ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ |
เจ้าของโพสต์นี้ นายศุภวัฒน์ คุณานุวัฒน์ จากจังหวัด จันทบุรี |
|
เรื่องของ....น้ำพุ..... |
โพสต์เมื่อวันที่ : 9 พ.ย. 2552 IP : เปิดอ่าน : 6961 ครั้ง คะแนนของ BLOG นี้ (76.29%-140 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย > |
|
![เพิ่มเพื่อน](http://biz.line.naver.jp/line_business/img/btn/addfriends_en.png) |
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย
|
|
Advertisement
|
.....
เรื่องของน้ำพุ
น้ำพุ เป็นหนังเกี่ยวกับวัยรุ่นเรื่องแรกในความทรงจำของผม
![](http://www.bloggang.com/data/mr-cozy/picture/1185176831.jpg)
น้ำพุ เด็กที่เกิดในครอบครัวที่แตกแยก ทั้งพ่อและแม่ก็เป็นศิลปินทั้งคู่ เมื่อน้ำพุโตขึ้นจึงเดินทางผิด คิดลองสิ่งเสพติด ยิ่งเมื่อแม่มีสามีคนใหม่ จึงเป็นตัวเร่งให้เขาเริ่มแปลกแยกจากครอบครัว บวกกับการที่เขาเลือกคบเพื่อนที่เสพย์ยา จนติดยาหนัก แก้วเพื่อนสนิทของน้ำพุทราบ ทำให้น้ำพุเสียใจมาก จึงตัดสินใจบอกแม่และครอบครัว เดินทางไปวัดถ้ำกระบอกกับเพื่อนเพื่อเลิกยา แต่เมื่อเขากลับมาบ้านอีกครั้ง เขากลับไม่ได้รับการต้อนรับอย่างดีเท่าที่เขาคาดหวัง จึงเกิดความรู้สึกน้อยใจตามประสาวัยรุ่น จึงฉีดเฮโรอีนเกินขนาดจนถึงขั้นเสียชีวิต
เรื่องของน้ำพุ
วงศ์เมือง นันทขว้าง
น้ำพุเกิดเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2499 ชื่อน้ำพุเป็นชื่อเรียกกันเล่น ๆ ในครอบครัว
น้ำพุจบชั้นมัธยมที่โรงเรียนศรีวิกรม์ และจากนั้นได้จากไปเรียนที่เชียงไหม่ปีหนึ่ง ที่ไปเรียนก็เพราะว่าตามใจแม่ เมื่อเห็นควรว่าที่นั่นจะดีกว่า น้ำพุก็ไปตามคำ เมื่อไปเรียนจึงรู้ว่าน้ำพุไม่ได้ชอบวิชาที่เรียนเลย แต่ชอบศิลปะมากกว่า จึงได้ขอแม่มาเรียนก่อนเปิดเรียนในปีนั้น น้ำพุได้บวชเรียนอยู่เดือนหนึ่ง เมื่อเปิดภาคเรียนแล้วจึงสึกออกมาเรียนต่อ ระหว่างนั้นน้ำพุอยู่ในความอุปการะของป้า
ระหว่างปีสุดท้ายของการเรียน น้ำพุเริ่มคบเพื่อนหน้าตาแปลก ๆ และพาเข้ามาในบ้านให้แม่เดือดร้อนใจอยู่เสมอ เช่นริอ่านทำความรู้จักกับเหล้าแห้ง กัญชา และยาเสพติดชนิดต่าง ๆ
จากนั้นน้ำพุก็เปลี่ยนใช้ยาที่แรงขึ้น ๆ จนกระทั่งถึงเฮโรอีน เมื่อมาสารภาพว่าติดแล้วนั้น น้ำพุกำลังเตรียมตัวจะไปอดที่ถ้ำเขากระบอก มาขอเงินแม่สามร้อยบาท ครั้งแรกตั้งใจจะไปโดยไม่บอก แต่หาเงินเท่าไรก็ไม่ได้จึงจำเป็นต้องมาสารภาพ ระหว่างนั้นตัวของแม่น้ำพุเองต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัด จึงไม่อาจจะจะไปดูแลน้ำพุที่ถ้ำเขากระบอกได้ เมื่อกลับมาน้ำพุสดใสขึ้นมาก ทำให้ครอบครัวมีความหวังว่าน้ำพุจะดีขึ้น
