หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
นายสุรงค์ โพชนิกร
จากจังหวัด ศรีสะเกษ

ดื่มด่ำริมลำคลอง ที่"บ้านศิลปิน คลองบางหลวง"
โพสต์เมื่อวันที่ : 14 ต.ค. 2552 IP : เปิดอ่าน : 6902 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
(56.00%-5 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย >  
  Share on Google+   LINE it!  
เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย

Advertisement

.....

บรรยากาศสองฝั่งริมคลองบางหลวง
       กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ฉันเคยพาเดินซอกแซกเที่ยวย่านคลองบางหลวงกันมาหนหนึ่ง ในครั้งนั้นไปเดินชมบรรยากาศเก่าๆแถบสะพานเจริญพาศน์ ชมความเป็น "ย่านขุนนาง" หรือละแวกบ้านของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในแผ่นดินเมื่ออดีต
       
       สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับชื่อคลองบางหลวง ฉันก็ขอเกริ่นให้ฟังกันสักหน่อยว่า "คลองบางกอกใหญ่" หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "คลองบางหลวง" นั้น เดิมเคยเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิมมาก่อน แต่เป็นแม่น้ำช่วงที่โค้งอ้อมกินบริเวณกว้างตั้งแต่บริเวณโรงพยาบาลศิริราชปัจจุบัน โค้งจนมาถึงบริเวณวัดโมลีโลกยาราม หรือบริเวณป้อมวิไชยประสิทธิ์ในปัจจุบัน ดังนั้นเวลาแล่นเรือผ่านมาจึงทำให้เสียเวลาในการเดินทางไปมาก สมเด็จพระชัยราชาธิราช พระมหากษัตริย์ในแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาจึงโปรดเกล้าฯให้มีการขุดคลองลัดขึ้นในปี พ.ศ.2065 เพื่อย่นระยะทางและระยะเวลาสำหรับบรรดาพ่อค้าต่างชาติที่จะมาค้าขายเจริญสัมพันธไมตรีกับอาณาจักรอยุธยา

"บ้านศิลปิน คลองบางหลวง" มองเห็นเจดีย์องค์ใหญ่ตั้งอยู่กลางบ้าน
       เมื่อมีการขุดคลองแล้ว คลองที่ขุดก็กลับมีขนาดใหญ่โตขึ้นเพราะกระแสน้ำสามารถไหลมาตามเส้นทางตรงกัดเซาะชายฝั่งให้กว้างขึ้น แต่แม่น้ำสายดั้งเดิมกลับเล็กลงๆ กลายเป็นคลองสายหนึ่ง ปากคลองทางฝั่งโรงพยาบาลศิริราชเรียกกันว่า "คลองบางกอกน้อย" ส่วนปากคลองอีกด้านหนึ่งทางป้อมวิไชยประสิทธิ์เราเรียกกันว่า "คลองบางกอกใหญ่" นั่นเอง
       
       ส่วนเหตุที่เรียกคลองบางกอกใหญ่ว่าคลองบางหลวงก็เพราะว่า เมื่อคราวที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมาสร้างราชธานีใหม่ที่กรุงธนบุรีนั้น ก็มีข้าราชการขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายต่อหลายท่านมาจับจองสร้างบ้านกันอยู่ริมคลองบางกอกใหญ่ เพราะเป็นบริเวณใกล้เคียงกับพระราชวังกรุงธนบุรี ชาวบ้านจึงเรียกคลองแถบนี้อีกชื่อหนึ่งว่า "คลองบางข้าหลวง" และเหลือเพียง "คลองบางหลวง" กันจนปัจจุบัน

เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองสมัยอยุธยา
       คลองบางหลวงที่ฉันจะพามาชมกันวันนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่แตกต่างไปจากครั้งก่อน โดยบริเวณนี้ถือเป็นจุดศูนย์กลางของชุมชนในอดีต ตั้งแต่สมัยยังไม่ได้ขุดคลองลัดบางกอกโน่น นั่นก็คือคลองบางหลวงในช่วงแถบวัดคูหาสวรรค์ ในบริเวณนี้มีสิ่งที่น่าสนใจอย่าง “บ้านศิลปิน คลองบางหลวง” บ้านไม้เก่าสองชั้นทรงมะนิลาของตระกูล "รักสำหรวจ" ที่มีความเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี มีการต่อเติมมาเรื่อยๆ ตามยุคสมัย ปัจจุบันเพิ่งเปิดให้เข้าชมในรูปแบบของแกลเลอรี่เล็กๆ ขายของที่ระลึก และเป็นมุมสงบริมสายน้ำของคลองบางหลวงให้ผู้ที่ผ่านมาได้แวะพักกายและใจกันที่นี่
       
       ฉันได้คุยกับคุณชุมพล อักพันธานนท์ ศิลปินผู้หลงเสน่ห์ของบ้านไม้ริมคลองและวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนในแถบนี้ จนรวบรวมทุนกับเพื่อนรุ่นพี่มาซื้อและซ่อมบ้านหลังใหญ่ หมดเงินไปก็หลาย หมดแรงไปก็มาก เพียงอยากให้คนได้มาสัมผัสกับบรรยากาศและสิ่งที่เขาเห็นว่ามีคุณค่าในชุมชนแถบนี้

มุมขายของที่ระลึก โปสการ์ดสวยๆ
       "เมื่อผมมาทำบ้านหลังนี้ก็ได้เห็นเสน่ห์ของความเรียบง่าย ของวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนในแถบนี้ที่ไม่ได้ทิ้งถิ่นฐานไปไหน ไม่มีคนนอกเข้ามาอยู่มากมาย แต่พวกเราเป็นคนแปลกใหม่ที่เข้ามาอยู่ในชุมชนก็พยายามจะไม่ทำอะไรที่ขัดกับวิถีของเขา แต่จะพยายามทำอะไรให้กับชุมชนโดยกลมกลืน ไม่ขัด และเกิดประโยชน์" ชุมพล กล่าว
       
       ในช่วงแรกที่เริ่มเข้ามาในชุมชน ชุมพลและเพื่อนๆ ก็เริ่มสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนด้วยการสอนศิลปะให้เด็กๆ ในละแวกนี้ จนทำให้เกิดความคุ้นเคยกันไปในแต่ละบ้าน และยังแสดงให้คนในชุมชนเห็นว่าพวกเขาไม่ได้เข้ามาเปิดบ้านเปิดร้านแสวงหาผลกำไรกันอย่างเดียว แต่มีความต้องการอยู่ร่วมกับชุมชนอยู่ได้อย่างไม่ขัดหูขัดตากับสิ่งที่เขาเป็น ซึ่งก็น่าดีใจว่าเมื่อเริ่มมาปรับปรุงสร้างบ้านศิลปิน คนบ้านใกล้เรือนเคียงก็เริ่มปรับปรุงหน้าบ้านของตัวเองให้ดูดี ทำทางเดินหน้าบ้านใหม่ให้ดูเรียบร้อยสวยงาม ซึ่งชุมพลกล่าวว่า ดีใจกว่าที่ทำบ้านศิลปินเสร็จอีก เพราะแสดงว่าชุมชนร่วมมือกันและเห็นด้วยกับสิ่งที่เราทำ

แกลเลอรี่เล็กๆบนชั้นสอง
       ฉันได้มาเยือนบ้านศิลปิน ที่คลองบางหลวงในช่วงสายๆ ของวันหยุดวันหนึ่ง จึงได้เห็นบรรยากาศสบายๆของคนแถวๆนั้น ที่ออกมานั่งพูดคุยกันอยู่ที่ริมคลองหน้าบ้าน บ้างก็กำลังเตรียมจัดโต๊ะกินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา บ้างก็พูดคุยกันไป มือก็สาละวนอยู่กับงานตรงหน้า ส่วนเด็กๆลงไปจับกลุ่มเล่นน้ำกันในลำคลองส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว เป็นภาพที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก
       
