Advertisement
พระพุทธรูปปางต่างๆ พระพุทธรูปปางต่าง ๆ:ปางพระพุทธรูป รวมรวบความหมายของพระพุทธรูปปางต่างๆ ที่มาของ พระพุทธรูปปางต่าง ๆ ลักษณะ พระพุทธรูปปางต่างๆ ประวัติของพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ..... พระพุทธรูปปางประสูติ ประวัติพระพุทธรูปปางประสูติ (ปางประสูติ) พระพุทธปฏิมา ปฐมบรมศาสดาโลก (ปางประสูติ) พระปางประสูติ หรือ พระพุทธรูปปางประสูติ เป็นปางพระพุทธรูปที่เกิดขึ้นจากเมื่อครั้งที่พระบรมโพธิสัตว์สุติจากดุสิต เทวโลก ประสูติในอิริยาบถยืนหันพระพักตร์ไปทางเหนือ เสด็จย่างพระบาทไป ๗ ก้าว มีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับ ๗ ดอก แล้วทรงกล่าว อาสภิวาจา ว่า “เราเป็นผู้เลิศที่สุดในโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้การเกิดใหม่มิได้มี” หลังเสด็จปฏิสนธิในพระครรภ์ พระนางสิริมหามายา อัครมเหสีของ พระเจ้าสุทโธทนะ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ และ พระนางสิริมหามายาทรงพระครรภ์แก่ ได้ให้ประสูติพระโอรส ณ โคนต้นสาละ ลุมพินีวัน ซึ่งอยู่ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์ และกรุงเทวทหะ ระหว่างเสด็จกลับไปคลอดที่กรุงเทวทหะ ซึ่งเป็นบ้านเกิด ในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ วันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีจอ ก่อนพระพุทธศักราช ๘๐ ปี ในเวลาใกล้เที่ยง พระพุทธปฏิมา ปฐมบรมศาสดาโลก (ปางประสูติ) หรือ พระพุทธรูปปางประสูติ จึงได้ถือกำเนิดเป็นรูปเคารพขึ้นเป็นครั้งแรก ณ ลุมพินีวัน (ทุกวันนี้อยู่ในอาณาเขตประเทศเนปาล) อันเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธองค์ ต่อมา พระพุทธรูปปางนี้ได้เผยแพร่เหลายเข้ามายังเมืองไทยเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ด้วยความเชื่อที่มีมานานแล้วว่า ผู้ที่ได้บูชาพระพุทธรูปปางประสูติ จะเป็นผู้ได้เริ่มต้นชีวิตอันเจริญรุ่งเรือง เพราะปางประสูติ ถือเป็นอากัปกิริยาเริ่มแรกของพระพุทธเจ้า นั่นเอง Tags พระพุทธรูปปางประสูติ - ปางประสูติ - ประวัติพระพุทธรูปปางประสูติ พระพุทธรูปปางมหาภิเนษกรมณ์ ประติมากรรมพุทธประวัติปางมหาภิเนษกรมณ์ วัดไผ่โรงวัว จังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าชายสิทธัตถะทรงม้ากัณฐกะ มีนายฉันนะ เกาะหลังม้าตามเสด็จ ขาม้าทั้ง ๔ ขา มีท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ ประจำอยู่ นำพระองค์เหาะข้ามกำแพงพระนครออกไปด้วยปาฏิหารย์ ประวัติพระพุทธรูปปางมหาภิเนษกรมณ์ ซึ่งเป็นรูปพระโพธิสัตว์ทรงเครื่อง เจ้าชายสิทธัตถะกุมาร ได้ทรงครองราชสมบัติตราบเท่าพระชนมายุ 29 พรรษา