มีคนถามแม่ของน้ำพุเสมอ หลังจากน้ำพุได้สิ้นชีวิตแล้วว่า “เลี้ยงลูกอย่างไรถึงได้ปล่อยให้ติดเฮโรอีน”
ทำให้ต้องนิ่งและไม่อาจหาคำตอบได้
แต่แม่น้ำพุบอกว่าถ้าจะให้ตอบจริง ๆ แล้ว ก็จะต้องโทษตัวเองว่า “เลี้ยงลูกไม่เป็น”
และเมื่อไรที่ลูกชายสิ้นชีวิตไปเพราะยาเสพติดจึงนำเอามาเปิดเผย เพราะไม่ใช่เรื่องที่ดี น่าจะปิดเป็นความลับไว้มากกว่า
คำตอบตรงบรรทัดนี้มีอยู่ว่า เพราะไม่อยากให้ลูกของคนอื่น ๆ ต้องเสียชีวิตไปเพราะยาเสพติดอีก ถ้าเรื่องของน้ำพุจะเป็นประโยชน์ต่อเรื่องของใครคนอื่นได้ แม่ของน้ำพุจะยินดีอย่างยิ่ง และจะไม่ขออะไรอื่นนอกจากผลกุศลที่ได้เกิดจากสิ่งที่ทำไปแล้วนี้ ขอให้น้ำพุจงไปมีความสุขในโลกใหม่ หรือที่ใดก็ตามที่น้ำพุไปอยู่
เมื่อน้ำพุกลับมาแล้วก็ตั้งใจเรียนดีขึ้น หลังที่ได้เสียเวลาไปถึงสองปี ปีแรกที่เชียงใหม่ และปีที่สองไม่ได้สอบที่โรงเรียนช่างศิลป์ เพราะต้องเข้าโรงพยาบาลถึงเดือนเนื่องด้วยโรคไวรัสลงตับ เวลาเรียนมีไม่พอสอบ
แม่น้ำพุกล่าวว่า วันสุดท้ายที่ได้พบลูกนั้นเป็นคืนวันที่ 27 พฤษภาคม ตอนเย็นลูกไปหาที่โรงพิมพ์ พาสาวน้อยหน้าตาจุ๋มจิ๋มไปด้วย และบอกว่าขอเงินไปเอากางเกงนักเรียน ได้หยิบเงินให้ไปและสั่งว่าอย่ากลับค่ำ น้ำพุก็รับเป็นอันดี เมื่อไปถึงบ้านนั้นประมาณสามทุ่ม น้ำพุมาเปิดประตูรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ใครจะรูว่านั่นเป็นการเปิดประตูครั้งสุดท้ายของลูก จากนั้นน้ำพุก็เอารูปมาอวด และบอกว่า “ตั้งแต่เกิดมาน้ำพุยังไม่เคยได้เขียนรูปได้ดีเท่านี้เลยแม่” แม่น้ำพุรับมาดูและชมด้วยใจจริงว่า “ดูดีนี่ แต่ทำไมไม่ใช้ดินสอดำ”
“น้ำพุไม่ชอบสีดำ”
แม่น้ำพุขึ้นนอน แต่นอนไม่หลับ ลูกสาวคนโตก็ยังไม่กลับ เธอมีงานที่มหาลัยจึงกลับล่าไปมาก น้ำพุออกไปช่วยพี่สาวขนของ มีรูปซึ่งเป็นภาพพิมพ์ และกล่องผ้าเช็ดหน้าที่ทำขายในมหาวิทยาลัย ซึ่งน้ำพุสนใจมาก เลิกเรียนแล้วก็ไปนั่งดูว่าพี่สาวจะขายผ้าเช็ดหน้าได้สักเท่าไร จะขาดทุนหรือได้กำไร
“พี่กบ….วันนี้ขายได้เท่าไร” น้ำพุถาม…โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ ก่อนที่จะออกไปช่วยพี่สาวขนของลงจากรถ
เราเอารูปภาพพิมพ์ที่ได้มาจากเพื่อน ๆ ของลูกไปลองติดตามห้องต่าง ๆ น้ำพุลองติดห้องของพี่ของน้องเดินไปจนทั่วบ้านราวกับจะสั่งลา ท้ายสุดนั้นแม่ของน้ำพุและลูกอีกสองคนเดินลง
มาชั้นล่าง…ก็ที่ห้องน้ำพุนั่นแหละไม่ทราบว่าลงมาทำไมเหมือนกัน ทั้งที่ดึกมากแล้ว น้ำพุยังไม่นอน บอกว่าจะทำการบ้าน และพูดกับแม่น้ำพุเป็นคำสุดท้ายว่า “แม่…น้ำพุจะซื้อสีน้ำมัน แม่ซื้อให้พุนะ…จะเอามาเขียนรูปติดห้อง แม่ว่าพุเขียนได้ไหม”
