![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/532/34532/images/movie/Hollywood/2012/00.jpg)
ชาวมายันหรือชนเผ่ามายาโบราณคือชนเผ่าที่เคยรุ่งเรืองในอดีตมีถิ่นฐานอยู่ในเม็กซิโก ได้เคยสร้างปฏิทินไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปฏิทินเกี่ยวกับการทำเกษตรกรรม ปฏิทินเกี่ยวกับการโคจรของดวงอาทิตย์ ว่ากันว่าอาจมีถึง 15 – 20 ปฏิทินที่ชาวมายันได้พัฒนาในช่วงเวลานั้น แต่มีปฏิทินหนึ่งที่ปัจจุบันกำลังกล่าวถึงกันอย่างมากเพราะมันเป็นการทำนายถึงการสิ้นสุดโลกเอาไว้ มันคือปฏิทินแบบ Long Count ซึ่งกำหนดว่าปฏิทินของจักรวาลรอบละ 25,625 ปี และจะแบ่งเป็นรอบย่อย 5 รอบคือรอบละ 5,125 ปี และรอบสุดท้่ายที่ถูกตีความก็คือรอบที่เราอยู่ในปัจจุบันและวันสุดท้ายของรอบสุดท้ายนี้หรืออีกนัยหนึ่งวันหมดอายุของโลกก็คือ 21 ธันวาคม 2012!!!
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/532/34532/images/movie/Hollywood/2012/p01.jpg) ![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/532/34532/images/movie/Hollywood/2012/P02.jpg)
ข้อความข้างบนคือใจความสำคัญของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ปลายปี 2009 ที่มาพร้อมกับการกำกับของโรแลนด์ เอ็มเมอริค ผู้เคยทำลายโลกมาหลายรอบแล้วตั้งแต่ปี 1996 เมื่อเอเลี่ยนพันธ์ตั๊กแตนเอาจานบินลำยักษ์มาปิดท้องฟ้าทั่วโลก (ID4) ปี 1998 พาเจ้าก๊อตจิยักษ์พันธ์อเมริกาทำลายเมืองแมนฮัตตั้นเสียสิ้นซาก (Godzilla) และปี 2004 ยังมีส่วนร่วมในนำน้ำแข็งขั้วโลกละลาย สร้างคลื่นยักษ์ถล่มโลกเสียราบเรียบแล้ว (The Day after tomorrow) คงไม่อยากทำหายนะให้กับโลกอีกแล้วเลยทำโลกให้เหี้ยนเตียนไปกับคำทำนายของชนเผ่ามายัน (แต่แว่วๆว่าจะมี ID4 ภาค 2 อีก) ดังนั้นโรแลนด์ เอมเมอริค จึงไม่เป็นที่ครหากับการทำภาพหายนะหรืออุบัติภัยครั้งสำคัญของมนุษยชาติได้
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/532/34532/images/movie/Hollywood/2012/01.jpg)
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/532/34532/images/movie/Hollywood/2012/04.jpg)
ภาพยนตร์ที่ไม่ต้องเดาหรือวางพล็อตเรื่องใดๆก็รู้ว่าภาพและเนื้อเรื่องที่ผู้ชมจะพบเจอคืออะไร นอกจากคอมพิวเตอร์กราฟฟิคที่เป็นพระเอกของเรื่องอย่างแน่นอน ภาพโลกทั้งใบที่ถล่มไปต่อหน้าต่อตาดูเหมือนจริงจนนึกว่าอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ หรือว่าอีก 3 ปีเราต้องเจอกับเหตุการณ์นั้นจริงๆตามคำทำนาย ในขณะที่เรื่องราวไม่ต่างจาก Deep Impact จนเกือบจะพิมพ์เดียวกันแต่ต่างในรายละเอียด แต่บางรายละเอียดก็เหมือนกันจนน่าตกใจ แต่ใครจะสนล่ะเพราะทุกคนต่างอยากดูหายนะที่เหมือนจริงกันทั้งนั้น โดยไม่ต้องรอว่าอีก 3 ปีจะได้ชมจริงหรือเปล่า
เอเดรียนนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันพบเจอแกนโลกที่ร้อนระอุจากการไปพบปะเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ชาวอินเดีย และกลายมาเป็นชนวนให้ผู้นำผิวสีของสหรัฐอเมริกาเรียกประชุมผู้นำทั่วโลกเพื่อหาทางออกให้กับวิกฤติที่กำลังจะเกิดขึ้นและทางออกที่มวลมนุษย์จะรอดพ้นไปได้ แต่ภาพยนตร์จริงๆกับพาไปอยู่กับชายหนุ่มที่หย่าร้างกับภรรยา แจ็คสัน เคอร์ติส (จอห์น คูแซค) ที่ต้องพาลูกที่อยู่กับภรรยาไปแคมป์ที่ทะเลสาบและพบเจอว่าทะเลสาบที่เคยสวยได้แห้งหายไปหมดและปะติดปะต่อกับสิ่งที่เจอทำให้เขารู้ว่าต้องหาทางพาครอบครัวของเขาให้รอดพ้นจากหายนะให้ได้ เรื่องคุ้นๆใช่ไหมล่ะ
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/532/34532/images/movie/Hollywood/2012/07.jpg) ![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/532/34532/images/movie/Hollywood/2012/08.jpg)
ภาพยนตร์ที่มาพร้อมกับความบันเทิงเต็มรูปแบบ แต่ก็มีข้อสติเตือนใจเสมอว่าโลกที่เราใช้อย่างฟุ่มเฟือยอยู่ทุกวันก็มีวันหมดอายุลงได้ แม้จะมีคำเตือนล่วงหน้ามากมายจะมาจากคำทำนายของชาวมายันหรือใครๆก็ตาม แต่การทำร้ายโลกก็ยังไม่จบสิ้น เพราะปรัชญาใหญ่ของทุนนิยมก็คือปลาใหญ่กินปลาเล็ก ใครแข็งแรงกว่า(เรื่องทุน)ย่ิอมอยู่รอด น่าตลกที่ภาพยนตร์จงใจล้อเลียนระบบประชาธิปไตยที่ถูกแสร้งให้เป็นระบบที่ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน แต่เมื่อถึงคราวหายนะของโลก ระบบที่ว่าไม่ได้หาได้มีความสำคัญ แต่เป็นว่าใครจ่ายค่าอยู่รอดได้สูงก็เป็นมนุษย์ที่อาจจะรอดพ้นภัยได้ ซึ่งต่างจากในเรื่อง Deep Impact ที่ใช้การสุ่มคนเพื่อถูกคัดเลือกให้ดำรงอยู่ แต่ใน 2012 ก็จงใจสร้างประเด็นของทุนนิยมขึ้นมา เพื่อชี้ให้เห็นบทสรุปแห่งคุณธรรมว่ามนุษย์ถ้าจะรอดผ่านไปสู่ยุคใหม่ได้โดยไม่เริ่มที่จะปกป้องเผ่าพันธุ์เดียวกัน สุดท้ายมนุษย์ก็ไม่รอดพ้นจากการสังหารกันเองอยู่ดี บางทีบททดสอบปี 2012 อาจจะไกลตัวไปหน่อย เพราะประเทศไทยก็เจอบททดสอบนี้อยู่เช่นกัน แต่ไม่ใช่หายนะทางธรรมชาติหรืออะไร แต่เป็นหายนะที่เกิดจากทุนมากที่สุดที่ไปอยู่กับคนโง่ที่สุดที่ประเทศไทยเคยมีมา คนที่คนเกือบค่อนประเทศกลับไปยกย่องว่าฉลาด สร้างตัวจนร่ำรวย แต่จริงๆแล้วน่าจะเป็นคนที่โง่ที่สุด ไม่โง่ได้อย่างไรร่ำรวยเงินทองมากมายแต่ไร้ความสุข และพยายามจะทำลายความสุขคนอื่นอีกด้วย เข้าทำนองคนโง่อยู่เฉยๆไม่มีภัยแต่โง่แล้วขยันจะอันตราย แต่โง่แล้วเสือกมีทุนมากมายแถมยังขยันสร้างความวุ่นวาย ประเทศจะสงบสุขได้อย่างไร บางทีบททดสอบของมวลมนุษย์อาจไม่ใช่หายนะตามคำทำนาย แต่เป็นภัยจากมนุษย์ด้วยกันเอง เพราะถ้ามนุษย์เอื้อเฟ้อดูแลกันต่อให้ภัยอันตรายใหญ่สักเพียงใด สติปัญญาคนเป็นหลายพันล้านคนก็คงผ่านพ้นไปได้ แต่ถ้ามนุษย์เลือกที่จะใช้ปรัชญาตะวันตกหรือทุนนิยมตามที่หลายๆคนเทิดทูน แม้จะผ่านหายนะครั้งร้่ายแรงไปได้ แต่มนุษย์ที่มีทุนมากมายเหล่านั้นหาใช่คนที่แข็งแรงสุดที่จะอยู่รอดในโลกใบใหม่ได้ เพราะขาดจิตวิญญาณที่จะอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตอื่นอย่างชัดเจน เพราะโลกใบเดิมที่หมดอายุลงไปอาจจะใช้ทุนเป็นพระเจ้า แต่โลกใบใหม่ทุนคงเป็นแค่เศษกระดาษกองหนึ่ง
|