หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
จิราภรณ์ หอมกลิ่น
จากจังหวัด ยโสธร

ระวัง!! กินแล้วนอน... โรคกรดไหลย้อน อาจถามหา
โพสต์เมื่อวันที่ : 6 พ.ย. 2552 IP : เปิดอ่าน : 6407 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
(72.50%-8 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย >  
  Share on Google+   LINE it!  
เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย

Advertisement

.....

กรดไหลย้อน คือ ภาวะที่น้ำกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหาร และในบางรายอาจไหลย้อนขึ้นมาถึงคอ และกล่องเสียงได้

ปัจจุบันพบว่า ผู้ป่วยโรคนี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจเป็นเพราะลักษณะรูปแบบการดำรงชีวิตของคนในสัง คมเปลี่ยนไป เกิดความเครียด มีความเร่งรีบในการทำงานทำให้ผู้คนนิยมรับประทานอาหา รจานด่วนที่อุดมไปด้วยไขมัน คาร์โบไฮเดรต และแคลอรี่สูง รวมทั้งการแพทย์ที่ก้าวหน้า และเครื่องมือที่ทันสมัยทำให้สามารถตรวจ และวินิจฉัยโรคนี้ได้มากยิ่งขึ้นด้วย

ภาวะนี้เกิดเนื่องจากพยาธิสภาพของกล้ามเนื้อหูรูดระหว่างหลอดอาหาร และกระเพาะอาหารทำงานไม่ปกติ อาการสามารถเกิดได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ในระยะเริ่มต้นอาจไม่รู้สึกว่ามuความผิดปกติหรือมีอาการแต่อย่างไร และผู้ป่วยบางรายอาจไม่เคยมีอาการของโรคกระเพาะหรือรักษาโรคกระเพาะมาก่อนเลยก็ได้

น้ำกรดจะระคายเคืองหลอดอาหารทำให้เยื่อบุอาหารเกิดการอักเสบ ผู้ป่วยจะเจ็บในอก รู้สึกแสบร้อนในอกได้โดยเฉพาะเวลาเรอ นอกจากนั้นกรดยังสามารถระคายเคืองกล่องเสียงและคอหอย ได้ด้วย ซึ่งอาการที่บริเวณคอหอยและกล่องเสียง คือ

  • เสียงแหบเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง โดยเฉพาะเสียงแหบในเวลาเช้า
  • รู้สึกขมในปากและคอหลังจากตื่นนอนใหม่ๆ
  • คอและกล่องเสียงอักเสบบ่อยๆ รักษาหายได้ไม่นานก็กลับมาเป็นใหม่อีก
  • ระคายคอ และกระแอมบ่อยๆ รู้สึกว่าคอไม่โล่ง
  • ไอเรื้อรัง แต่พบว่าปอดปกติดี
  • กลืนอาหารลำบาก กลืนติดๆ กลืนไม่ลง กลืนแล้วเจ็บในคอ
  • ผู้ป่วยอาจรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรจุกๆ ในคอ ลมหายใจมีกลิ่น มีกลิ่นปาก
  • มีเสมหะในคอจำนวนมาก
  • รู้สึกว่าเหมือนมีเสมหะไหลลงคออยู่เรื่อยๆ
ผู้ป่วยบางท่านอาจมีแค่อาการใดอาการหนึ่ง ในขณะที่บางท่านอาจมีหลายๆ อาการร่วมกันได้ อาการต่างๆ เหล่านี้อาจทำให้ผู้ป่วยเข้าใจผิดคิดว่ามีเนื้องอก หรือก้อนมะเร็งในคอ ทั้งนี้เมื่อทำการตรวจวินิจฉัยแล้วแพทย์ไม่พบก้อนเนื ้อเหล่านั้นเลย กรณีนี้ทำให้ผู้ป่วยไม่สบายใจ วิตกกังวลและยิ่งเกิดความเครียดมากขึ้น

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน
คือ
  • โรคกระเพาะที่ไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม และต่อเนื่อง
  • การสูบบุหรี่
  • การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  • การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ ช็อคโกแลต
  • การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง รสจัด หรือมีส่วนประกอบของมะเขือเทศในปริมาณมาก
  • การเข้านอนหลังรับประทานอาหารเสร็จ 2 -3 ช.ม.
  • ภาวะโรคอ้วน มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
  • การสวมเสื้อผ้าที่คับแน่น ก็มีผลทำให้เกิดโรคนี้ได้
  • การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับ ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาหวัดบางชนิด เป็นต้น

การตรวจวินิจฉัยภาวะกรดไหลย้อนนั้นแบ่งได้เป็น 2 อย่างด้วยกัน คือ การตรวจด้วยกระจกที่ใช้สำหรับตรวจกล่องเสียงและคอโดย เฉพาะ และการตรวจด้วยการส่องกล้อง ซึ่งการส่องกล้องนั้นแยกได้ออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ
ส่วนที่ 1 คือ การส่องกล้องเพื่อตรวจดูตั้งแต่ลำคอจนถึงกล่องเสียง
ส่วนที่ 2 คือ การส่องกล้องเพื่อดูหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร

การส่องกล้องดูลำคอและกล่องเสียงนั้น สามารถทำได้ที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอก ใช้เวลาไม่นาน ไม่จำเป็นต้องใช้ยาสลบ และผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรมา (ไม่ต้องงดน้ำและอาหาร)

ส่วนการส่องกล้องดูหลอดอาหารและกระเพาะอาหารนั้น ผู้ป่วยต้องเตรียมตัวโดยงดน้ำและอาหารมาก่อน เนื่องจากต้องมีการใช้ยาชา หรือวางยาสลบ และเพื่อที่จะได้ไม่มีเศษอาหารในกระเพาะอาหารมารบกวน ขณะที่ทำการส่องกล้อง

ในผู้ป่วยบางรายพบว่ามีอาการในอกคล้ายกับผู้ป่วยโรคป อด โรคหัวใจ และมะเร็งบางชนิด จึงทำให้อาจต้องมีการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เพื่อช่วยในการวินิจฉัยแยกโรค เช่น การกลืนแป้ง การเอ็กซ์เรย์ หรือเอ็กซ์เรย์ คอมพิวเตอร์ ซึ่งการตรวจเพิ่มเติมเหล่านี้ก็ไม่ก่อให้เกิดความเจ็ บปวด หรือทรมานต่อผู้ป่วยแต่อย่างใด

สำหรับแนวทางในการรักษาภาวะกรดไหลย้อนนั้น แบ่งออกได้เป็น 3 แนวทาง
แนวทางที่ 1 : แพทย์จะให้คำปรึกษาและแนะนำในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม บางอย่างที่มีผลต่อโรคนี้ เช่น ในผู้ป่วยที่สูบบุหรี่แพทย์จะแนะนำให้งดสูบ ในผู้ป่วยที่ชอบรับประทานอาหารปริมาณมากๆ แพทย์จะแนะนำให้รับประทานอาหารแค่พอดี ไม่ควรรับประทานอาหารจนอิ่มเกินไป ผู้ป่วยโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักตัวมากแพทย์จะแนะนำให้งดอาหารรสจัดจำพว กเผ็ดและเปรี้ยว รวมทั้งอาหารที่มีไขมันสูงและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอี น (ชา กาแฟ ช็อคโกแลต) และงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ด้วย รวมทั้งลดอาหารที่มีส่วนประกอบของมิ้นท์ และมะเขือเทศจำนวนมาก

แนวทางที่ 2 : คือ แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานยาเพื่อควบคุมการหลังของกรดในกระเพาะอาหาร ซึ่งในปัจจุบันยามีอยู่หลายกลุ่ม และกลไกการออกฤทธิ์แตกต่างกันไป ดังนั้น ผู้ป่วยจึงควรปรึกษาแพทย์ ก่อนใช้ยา และไม่ควรซื้อยาลดกรดรับประทานเอง เนื่องจากยานั้นๆ อาจไม่เหมาะสมกับสภาวะที่ผู้ป่วยกำลังเป็นอยู่

แนวทางที่ 3
: คือ ถ้าผู้ป่วยมีอาการมากขึ้นและไม่ตอบสนองต่อการรักษา 2 แนวทางแรก แพทย์จะแนะนำให้ทำการผ่าตัด ซึ่งเป็นการผ่าตัดให้กล้ามเนื้อหูรูดระหว่างหลอดอาหา ร และกระเพาะอาหารนั้นกระชับขึ้น

ภาวะกรดไหลย้อนนั้น ควรได้รับการรักษาที่เหมาะสมและต่อเนื่อง การรับประทานยาเฉพาะเวลาที่มีอาการหรือเฉพาะตอนที่เป็นมากๆ มักไม่เพียงพอที่จะทำให้หายได้ และเมื่อรักษาจนอาการดีขึ้นแล้วก็ควรจะปรับเปลี่ยนพฤ ติกรรมต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วให้ต่อเนื่อง เพราะโรคนี้อาจย้อนกลับมาก่อความรำคาญให้ผู้ป่วยได้อ ีกเรื่อยๆ ถ้าผู้ป่วยยังมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านั้นอยู่
เมื่อใดที่ผู้ป่วยเป็นโรคนี้ ท่านไม่ควรนิ่งนอนใจหรือละเลยที่จะตรวจและรักษา หรือดูแลร่างกาย เนื่องจากพบว่าภาวะน้ำกรดไหลย้อนมีส่วนสัมพันธ์กับมะ เร็งของกล่องเสียง และมะเร็งของหลอดอาหารด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 40 ปี และมีอาการของโรคนี้มานานเกิน 5 ปี

 


ที่มา : ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพ

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง ระวัง!! กินแล้วนอน... โรคกรดไหลย้อน อาจถามหา
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

จิราภรณ์ หอมกลิ่น
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
จิราภรณ์ หอมกลิ่น..