“ได้ซิ” แล้วแม่ของน้ำพุก็ออกมาจากห้องลูก…ขึ้นนอนน่าแปลกที่นอนไม่หลับเลย จนเกือบจะรุ่งสางจึงหลับไปได้นิดหนึ่ง รู้สึกได้ยินเหมือนอะไรล้มอยู่ข้างล่าง แต่ก็แว่ว ๆ เต็มที มานึกได้ทีหลังเสียอีกด้วย
ก่อนเข้าบ้านในวันนั้น น้ำพุโทรศัพท์ไปหาอ๊อดเพื่อนสนิท ชวนมานอนบ้านแต่อ๊อดไม่มา
คนใช้ไปปลุกแม่ของน้ำพุตอนเช้ามืดให้ไปดูน้ำพุ น้ำพุนอนเหยียดยาวอยู่หน้าเตียง แผ่นเสียงยังหมุนและไฟยังเปิด น้ำพุสวมกางเกงขาสั้นตัวเดียว ถอดเสื้อ
เหมือนหัวใจจะขาดตามลูกไปด้วย ได้อุ้มลูกขึ้นรถให้พี่สาวน้ำพุขับไปโรงพยาบาล หมอสันนิษฐานว่า น้ำพุหัวใจวาย แต่ใคร ๆ ก็รู้ว่าน้ำพุไปเพราะยาเสพติด น้ำพุอาจจะหวนกลับไปใช้ยา ซึ่งไม่มีผู้ใดรู้ว่าเป็นยาชนิดใด และยานั้นคงจะรุนแรง จนสามารถทำให้หัวใจน้ำพุหยุดโดยเฉียบพลันไม่มีใครช่วยได้
![](http://4.bp.blogspot.com/_lmvXdc5w4wo/SZGO5j1S9PI/AAAAAAAAACw/dGXL8LxyoQA/s320/DSC01940.jpg)
ประโยชน์ สาระความรู้และข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้
1.การเลี้ยงลูก ควรจะทำความเข้าใจลูกให้มากที่สุด ว่าลูกต้องการสิ่งใด เข้าใจความรู้สึกของลูกในขณะนั้น ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วจะทำให้ลูกว้าเหว่ เหงาและอาจหันไปพึ่งสิ่งที่ไม่ดีได้ อย่างเช่นน้ำพุ คือ น้ำพุเป็นลูกผู้ชายคนเดียง บางครั้งว้าเหว่มาก และเข้ากับพี่น้องไม่ได้ เมื่อผู้หญิงเล่นอะไรกันก็จะถูกไล่ออกมา
2.วัยรุ่น เป็นวัยที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นวัยที่สับสนว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับวัย ในเรื่องนี้ชี้ให้เห็นถึงการเดินทางผิดของวัยรุน ซึ่งหันไปพึ่งยาเสพติด
3.เรื่องการคบเพื่อน เพื่อนเป็นส่วนประกอบในชีวิตที่สำคัญมาก ซึ่งถ้าเราคบเพื่อนที่ดี เพื่อนจะพาเราไปในทางที่ดี หากคบเพื่อนที่ไม่ดี เพื่อนจะพาเราไปพบกับความหายนะได้ ดังเช่นคำกล่าวที่ว่า “คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล”
4.ความรู้เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด ซึ่งเป็นสิ่งที่มีแต่โทษไม่ควรริลอง
5.การปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน มีหลายวิธี ไม่จำเป็นจะต้องตามเพื่อนทุกอย่าง เราควรนำสิ่งที่คิดว่าดี และเข้ากับเพื่อนได้เฉพาะในทางที่ดีเท่านั้นมาแสดงออก แต่ถ้าเข้ากันไม่ได้ ควรจะปรับตัวใหม่ ไม่ใช่ตามเพื่อนทุกอย่าง เพราะเพื่อนอาจชักชวนให้เราเสียคนได้
6.การปรับตัวให้เข้ากับครอบครัว โดยต้องสื่อความกันให้รู้เรื่อง พูดจากันอย่างมีเหตุผล ว่าใครต้องการอะไร เมื่อเกิดปัญหา ควรจะหันหน้าเข้าหากัน ช่วยกันแก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้น