       เมื่อมาถึงบ้านศิลปิน ฉันก็เดิมชมสิ่งต่างๆภายในบ้าน ผังของบ้านมีลักษณะเป็นรูปตัวยู (U) ตรงกลางตัวยูมีสิ่งแปลกสะดุดตาที่ไม่คิดว่าจะเจออยู่ในบริเวณบ้าน นั่นก็คือเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสององค์ไม่เล็กเลยที่ตั้งอยู่กลางบ้าน สอบถามมาได้ความว่า เจดีย์นี้เป็นเจดีย์เก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา และเป็นส่วนหนึ่งของวัดกำแพง หรือวัดบางจาก วัดที่ตั้งอยู่ใกล้กับบ้านศิลปินฯ เพียงแค่ข้ามสะพานปูนเล็กๆไป เพราะพื้นที่บริเวณนี้ก็เป็นของวัดเสียส่วนใหญ่ เจดีย์องค์นี้จึงมาตั้งอยู่กลางละแวกบ้าน โดยที่ไม่มีใครคิดรื้อทำลายไปแต่อย่างใด

จิบกาแฟไปพร้อมกับชมบรรยากาศริมคลอง
       ยกมือไหว้องค์เจดีย์กันเสียก่อนจะเดินสำรวจกันต่อ ที่ชั้นล่างของบ้านมีมุมจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณอย่างเครื่องเล่นแผ่นเสียง รวมไปถึงหม้อไหต่างๆ อีกมุมหนึ่งทำเป็นร้านกาแฟเครื่องดื่มเล็กๆ และมุมขายของที่ระลึก จำหน่ายโปสการ์ดสวยๆ ราคาถูกฝีมือของคุณชุมพลเองให้คนที่มาชมได้เขียนความประทับใจส่งไปถึงคนที่ไม่ได้มาด้วย รวมไปถึงยังมีผ้าฝ้ายผ้าพันคอเป็นของฝากติดไม้ติดมือเล็กๆน้อยสำหรับชาวต่างชาติที่แวะขึ้นจากเรือหางยาวมาเที่ยวชมอีกด้วย
       
       อีกมุมหนึ่งของบ้าน จัดทำเป็นโต๊ะเก้าอี้สำหรับทำเครื่องประดับอย่างพวกเครื่องเงิน หรือจิเวลรี่ โดยมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยศิลปากรมาเป็นผู้สอน พอให้ได้บรรยากาศของความเป็นบ้านช่างทองเมื่อในอดีต ใครที่สนใจขอเชิญมาเรียนได้ทุกวันอาทิตย์ คิดค่าเล่าเรียนชั่วโมงละ 200 บาทเท่านั้น

แหล่งพักผ่อนในกรุงเทพฯอีกแห่งหนึ่ง
       และหากขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ก็จะได้ชมแกลอรี่เล็กๆ จัดแสดงภาพของศิลปินที่เป็นเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มาฝากขาย ใครใคร่ซื้อก็ซื้อได้ หรือถ้าไม่ใคร่ก็เดินชมกันไปได้เพลินๆ ส่วนมากจะเป็นภาพบรรยากาศริมน้ำในสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงภาพบรรยากาศของคลองบางหลวงแห่งนี้ด้วย
       
       แต่ฉันว่า แค่ได้มาชมภาพวิถีชีวิตริมคลองที่ดูสะอาดสะอ้าน บ้านแต่ละหลังไม่ปล่อยให้ทรุดโทรม ได้นั่งกินกาแฟหอมๆ หรือใครไม่กินกาแฟก็สั่งนมเย็นสั่งโกโก้ นั่งจิบเครื่องดื่มไปริมน้ำ เรือก๋วยเตี๋ยวหรือผัดไทแล่นผ่านมาก็โบกเรียกแก้หิว หรือหากเรือหางยาวพาฝรั่งผ่านมาเที่ยวก็ยิ้มแย้มโบกมือบ๋ายบายให้พวกเขาบ้าง แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

