หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
นายสุรงค์ โพชนิกร
จากจังหวัด ศรีสะเกษ

....ล่องเรือไหว้พระ เสน่ห์วัฒนธรรมริมฝั่งน้ำ.....
โพสต์เมื่อวันที่ : 12 ธ.ค. 2552 IP : เปิดอ่าน : 6406 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
-ไม่มีผลโหวต-
☰แชร์เลย >  
  Share on Google+   LINE it!  
เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย

Advertisement

.....



ล่องเรือไหว้พระ เสน่ห์วัฒนธรรมริมฝั่งน้ำ 

          ความงดงามของสถาปัตยกรรม และฝีมือช่างศิลป์ที่สะท้อนผ่านวัดหลายแห่ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นความงามอันทรงคุณค่าที่ควรหาโอกาสไปสัมผัสสักครั้ง กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) จึงเชิญชวนเดินทางท่องเที่ยวทางน้ำ ยลเสน่ห์ความงามของวัดสำคัญ 9 วัดในหนึ่งวัน เริ่มที่...

วัดบุคคโล

          วัดเก่าแก่อายุกว่า 237 ปี สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 โดยเจ้าฟ้าหญิงอุบลวรรณา วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อแพ" ซึ่งเล่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปที่ลอยมากับแพ วนมาอยู่หน้าวัดหลายวัน ชาวบ้านจึงได้ทำพิธีอันเชิญขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัด และเป็นที่นิยมกราบไหว้ขอพร เพื่อให้การทำมาค้าขายมีความเจริญรุ่งเรือง สมปรารถนา




วัดยานนาวา

          พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดมหานิกาย เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ "วัดคอกควาย" ตามชื่อหมู่บ้าน ในสมัยกรุงธนบุรีได้รับการยกฐานะให้เป็นพระอารามหลวง เรียกชื่อใหม่ว่า "วัดคอกกระบือ" ครั้นถึงรัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และสร้างเรือสำเภาพระเจดีย์แทนพระสถูปเจดีย์ทั่วไป และได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดยานนาวา"

วัดราชสิงขร

          สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปลายรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พ.ศ.2275 - 2310) ภายในวัดประดิษฐาน "หลวงพ่อแดง" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเนื้อสำริดแกมทองคำปางมารวิชัย มีความงดงามมาก โดยเฉพาะพระพักตร์ ได้รับการขนานนามว่า "หลวงพ่อพระพุทธสุโขทัย" กิตติศัพท์เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ร่ำลือกันว่าผู้ใดได้บนบานศาลกล่าว มักได้สมปรารถนาเสมอ




วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

          พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ "หลวงพ่อโต" เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงโดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เรียกว่า "ซำปอฮุดกง" หรือ "ซำปอกง" วัดนี้เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงพุทธประวัติ และแสดงชีวิตชาวบ้านในสมัยรัชกาลที่ 3 และยังมีหอพระธรรมมณเฑียร เป็นที่เก็บพระไตรปิฎกสมัยรัชกาลที่ 4




วัดอรุณราชวราราม หรือ "วัดแจ้ง"

          เป็นอีกวัดหนึ่งที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่อ "วัดมะกอก" พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นวังหน้าในรัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์และยังได้ทรงลงมือปั้นหุ่นพระพักตร์ "พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก" พระประธานในพระอุโบสถด้วยพระองค์เอง สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ได้แก่ พระปรางค์ใหญ่ เป็นพระเจดีย์ทรงปรางค์ก่ออิฐถือปูน ประดับกระเบื้องเคลือบสีต่าง ๆ อย่างงดงาม

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

          เดิมเรียกว่า วัดบางหว้าใหญ่ เป็นวัดโบราณครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ได้มีการขุดพบระฆังลูกหนึ่งซึ่งมีเสียงไพเราะมาก ซึ่งต่อมารัชกาลที่ 1 ได้นำระฆังดังกล่าวไปไว้ที่วัดพระแก้ว และโปรดให้สร้างหอระฆัง พร้อมทั้งระฆังอีก 5 ลูก ไว้ให้แทน จึงเป็นที่มาของชื่อวัดภายในพระอุโบสถประดิษฐาน "พระประธานยิ้มรับฟ้า" เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสำริด ปางสมาธิ ได้รับการยกย่องว่างดงามมาก

วัดอมรินทราราม

          วัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ "วัดบางหว้าน้อย" ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงโปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งหมด และทรงพระราชทานนามใหม่ ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานศักดิ์สิทธิ์ คือ "หลวงพ่อโบสถ์น้อย" ซึ่งมีเรื่องเล่าถึงปาฏิหาริย์และความศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่เมื่อครั้งสงคราม โลกครั้งที่ 2 ชาวบ้านจึงเลื่อมใสอย่างมาก




วัดคฤหบดี

          ในสมัยรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ ได้โปรดพระราชทานนามวัด และพระราชทาน “พระแซกคำ” ไว้เป็นพระประธานในพระอุโบสถ หลวงพ่อแซกคำ เป็นพระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัย สมัยเชียงแสน ภายในองค์หลวงพ่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ 9 องค์ นับเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่กับพระแก้วมรกต ซึ่งรัชกาลที่ 3 ทรงโปรดให้อัญเชิญมากจากเวียงจันทน์ ในปี พ.ศ. 2369

วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร

          เดิมเป็นวัดราษฎร์ สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ชาวบ้านเรียกว่า "วัดสมอแครง" ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงรับวัดแห่งนี้เป็นพระอารามหลวง ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน “พระพุทธเทวราชปฏิมากร” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโลหะหล่อลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ฝีมือช่างสมัยทวารวดีผสมอู่ทอง ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์ไม้สักทอง ซึ่งเพิ่งเปิดให้ชมความสวยงามกันอย่างใกล้ชิดด้วย

          สำหรับผู้ ที่สนใจชมความงาม และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดทั้ง 9 แห่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถเลือกใช้บริการจากผู้ประกอบการที่มีให้เลือกมากมายหรือสอบถามที่โทร 02-682-9880


  


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

http://travel.kapook.com/view7713.html

 
 

 

B4Ninety สถานีเพลงเก่า

 

เพลง

ริมฝั่งเจ้าพระยา

ศิลปิน

พิ้งค์ แพนเตอร์

อัลบั้ม

รอยเท้าบนผืนทราย

 
 

 

 

 
 

 
ฟังเพลงใช้โปรแกรม Real Player นะ ถ้ายังไม่มีก็คลิก Download เลยนะจ๊ะ

http://www.b4ninety.com/jukebox.php?id=1935&PHPSESSID=9f67cd0c17434d9e63a68018dba77e54

 


Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง ....ล่องเรือไหว้พระ เสน่ห์วัฒนธรรมริมฝั่งน้ำ.....
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

นายสุรงค์ โพชนิกร
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
นายสุรงค์ โพชนิกร..