บทคัดย่อ

ชื่องานวิจัย                        :       การพัฒนาแบบฝึกทักษะกายบริหารขั้นพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้

                                                    สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

                                                    โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ

ชื่อผู้วิจัย                             :       นางวิภา    เหลี่ยมสมบัติ

ปีที่ทำวิจัย                          :       2552

                    การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ    1)  เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ  กายบริหารขั้นพื้นฐาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน  80/80  2)  เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ     กายบริหารขั้นพื้นฐาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  4  3)  เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะเรื่องกายบริหารขั้นพื้นฐาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4      

                    กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 1  โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ ภาคเรียนที่ 1  ปีการศึกษา 2552  เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จำนวน 33  คน  ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling)  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบฝึกทักษะกายบริหารขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  จำนวน  4  ชุด  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง กายบริหารขั้นพื้นฐาน และแบบวัดความพึงพอใจที่มีการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะกายบริหารขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 

                    ผลการวิจัยพบว่า  แบบฝึกทักษะกายบริหารขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  มีประสิทธิภาพเท่ากับ  87.52/88.94  ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน  ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องกายบริหารขั้นพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4   ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะกายบริหารขั้นพื้นฐาน

หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนคิดเป็นค่าเฉลี่ย 13.24  และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน เฉลี่ย 17.79  เมื่อทดสอบค่า  t-test Dependent  เท่ากับ 30.34  และผลการวัดระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4    ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะเรื่องกายบริหารขั้นพื้นฐาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4   พบว่าในภาพรวมนักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจในระดับพอใจอย่างยิ่ง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ  4.57  และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ  .51

Advertisement