.....ใช้ไวร์เลส - บลูทูธ ในที่สาธาณะ ระวังถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว ย่านธุรกิจและห้างสรรพสินค้า มีความเสี่ยงสูง ไม่ควรทำธุรกรรมทางการเงินในที่สาธารณะ และควรปิดสัญญาณเมื่อใช้เสร็จ
พ.ต.ท.พัฒนะ ศุกรสุต พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรม
สอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า สัญญาณไวร์เลส เป็นสัญญาณวิทยุปัจจุบันสามารถส่งสัญญาณ
ออกไปเป็นรัศมีวงกลมประมาณ 100 เมตร หากมีผู้กระทำความผิด เจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาจุด
ศูนย์กลางได้ เพราะไวร์เลสเป็นเหมือนสัญญาณวิทยุ มีรัศมีเป็นวงกลม ล่าสุด ผู้ผลิตได้พัฒนา
เทคโนโลยีไวร์แม็กที่สามารถส่งสัญญาณได้ไกลกว่าถึง 30-50 กิโลเมตร แถมยังมีตัว
เพิ่มสัญญาณได้อีก
หากทำธุรกรรมการเงินกับธนาคารผ่านโทรศัพท์ ผ่านโทรศัพท์บ้านและโทรศัพท์มือถือ อาจถูก
มิจฉาชีพใช้เครื่องมือดักจับสัญญาณการสนทนาระหว่างลูกค้ากับเจ้าหน้าที่ธนาคาร บางครั้ง
อาจปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหลอกถามข้อมูลสำคัญ และรหัสผ่านต่างๆ ส่วนใหญ่แฮกเกอร์ จะใช้ย่านธุรกิจหรือห้างสรรพสินค้าที่มีคนพลุกพล่าน มุ่งเป้าประชาชนที่เปิดบลูทูธ เพื่อสแกน
หาสัญญาณหากพบสัญญาณ โปรแกรมดังกล่าวจะโชว์หมายเลขโทรศัพท์และชื่อของเจ้าของ
เครื่องนั้นๆ แฮกเกอร์จะทดลองเจาะเข้าไปทีละเครื่องโดยการส่ง SMS ด้วยข้อความล่อลวงต่างๆ เพียงเพื่อให้ผู้ใช้กดปุ่มใดปุ่มหนึ่งบนโทรศัพท์ และไม่ว่าจะเลือกกดปุ่มใดแฮกเกอร์ก็สามารถ
ทำให้เป็นการตอบตกลงแล้วขโมยข้อมูลทันที
พ.ต.ท.พัฒนะ กล่าวว่า ควรระมัดระวังในการใช้ระบบสื่อสารไร้สายทั้งผ่านไวร์เลสและบลูทูธ ไม่ควรเชื่อมต่อกับระบบไวร์เลสกับเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊กที่มีข้อมูลสำคัญๆ ควรเก็บ
ข้อมูลที่มีความสำคัญไว้ในที่ๆ แฮกเกอร์เข้าถึงยาก เช่น แฟลชไดร์ เอ็กเทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ ซีดี และควรเข้ารหัสข้อมูลเอาไว้ ไม่ควรใช้ที่สาธารณะทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบไร้สาย เมื่อใช้งานเสร็จควรจะปิดสัญญาณบลูทูธและไวร์เลสทันที
ที่มา : เดลินิวส์