ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ |
เจ้าของโพสต์นี้ นายศุภวัฒน์ คุณานุวัฒน์ จากจังหวัด จันทบุรี |
|
ตะลึง!ผลวิจัยชี้ ระวัง!!! ควันธูปมีสาร ก่อ มะเร็ง ...เพียบ.. |
โพสต์เมื่อวันที่ : 25 ต.ค. 2552 IP : เปิดอ่าน : 6410 ครั้ง คะแนนของ BLOG นี้ -ไม่มีผลโหวต-
☰แชร์เลย > |
|
|
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย
|
|
Advertisement
|
.....
|
|
|
ธรรมะธรรมโม ไหว้พระไหว้เจ้าเป็นนิจศีล กลับเสี่ยงมะเร็งปอด กลิ่นหอมจากควันธูปอันตรายไม่น้อย
แม้ในคนที่กลัวมะเร็งจากบุหรี่ ไม่แตะไม่ต้อง เจอที่ไหน พยายามหนีให้ไกล แต่ควันธูปมีผลร้ายไม่แตกต่างจากควันบุหรี่
คุณหมอ ดร.Jeppe T. Friborg หัวหน้าคณะวิจัยในโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก บอกว่า การที่มีโอกาสสูดดมกลิ่นควันธูปเป็นประจำ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งที่ปอด แม้คน ๆ นั้นจะเป็นคนที่สูบหรือไม่สูบบุหรี่ก็ตาม
|
ควันธูปกลิ่นหอมซ่อนพิษร้าย
คนเราส่วนใหญ่มักจะไม่รังเกียจกลิ่นหรือควันของธูป โดยเฉพาะคนไทยและคนในภูมิภาคเอเชีย เราจะเห็นศาสนสถานที่อบอวลไปด้วยควันธูปในเทศกาลวันสำคัญทางศาสนา
เรามักจะไม่หนี ไม่รังเกียจเหมือนกับเจอกลิ่นหรือควันบุหรี่ แต่ผลลัพธ์ของสองสิ่งกลับก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบหายใจของเรา และอาจเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปอดได้
ธูป ทำมาจากส่วนผสมของพืชหลายชนิดเติมกับสารแต่งกลิ่นหอม แต่เมื่อจุดให้ติดไฟเพื่อบูชา ส่วนผสมหลากหลายนี้จะก่อให้เกิดสารคาร์ซิโนเจน ( Carcinogens) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการก่อมะเร็งให้กับร่างกายของเราเหมือนกับสารที่ประกอบอยู่ในควันบุหรี่
ในช่วงก่อนหน้านี้ยังไม่มีผลสรุปอะไรที่บอกได้ว่าควันธูปมีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งปอด
แต่นักวิจัยก็ไม่วายสงสัยติดตามดูว่า ถ้าเราสูดเอาควันธูปเข้าไปในปอดบ่อย ๆ ครั้ง จะมีผลอย่างไรกับปอด แหล่งฟอกเลือดสำคัญในร่างกายของเรา
|
การวิจัยอีกชิ้นหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ โดยติดตามสอบถามคนจีนในสิงคโปร์ 60,000 คน ให้ทำแบบสอบถามถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน การกิน การอยู่ พร้อมถึงความถี่ที่ไหว้พระไหว้เจ้าที่สัมผัสกับควันธูป (เราจะไม่แปลกใจเลยที่เวลาเราไปที่เมืองลอดช่องแห่งนี้มักจะเห็นชาวสิงคโปร์กำธูปเต็มกำมือสวดมนต์ไหว้พระไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป)
ทั้ง 60,000 คน เริ่มตอบแบสอบถามตั้งแต่ปี 1993 ทุกคนไม่มีใครเป็นมะเร็ง แต่ใน 60,000 คนนี้มี 75% ที่บอกว่าไหว้เจ้าเป็นประจำ เจอกับควันธูปบ่อย ๆ เมื่อจบการติดตามในปี 2005 ผลปรากฏว่ามีคนเป็นมะเร็งในระบบทางเดินหายใจ 328 คน และอีก 821 คนที่เป็นมะเร็งปอด
|
|
ทำให้มีข้อสรุปได้ว่า ยิ่งไหว้มากยิ่งเป็นมะเร็ง ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า หากสูบดมควันธูปอยู่เป็นประจำและเป็นระยะเวลายาวนาน จะยิ่งเพิ่มการเป็นมะเร็งปอด เป็นข้อเตือนภัยให้รับรู้ถึงพิษร้ายที่เข้ามาหาเราในรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง ในอดีตธูปไม่ได้ประกอบด้วยสารสังเคราะห์ที่แสนพิสดารแต่งกลิ่นกันหลากหลาย ยิ่งจุด ยิ่งหอม ยิ่งถูกมะเร็งถามหา กลิ่นธูปหอมที่ถูกใจ นาน ๆเจอกันที ไม่สามารถทำอะไรเราได้มากนัก แต่ถ้าทุกวัน หรือประจำทุกอาทิตย์ แม้จะเป็นกิจกรรมที่สบายใจเป็นบุญแต่ต้องระมัดระวังการใช้ให้ดี
เดี๋ยวจะมานั่งสงสัยว่าไหว้พระไหว้เจ้ามาตลอดชีวิต ทำไมเป็นมะเร็งได้ ส่วนคนอื่น
ที่ไม่เคยเข้าวัดเข้าวาเลย ไม่เห็นเป็นอะไร เพราะเราประมาทไป กับการสูดสารเคมีก่อมะเร็งทุกวัน ๆ แล้วหลงไปว่ากำลังดื่มด่ำสร้างบารมีกับบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์
ท่ามกลางควัน (พิษของ) ธูป
|
|