7.พ่อแม่ควรรักและเอาใจใส่ลูกให้มาก คอยดูแลพฤติกรรมของลูก ไม่ให้ลูกเดินไปในทางที่ผิด แต่ไม่ใช่บังคับลูก ควรสอนให้ลูกรู้ดีชั่ว ยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจน เพื่อให้ลูกได้มีแนวทางปฏิบัติ
8.ตัวของวัยรุ่นเอง ควรจะมีสติมีความยับยั้งชั่งใจให้มาก เมื่อมีปัญหาควรจะเข้าหาผู้ใหญ่ เพราะการตัดสินใจด้วยตนเอง เนื่องจากขาดประสบการณ์ อาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้
9.หนังสือเรื่องนี้เป็นสื่อที่ดี ที่ให้วัยรุ่นได้ดูเป็นตัวอย่างเมื่อเข้าไปข้องแวะกับยาเสพติด และจะเกิดผลอย่างไร รวมถึงผู้ปกครองว่าควรให้คำแนะนำกับลูก ๆ อย่างไรในการดำเนินชีวิต
10.เรื่องการเรียน เราควรตั้งใจเรียนหนังสือให้จบ ไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจและคิดมาก ก่อนที่สายเกินไป เช่น เมื่อพ่อแม่จากเราไปแล้ว เราจะมานั่งคิดเสียใจว่ายังไม่ได้ทำอะไรให้ท่านดีใจ ปลื้มใจ และตอบแทนท่านเลย เพราะกว่าจะคิดได้ก็สายไปเสียแล้ว
น.ส.ณัฐกมล นทีทวีวัฒน์
42213387 ห้อง c
ชั้นปีที่ 2 ภาควิชาเคมี
คณะวิทยาศาสตร์
![](http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:cEV5RhoiEJ0CvM:http://www.madoomovie.com/media/0811%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9E%E0%B8%B8.jpg)
น้ำพุ : ดูหนังออนไลน์
720x705-92k - jpg
madoomovie.com
เรื่องของน้ำพุ
น้ำพุ เป็นหนังเกี่ยวกับวัยรุ่นเรื่องแรกในความทรงจำของผม
![](http://www.bloggang.com/data/mr-cozy/picture/1185176831.jpg)
การเสียชีวิตเพราะเสพเฮโรอีนเกินขนาดของ วงศ์เมือง นันทขว้าง เมื่อ 20 ปีก่อนถือว่าเป็นเรื่องฮือฮามากเพราะ"น้ำพุ"ไม่ใช่แค่วัยรุ่นธรรมดา แต่เขาเป็นลูกชายคนเดียวของ สุวรรณี สุคนธา นักเขียนชื่อดังสมัยนั้น เริ่มต้นด้วยหนังสือ "เรื่องของน้ำพุ" ที่โด่งดังเป็นพลุแตก ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องระดับชาติมาทันที คำว่า"เด็กมีปัญหา" ที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมา ก็อยู่บนบทสนทนาทุกหน้าหนังสือพิมพ์ จนกระทั้งมีการทำเป็นภาพยนตร์
หนังเปิดเรื่องแบบไม่ต้องลุ้น เพราะเอาฉากจบที่น้ำพุเสียชีวิตมาเป็นฉากเริ่มเรื่อง แล้วค่อยย้อนกลับไปถึงปัญหาต่างๆ ที่เด็กอายุไม่ถึง 18 ต้องรับมือกับมัน พ่อ-แม่หย่าร้างแยกทาง ทั้งบ้านมีแต่ แม่ - พี่สาวน้องสาว การคบเพื่อน การคบหญิงสาว เรื่องราวทั้งหมดที่เขาแทบจะไม่มีใครให้คำแนะนำเลย นอกจากเพื่อนฝูงวัยเดียวกัน
ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างสูง ผกก. ยุทธนา มุกดาสนิท ได้เครดิตไปเต็มที่ ทีมนักแสดงได้แก่ ภัทราวดี มีชูธน เรวัติ พุทธินันท์ สุเชาว์ พงษ์วิไล แสดงได้ยอดเยี่ยม หนังทำรายได้ถึง 15 ล้านบาท หนังยังได้เข้าชิงรางวัลต่างๆในเทศกาลภาพยนตร์เอเซีย-แปซิฟิกครั้งที่ 29 หนึ่งในนั้นคือ ดารานำชายยอดเยี่ยมที่ "พี่หนุ่ย" อำพล ลำพูน เล่นได้ดีราวกับเกิดมาเพื่อรอเล่นบทนี้