นั่งเล่นสบายๆที่หน้าบ้าน
       และถ้าใครอยากจะได้บรรยากาศแบบไทยๆ ฟังดนตรีไทยในอากาศเย็นๆ ก็ให้มาในวันลอยกระทง เพราะในวันนั้นจะมีวงดนตรีไทยของเด็กๆ มาเล่นกันที่หน้าบ้าน และในช่วงค่ำกระทงจากคลองแถบนี้จะไหลมาตามน้ำมารวมกันที่หน้าบ้านศิลปิน เสียงเทียนส่องวิบๆวับๆ ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามสายน้ำ คงเป็นภาพที่สวยงามไม่น้อยเลย
       
       อ้อ...แล้วขากลับก็อย่าเพิ่งผ่านเลย "วัดคูหาสวรรค์" ไปเสียเฉยๆ แวะเข้าไปไหว้พระกันเสียก่อน เพราะวัดนี้เป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งในฝั่งธนบุรี วัดนี้เป็นวัดโบราณสร้างมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยายังเป็นราชธานี แต่เดิมมีชื่อว่า "วัดศาลาสี่หน้า" ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ได้มาทรงบูรณปฏิสังขรณ์ และได้เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็นวัดคูหาสวรรค์

พระประธานในพระอุโบสถวัดคูหาสวรรค์
       ในครั้งนั้นรัชกาลที่ 1 ได้โปรดเกล้าฯให้อัญเชิญพระพุทธรูปปางนั่งสมาธิราบ พระประธานในพระอุโบสถวัดคูหาสวรรค์ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง มาประดิษฐานในพระอุโบสถวัดพระเชตุพน และทรงขนานพระนามว่า "พระพุทธเทวปฏิมากร" และทรงพระกรุณาโปรดให้สร้างพระประธานขึ้นใหม่สำหรับประดิษฐานเป็นพระประธานแทนพระพุทธเทวปฏิมากร รวมทั้งยังได้ทรงสถาปนาพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญและเสนาสนะต่างๆในวัดขึ้นอีกเป็นอันมาก
       
       

       *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 

       
       "บ้านศิลปิน คลองบางหลวง" ตั้งอยู่ริมคลองบางหลวง การเดินทาง หากขับรถส่วนตัวมา ให้ขับเข้ามาทางซอยเพชรเกษม 28 จนสุดซอยเพื่อมายังวัดคูหาสวรรค์ สามารถจอดรถได้บริเวณลานจอดรถของวัด และเดินมาตามทางเดินริมคลองทางขวามืออีกประมาณ 150 เมตร ก็จะเจอ "บ้านศิลปินฯ" หรือหากมาด้วยรถประจำทาง ให้มาลงรถที่ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้ามาจนสุดซอย จากนั้นเดินข้ามสะพานข้ามคลองบางหลวง แล้วเลี้ยวซ้ายมาตามทางเดินริมน้ำ ก็จะเจอ "บ้านศิลปินฯ" เช่นกัน

http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000121459

 
ครวญ
ซิก เซ้นส์ SixSense
 

เมื่ออยู่ริมฝั่งชล ฉันยลทุกยามเย็น
พักในร่มเงาไม้เอน ฉันมองเห็นนกบินกลับรัง
ตะวันใกล้จะลับแล้ว เห็นเรือแจวอยู่ริมฝั่ง
เฝ้าแต่ครวญแต่ครวญหาน้ำตาหลั่ง จึงร้องสั่งอาลัย

เฝ้าแต่ครวญสั่งคำ แม้เรือ ลอยลำไป
พบคนที่เคยซึ้งใจ ขอเรือนำเธอมาให้ที
ตะวันใกล้จมแผ่นน้ำ สายชลงาม ดั่งกำมะหยี่
โอ้ว่าดาว ว่าดาวดวงนี้ แสงพลันริบหรี่ คงริบหรี่เช่นเรา


http://www.naronk.org/uboard/show.php?Category=thai&No=4349

 

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง ดื่มด่ำริมลำคลอง ที่"บ้านศิลปิน คลองบางหลวง"
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

นายสุรงค์ โพชนิกร
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
นายสุรงค์ โพชนิกร..