ตื่นกันแต่เช้าตรู่ต้องทำเวลากันหน่อยเดี๋ยวเที่ยวไม่คุ้ม  ที่แรกของวันนี้อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทมากนัก เพราะอยู่ในซอยเดียวกันกับรีสอร์ท    "วัดพระธาตุเขาน้อย"ด้านหน้าวัดมีบันไดพญานาคถึง 303 ขั้น

            ในใจคิดว่า   วันนี้คงจะต้องออกกำลังกายเดินขึ้นบันไดกันแต่เช้า  แต่สามารถขับรถขึ้นถึงตัววัดได้เลย   ด้านบนประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน และสามารถมองเห็นทิวทัศน์ในมุมสูงของตัวเมืองน่านได้อย่างสวยงาม

         วัดพระธาตุเขาน้อย สันนิษฐานว่ามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระธาตุแช่แห้งประมาณ 600 ปี ตามประวัติสร้างโดยมเหสีรองของพญาภูเข็งเจ้าผู้ครองนครน่านราวพุทธศตวรรษที่ 20  เมื่อกราบสักการะพระธาตุฯ เสร็จเรียบร้อยแล้ว  แวะกลับเข้ารีสอร์ทสักครู่เพื่อทานอาหารเช้า หลังจากนั้นไปในเมืองต่อกันเลย

            พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน   เดิมเรียกว่า "หอคำ" เป็นที่ว่าราชการของเจ้าผู้ครอง        นครน่านในอดีต ด้านบนจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนภูมิศาสตร์    ประวัติศาสตร์ของ จ.น่าน        และเป็นทีประดิษฐานของ "งาช้างดำ"  วัตถุโบราณคูเมืองน่านชิ้นสำคัญ

              มาถึง "วัดภุมินทร์" กันบ้าง ได้ยินชื่อเสียงมาว่า วัดภุมมินทร์ งดงามมากและเคยดูรายการโทรทัศน์ที่มาถ่ายที่นี่  วันนี้เห็นกับตาแล้ว  พระอุโบสถเป็นอาคารจตุรมุขดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย 4 องค์หันหน้าออกประตูทั้ง 4 ทิศ

            รัฐบาลไทบสมัยรัชกาลที่ 8 เคยพิมพ์รูปวัดภุมมินทร์ในธนบัตรใบละ 1 บาทซึ่งภายในวัดก็ได้ใส่กรอบไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ดูอีกด้วยนอกจากนี้แล้วภาพจิตรกรรมฝาผนังของวัด ยังเป็นที่กล่าวขานถึงความงดงามอันทรงคุณค่าอีกด้วย  ซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี   ภาพจิตรกรรมแสดงถึงวิถึชีวิตของชาวน่าน

               ส่วนภาพที่โด่งดังไปทั่วโลกก็คือภาพของปู่ม่าน ย่าม่าน กระซิบกระฉ่อนโลก (ด้านซ้าย) ส่วนภาพด้านขวามือมัคคุเทศก์น้อยบอกว่าเป็นภาพ   "โมนาลิซ่าเมืองน่าน"       อ้อ ลืมบอกไปว่า    วัดภูมินทร์อายุราว ๆ  400 กว่าปีเลยทีเดียว