แต่หลังจากนั้นภาพพจน์"เด็กมีปัญหา"ก็ติดตัวอำพลมาจนทุกวันนี้ จนเล่นบทอื่นแทบไม่ได้
หนังแสดงออกอย่างชัดเจนเรื่อง"เวลาที่ไม่มี" แม่กำลังรีบเดินออกบ้าน ลูกชายยืนรอที่ประตูบอกว่ามีเรื่องจะพูดด้วย ไว้ก่อนนะลูก แม่กำลังยุ่ง - แม่พูดขณะกำลังใส่รองเท้า น้ำพุพูดโพล่งออกไป "แม่ฮะ พุติดยา"
น้ำพุก็ใช่ว่าจะเป็นเด็กไม่รู้ผิดชอบ อย่างน้อยเขาก็กล้าสารภาพกับแม่และไปอดยาที่วัดถ้ำกระบอกมาแล้ว - จดหมายทั้ง 10 ฉบับที่น้ำพุเขียนถึงแม่ เมื่อคราวไปอดยา ที่ลงในหนังสือ"เรื่องของน้ำพุ" ผมอ่านแล้วก็รู้เลยว่าเขาอ่อนไหวแค่ไหน ถ้าเขาไม่เสียชีวิตไปก่อนจะต้องเป็นนักเขียนที่ดีได้แน่นอน - แต่การไปเลิกยาไม่ใช่ปัญหา เพราะทันทีที่เขากลับบ้านเขาก็เจอประสบการณ์เดิมๆที่ทำให้ต้องไปนั่งเหงาๆคนเดียวในห้อง
ปัญหาคือการไม่เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย แม่มุ่งทำงานจนเวลาจะไม่มีให้ ตัวเขาและแม่เหมือนกับมีอะไรมาคั้นกลาง ครั้นพอจะไปคุยกับพ่อซึ่งเป็นศิลปินจิตกรก็ใช้ภาษายากเสียจนเด็กอย่างเขาจะเข้าใจอะไรได้ - ทั้ง 2 ฝ่ายต่างคิดว่าตนเองทำดีที่สุดแล้ว แต่สำหรับเด็กบางคน มันไม่พอแค่ไปดูผลสอบด้วย หรือ กอดเขาเพียงบางเวลา
หนังออกฉายราวปี 2527 แต่เอามาดูในวันนี้ยังทันสมัย เพราะเสนอได้ตรงใจผมที่ระบุว่ายาเสพติดเป็นแค่ทางเลือก แม้มันจะผิดแต่อย่าลืมว่ามันต้องมีอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เด็กวัยรุ่นหลายต่อหลายคนทุกยุคสมัยเลือกมันเป็นคำตอบที่จะหนีจากปัญหาที่เผชิญ
สำหรับผมที่ผ่านวัยรุ่นมาไม่นาน บอกได้เลยว่าเพื่อนผมทุกคนที่เอาตัวไปยุ่งกับยาเสพติดล้วนมีปัญหาครอบครัวทั้งนั้น การไปไล่อุ้มฆ่าพวกค้ายาเป็นแค่ปลายเหตุ เชื่อผมเถอะว่าต่อให้ยาเสพติดมันหมดโลกพวกเขาก็หาวิธีอื่นทำลายตัวเองได้อยู่ดี เพราะโลกนี้สำหรับพวกเขามันทั้งเงียบเหงาและว้าเหว่ - ผมไม่ได้บอกว่าให้ไปแก้ไขเรื่องครอบครัวพวกเขา แต่น่าจะมีที่ทางอื่นให้เด็กเหล่านี้มีทางออกมากกว่าไปสุมหัว หาทางแก้เองแบบไร้ทิศทาง สิบกว่าปีตั้งแต่ผมเป็นวัย Teen จนทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าการแก้ปัญหาไม่เคยพัฒนาสักนิด
"น้ำพุ" เป็นหนังที่ช่วยทำให้ผมผ่านวัยรุ่นมาได้ แม้จะเกเรแต่ก็รู้ลิมิต และเป็นหนังที่สักวันหนึ่งถ้าผมเป็นพ่อคน ก็จะช่วยเตือนให้รู้ว่าเด็กไม่ได้เหมือนกันทุกคน
- "น้ำพุ" วงศ์เมือง นันทขว้าง เสียชีวิตเมื่ออายุ 18 ปี 2 เดือน 15 วัน
[จะฟังก็จิ้มเอาเองนะจ๊ะ]
Advertisement
|