ใครหลายคนที่พับผ้าพันคอเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้ามานาน ตอนนี้เห็นทีต้องหยิบออกมาพันคอเพื่อคลายหนาวกันอีกครา     ผ้าพันคอ นั้นไม่เพียงแต่เป็นเครื่องป้องกันความหนาวเย็นของอากาศที่มากระทบผิวกายเท่านั้น แต่ยังเป็นแอคเซสเซอรี่ชิ้นง่ายๆ ที่ทำให้สาวๆ หลายคนกลายเป็นสาวเก๋อินเทรนด์ขึ้นมาในบัดดลทีเดียว เพียงแค่รู้จักหยิบมามิกซ์แอนด์แมตซ์ให้ถูก      เพื่อให้บรรดาสาวๆ เทรนดีทุกคนสวยอินเทรนด์รับลมหนาว ผศ.ดร.อโนทัย ชลชาติภิญโญ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาการสิ่งทอ คณะอุตสาหกรรม ม.เกษตรศาสตร์ จึงอาสามาแนะวิธีการพันผ้าผันคอให้ดูดีมีสไตล์ตามแบบสาวอินเทรนด์กัน     เริ่มที่แบบ Double Flip การพันผ้าทิ้งโค้งแบบหลวมๆ มาด้านหน้าให้มีความสูงต่ำไม่เท่ากัน เริ่มจากพาดผ้าพันคอโดยให้ชายทั้งสองข้างเท่ากัน และจับปลายผ้าพันคอข้างใดข้างหนึ่งคล้องกลับขึ้นไป จากนั้นจึงดึงปลายผ้าพันคอข้างที่คล้องขึ้นไปให้ลงมาอยู่ด้านหน้าให้มีลักษณะสูงต่ำกว่าอีกข้าง หรือจะพาดให้เท่ากันทั้งสองด้านก็ได้     แบบที่ 2 คือ การพันผ้าผันคอแบบ Neck-Tie ทำได้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้เริ่มจากพับครึ่งผ้าพันคอในแนวยาว จากนั้นให้นำปลายทั้งสองข้างมาทบกัน เสร็จแล้วให้นำมาพันรอบคอโดยสอดส่วนปลายผ้าที่ทบกันเข้าไปในช่องระหว่างกลางผ้าทั้งสองด้าน และดึงปลายผ้าทั้งสองข้างลงมาก็ดูเก๋ไม่น้อย    แบบที่ 3 คือการพันผ้าพันคอแบบ Ascot หรือการพันแบบผู้ดีอังกฤษ ซึ่งไอดอลที่เริ่มนำเทรนด์การพันผ้าพันคอประเภทนี้มาใช้ก็คือ เดวิด เบคแฮม ซูเปอร์สตาร์ดาวซัลโวของอังกฤษ เพราะแทนที่เขาจะใส่เชิ้ตผูกเนกไทอันแสนเชย ก็เปลี่ยนมาใช้ผ้าผืนสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดมาผันที่คอแทน       สำหรับการพันผ้าวิธีนี้ควรจะใส่คู่กับเสื้อที่มีคอปก เริ่มจากนำผ้าพันคอมาคล้องคอปล่อยชายห้อยทั้ง 2 ข้าง จากนั้นนำชายข้างหนึ่งมาสอดตลบให้เหมือนเนกไท เสน่ห์ของผ้าพันคอแบบนี้คือ การซ่อนชายผ้าเข้าไปในตัวเสื้อ ให้เหลือส่วนที่โผล่ปิดคอเสื้อเท่านั้น จะยกให้สูงหรือพอดีคอก็ได้ แล้วเพิ่มความหรูหราขึ้นมาอีกนิด ควรติดเข็มกลัดเพชรไว้ด้านหน้าด้วย    แบบที่ 4 คือวิธี Double Wrap คือการนำผ้ามาคล้องให้ชายผ้ายาวเท่ากัน จากนั้นนำชายผ้าพันคอพาดไขว้ไปด้านหลังสลับกัน แล้วจึงดึงปลายผ้าพันคอที่อยู่ด้านหลังลงมาให้ปลายทั้งสองข้างเท่ากัน    แบบที่ 5 คือ Classic Flip เป็นการพันผ้าพันคอแบบสไบเฉียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งทำได้ดังต่อไปนี้คือ เริ่มจากคลี่ผ้าพันคอมาพาดบนไหล่ทั้ง 2 ด้าน จากนั้นให้ตลบชายผ้าพันคอด้านใดด้านหนึ่งพาดไปด้านหลังอีกข้างหนึ่ง เหมือนสาวโบราณที่ห่มสไบเฉียง และถ้าหากอยากเพิ่มความหวานขึ้นไปอีก ควรติดเข็มกลัดใกล้ๆ กับหัวไหล่เพื่อไม่ให้ผ้าหลุดลงมาสร้างความรำคาญได้    แบบที่ 6 การพันผ้าพันคอแบบลูกเสือ ต้องเลือกผ้าพันคอแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส พับชายให้เป็นแบบสามเหลี่ยม แล้วนำมาพาดไหล่ โดยให้ชายสามเหลี่ยมอยู่ด้านหลัง จากนั้นรวบชายด้านซ้ายและขวามัดกันแบบหลวม เพื่อเพิ่มความเซ็กซี่ควรปล่อยชายสามเหลี่ยมผืนผ้าให้ถึงเอว และควรเปิดโชว์ให้เห็นความงามของไหปลาร้าด้วย ก็จะทำให้ดูเซ็กซี่ยิ่งขึ้น     นอกจากรู้วิธีการพันผ้าพันคอแบบเก๋ ๆ ไป 6 แบบ แล้ว ถ้าต้องการความเพอร์เฟกต์ยิ่งขึ้น ควรจะต้องพิถีพิถันในการเลือกแบบของผ้าพันคอให้เข้ากับบุคลิกของตัวเองด้วย ผศ.ดร.อโนทัย แนะนำเพิ่มเติมว่า     “ถ้าเราเป็นสาวที่ออกสไตล์หวานๆ ก็ควรเลือกผ้าพันคอที่มีลักษณะแบบกรุยกรายตีเกร็ด หรือมีลูกไม้ก็จะยิ่งเพิ่มความหวานได้อีก ส่วนสาวเปรี้ยวนั้นเพื่อเพิ่มความเซ็กซี่ขึ้นไปอีก ควรเลือกผ้าพันคอที่เป็นเนื้อผ้าซาตินที่สัมผัสแล้วให้ความรู้สึกเย็นๆ หรือถ้าเป็นหญิงสาวที่ชื่นชอบความหรูหราก็ควรใช้ผ้าพันคอที่มีดีเทลค่อนข้างละเอียดอย่างผ้าไหม ขณะเดียวกัน ถ้าเป็นสาวห้าวก็ควรใช้ผ้าพันคอประเภทที่เป็นผ้าฝ้ายเนื้อหยาบ หรือเลือกใช้โทนสีเข้มเพื่อเพิ่มความทะมัดทะแมงให้ตัวเองดูคล่องตัวมากยิ่งขึ้น”     เห็นไหมว่าเพียงแค่รู้จักนำสิ่งที่มีอยู่มามิกซ์แอนด์แมทซ์ให้เข้ากับบุคลิกของตัวเอง ก็จะทำให้สาวๆ ทุกคนสวยตลอดซีซั่นนี้อย่างแน่นอน ที่มา .. ผู้จัดการออนไลน์ และ women.thaiza.com/

Advertisement