ตะลึง!ผลวิจัยชี้ควันธูปมีสารก่อมะเร็งเพียบ
ตะลึง!ผลวิจัยชี้ควันธูปมีสารก่อมะเร็งเพียบ
ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) โดย นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าไอซียู รพ.วิชัยยุทธ แถลงข่าวผลงานวิจัยเรื่อง “สารก่อมะเร็ง : ภัยเงียบที่มากับควันธูป” ซึ่งเป็นผลงานการวิจัยร่วมกับ น.ส. พนิดา นวสัมฤทธิ์ นักวิจัยห้องปฏิบัติการพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
โดยทำการศึกษาถึงอันตรายของควันธูป ที่ประชาชนชาวพุทธนิยมใช้จุดเพื่อบูชาพระ ทั้งนี้ เนื่องจาก จากสถิติการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปอดในเพศหญิงพบว่ากว่าร้อยละ 50 ไม่พบประวัติสูบบุหรี่ หรือใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ และยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปัจจัยที่อาจจะทำให้เกิดโรคมะเร็ง
แม้ว่าร้อยละ 80 - 90 ของผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ อย่างไรก็ตามจากการศึกษาวิจัยในครั้ง ได้ผลสรุปที่น่าตกใจว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับปัจจัยที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็ง กลับมีสาเหตุมาจากภัยที่เพิ่งค้นพบคือ สารพิษก่อมะเร็งจากควันธูป ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
นพ.มนูญ กล่าวต่อว่า จากการศึกษาควันธูปมีสารก่อมะเร็ง 3 ชนิด ได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน มีส่วนประกอบมาจากกาว ขี้เลื่อย น้ำมันหอม และสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม เป็นต้น โดยสารก่อมะเร็งเกิดจากการเผาไหม้ของกาวและน้ำหอม เป็นสำคัญ
ทั้งนี้ ในการศึกษาวิจัย ทีมวิจัยได้ออกทำการสำรวจหาสารก่อมะเร็งในบริเวณวัดชื่อดังในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ จำนวน 3 แห่งด้วยกัน ซึ่งเป็นวัดที่มีคนเข้าไปบูชากราบไหว้พระกันมาก โดยเริ่มดำเนินการสำรวจพร้อมตรวจสุขภาพคนงานที่ปฏิบัติงานในวัดจำนวน 40 คน เปรียบเทียบกับคนงานในหน่วยงานที่ไม่มีการจุดธูปจำนวน 25 คน
โดยการตรวจเลือดและปัสสาวะ พบว่า คนงานที่ทำงานในวัดทั้งหมดมีสารก่อมะเร็งผสมอยู่ในเลือดและปัสสาวะสูงกว่าคน ที่ไม่ทำงานในวัดถึง 4 เท่า โดยในวัดมีสารดังกล่าวสูงกว่าสถานที่ที่ไม่จุดธูปถึง 63 เท่า ที่สำคัญจากการตรวจร่างกายในคนงานในวัด 40 คนยังพบการแตกหักของรหัสพันธุกรรมสูงกว่าคนปกติถึง 2 เท่าอีกด้วย
“นอกจากนี้สำหรับการจุดธูปในบ้านตามความเชื่อและ ประเพณีที่ทำกันมาของคนไทย ที่ต้องการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดควันธูปในบ้านมาก ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะ ธูป 3 ดอกสามารถปล่อยมลพิษและสารก่อมะเร็งได้เทียบเท่าสี่แยกไฟแดงที่มีการจราจร คับคั่ง” นพ.มนูญ กล่าว และว่า
ผลการวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Chemico –biological/ interactions ของประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือน ก.พ.2551 ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงเป็นหนึ่งในทีมวิจัยด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของธูปที่ไร้ควัน หรือธูปอโรมา มีสารก่อมะเร็งหรือไม่ นพ.มนูญ กล่าวว่า ธูปทุกชนิดล้วนมีสารก่อมะเร็งทั้งสิ้น ธูปไร้ควันและธูปอโรมา เคยมีงานวิจัยออกมาพบว่า มีการปล่อยสารเบนซินมากกว่าธูปธรรมดาด้วยซ้ำไป
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐควรมีการรณรงค์เรื่องนี้ให้ระมัดระวังกันถ้วนหน้า และต้องมีการรณรงค์ดับควันธูป โดยหลังจากจุดธูปแล้วควรมีการจุ่มธูปลงในน้ำหรือทรายก่อนปักลงในกระถางจะ ช่วยลดควันธูปได้ และในอนาคตภาคอุตสาหกรรมควรมีการผลิตธูปที่เมื่อจุดแล้วดับได้ทันทีภายในไม่ กี่วินาที
ที่มาจากหนังสือพิมพ์
อ่านเรื่องอื่นๆหรือแวะทักทายที่
http://อาจารย์เข่.kroobannok.com
Advertisement
|