ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ |
เจ้าของโพสต์นี้ ดร.ปกรณ์ สุปินานนท์ จากจังหวัด กรุงเทพมหานคร |
|
หัวใจของหลักสูตร คือ Curriculum framework |
โพสต์เมื่อวันที่ : 28 พ.ย. 2552 IP : เปิดอ่าน : 6545 ครั้ง คะแนนของ BLOG นี้ (56.00%-5 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย > |
|
![เพิ่มเพื่อน](http://biz.line.naver.jp/line_business/img/btn/addfriends_en.png) |
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย
|
|
Advertisement
|
ขั้นตอนที่ 2 ของการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ![](http://www.kroobannok.com/images/quote_close.png) .....นักพัฒนาหลักสูตรที่ดีต้องเป็นทั้งนักจิตวิทยาที่มีความรู้ ความเข้าใจในพัฒนาการผู้เรียนแต่ละวัยเป็นอย่างดี เพราะนักพัฒนาหลักสูตรต้องจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับวัยของเด็กในแต่ละระดับเพื่อที่จะมากำหนด Scope (ขอบข่าย) และ Sequence (ลำดับการเรียนรู้) โดยสะท้อนว่าจะจัดทำหลักสูตรในกลุ่มวิชาที่จะสอน “อะไร” “เมื่อไร” และใช้เวลา “เท่าไร”
Scope = ความกว้างลึกของสาระที่จะสอน
Sequence = ลำดับวิชาที่จะสอน ซึ่งอาจเรียงจากเรื่องที่ง่ายไปสู่เรื่องที่ยาก หรือเรื่องใกล้ตัว ไปสู่เรื่องที่ไกลตัว
ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำโครงสร้างหลักสูตรอาจเป็นเขตพื้นที่การศึกษา แล้วสถานศึกษาก็นำโครงสร้างนี้ไปจัดทำหลักสูตรของตนเอง แต่ในรายละเอียดของหลักสูตรแต่ละสถานศึกษายังคงสร้างรายวิชาหรือกำหนดสัดส่วนของเวลาเรียนแตกต่างกันได้ หรือสถานศึกษาอาจจะเป็นผู้กำหนดโครงสร้างหลักสูตรด้วยตัวเองเลยก็ได้โดยยึดหลักเกณฑ์การจัดการศึกษาที่ส่วนกลางวางไว้อย่างคร่าว ๆ
โครงสร้างหลักสูตรในกรณีที่กำหนดจากส่วนกลางหรือเขตพื้นที่การศึกษายังไม่ใช่ “หลักสูตร” แต่เป็นเพียง
“คำแนะนำ” ในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาเท่านั้น การที่เรามากำหนดว่าจะเรียนรายวิชาใดในชั้นปีใด กี่ชั่วโมง
กี่หน่วย สาระที่เรียนเกี่ยวกับอะไร แผนการสอนแต่ละรายวิชาและประเมินผลอย่างไร เหล่านี้จะไม่กำหนดไว้ในโครงสร้างหลักสูตรที่กำหนดจากส่วนกลางหรือเขตพื้นที่การศึกษา เพราะ พรบ.การศึกษาแห่งชาติต้องการให้สถานศึกษาเป็นผู้กำหนดเอง เพราะไม่มีใครเข้าใจชุมชนและบริบทในท้องถิ่นเท่ากับสถานศึกษาในพื้นที่ รวมถึง “หนังสือเรียน” ก็ไม่รู้ดีเท่าครูที่สอนในท้องถิ่นนั้น
อย่าให้ "หนังสือเรียน" มากำหนด Scope และ Sequence เพราะฉะนั้นคุณครูต้องออกแบบเองให้สอดคล้องกับธรรมชาติของวิชาและชุมชนรวมถึงธรรมชาติของเด็กตนเอง ซึ่งเป็นงานที่ยากลำบากสำหรับครูที่ “ไม่ได้เรื่อง”
Advertisement
|