ต่างๆ หรือใช้มันเพื่อเปลี่ยนรองเท้าที่ขาดโดยอุบัติเหตุ แต่เมื่อมาซื้อของขวัญ แผนการเงินของไวโอเล็ตต้องบิดเบือนไป

4.เราให้ของขวัญที่ผู้รับไม่ได้ใช้

          ไม่ว่าจะเป็นถุงเท้าที่ไร้รสนิยมหรือนวนิยายเกี่ยวกับหุ่นยนต์จากเพื่อนร่วม งาน ของขวัญที่ไม่ได้ใช้เหล่านี้ถูกส่งเพื่อเติมเต็มพันธะทางความรู้สึก และนั่นก็ส่งผลเสียต่อทั้งการเงินและสภาพแวดล้อม

5.เด็ก ๆ ไม่ได้เกิดมาติดกับวัตถุราคาแพง

          เราคงไม่ได้สอนพวกเด็กๆ ให้เห็นค่ากับวัตถุ หรือสนับสนุนโฆษณาที่บอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างคือการครอบครองของเล่นล่าสุด ?
        
          เด็กเล็ก ๆ สองคนให้ช่วยแสร้งทำเป็นว่าดีใจสุด ๆ เมื่อได้ของขวัญ พวกเขารู้ว่าในกล่องนั้นว่างเปล่า แต่ก็ยังรู้สึกเศร้าที่เปิดมันออกตอนกล้องหยุดไปแล้ว เพราะพวกเขาใช้วัยเด็กเอากล่องครอบเอวเล่นรถไฟ ดังนั้น ถ้าเด็กไม่ได้ติดสินค่าของของขวัญที่มูลค่า แล้วทำไมเราต้องไปตัดสินความกรุณาของเราด้วยการให้ของขวัญราคาแพงๆ เช่นนั้น

6."การให้ที่มากเกิน" คือสารที่ไม่ดีสำหรับเด็ก

          น่าเศร้า เด็ก ๆ วัยไปโรงเรียนจะชอบแข่งขันกับผู้อื่น เปรียบเทียบว่าใครได้รับอะไร การซื้อของขวัญชิ้นใหญ่นั้น อาจได้สร้างความกดดันให้กับผู้ปกครองคนอื่นที่อาจจะไม่สามารถซื้อของขวัญแบบ นั้นได้

          ผมเพิ่งเห็นวัยรุ่นวัย 16 ปีในคอฟฟี่ช็อป พยายามจูงใจป้าของเขาให้ไปของร้องพ่อแม่ตน เพื่อให้เธอมีลิมูซีนทริปรอบลอนดอนเป็นของขวัญวันเกิด จากนั้นไปดินเนอร์ที่ไนท์คลับพร้อมกับเพื่อน ถามว่าทำไม เธอบอกว่าผู้หญิงคนอื่นก็ได้รับแบบนี้ และเธอดูงี่เง่ามาก ถ้าไม่ได้สิ่งนี้เหมือนกัน

          เพราะฉะนั้น เป้าหมายของผมไม่ใช่การหยุดเทศกาลสนุกสนาน แต่เพื่อท้าทาย ความรื่นเริง การให้ของขวัญอย่างเคยชิน ใช้เวลาเพื่อทำสิ่งที่ให้ผู้อื่นเกิดความพอใจ หรือแค่เพิ่มความใส่ใจ เพื่อเก็บความรู้สึกของเทศกาลแห่งฤดูหนาว บางทีของขวัญที่แท้จริงคือการปลดปล่อยใครบางคนจากพันธะการซื้อของขวัญ

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง เหตุผล 6 อย่าง ที่จะไม่ให้ของขวัญกันในวันคริสต์มาสปีนี้
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

สุภาภรณ์ นิลยกานนท์(เพชรสุภา)
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
สุภาภรณ์ นิลยกานนท์(เพชรสุภา)..