เมื่อถึงวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะได้เสด็จทอดพระเนตรเห็นบรรพชิต ในขณะที่กำลังเสด็จประพาสอุทยาน ทรงพอพระทัยในเพศบรรพชา เมื่อเสด็จกลับยังปราสาท ทรงบรรทมบนพระแท่นครู่หนึ่งก็ตื่นบรรทมเมื่อเวลาเที่ยงคืน จึงเสด็จทรงอัศวราช ชื่อกัณฐกะ มีสีขาวเหมือนสีสังข์ โดยโปรดให้มหาดเล็กชื่อ ฉันนะ ตามเสด็จออก มหาภิเนษกรมณ์ ขณะถึงพระทวารใหญ่ มารได้ทูลพระมหาสัตว์ว่า " ข้าแต่มหาวีระ อย่าเสด็จเลย อีก 7 วัน ทิพยจักรรัตนะ ก็จะปรากฏแก่พระองค์แล้ว " พระองค์ตรัสตอบว่า " มาร ข้ารู้แล้วว่า จักรรัตนะจะเกิดขึ้น แต่ข้าไม่ต้องการราชสมบัติ หลีกไปเถิดมาร ข้าจะเป็นพระพุทธ เป็นผู้นำพิเศษบันลือ แปทั่วหมื่นโลก " แล้วมารก็หายตัวไป Tags พระพุทธรูปปางมหาภิเนษกรมณ์ - ปางมหาภิเนษกรมณ์ - ประวัติพระพุทธรูปปางมหาภิเนษกรมณ์ พระพุทธรูปปางตัดพระเมาลี พระพุทธรูปปางตัดพระเมาลี การสร้าง"พระพุทธรูปปางตัดพระเมาลี"ตามประติมากรรมพุทธประวัติปางตัดพระเมาลี (มวยผม) วัดไผ่โรงวัว จังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าชายสิทธัตถะอยู่ในพระอิริยาบถประทับ (นั่ง) บนพระแท่นพระหัตถ์ซ้ายทรงรวบพระเมาลีไว้ พระหัตถ์ขวาทรงพระขันค์ทำอาการทรงตัดพระเมาลี มีนายฉันนะและม้ากัณฐกะอยู่ด้านหลัง ความเป็นมาของปางตัดพระเมาลี เจ้าชายสิทธัตถะทรงเห็นว่าพระเมาลีไม่สมควรแก่เพศบรรพชิต จึงทรงตัดออกด้วยพระองค์เอง หลังจากนั้นพระเกศาก็ปรากฏยาวประมาณ ๒ องคุลี ม้วนกลมเป็นทักขิณาวัฏ (เวียนขวา) ทุกๆเส้น และคงอยู่อย่างนั้นตราบถึงดับขันธปรินิพพาน แล้วทรงจับพระเมาลีขว้างขึ้นไปบนอากาศ อธิฐานว่า "ถ้าจะได้ตรัสรู้ ก็ให้พระเมาลี จงตั้งอยู่ในอากาศ อย่าได้ตกลงมา แม้นมิได้ตรัสรู้สมความประสงค์ ขอให้พระเมาลีตกลงสู่พื้นพสุธา" พระเมาลีนั้นได้ประดิษฐานลอยอยู่บนอากาศสูงประมาณ ๑ โยชน์ ท้าวสักกเทวราช (พระอินทร์) อัญเชิญพระเมาลีไปบรรจุไว้ในพระจุฬามณีเจดีย์ในสวรรคชั้นดาวดึงส์ ฆฏิการพรหมได้นำเครื่องอัฐบริขาร คือสิ่งจำเป็นสำหรับบรรพชิตมาน้อมถวาย แล้วอัญเชิญพระภูษาเมื่อครั้งเป็นคฤหัสถ์ไปบรรจุไว้ ณ ทุสเจดีย์ในพรหมโลก Tags พระพุทธรูปปางตัดพระเมาลี - ปางตัดพระเมาลี - พระเมาลี - ความเป็นมาของปางตัดพระเมาลี พระพุทธรูปปางอธิษฐานเพศบรรพชิต พระพุทธรูปปางอธิษฐานเพศบรรพชิต วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายหงายบนพระเพลา ( ตัก ) พระหัตถ์ขวายกขึ้น ตั้งฝ่าพระหัตถ์เสมอพระอุระ ( อก ) เบนฝ่าพระหัตถ์ไปทางซ้าย อันเป็นกิริยาสำรวมจิตอธิษฐานเพศบรรพชิต ความเป็นมาของปางอธิษฐานเพศบรรพชิต เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกพ้นเขตกรุงกบิลพัสดุ์จนมาถึงฝั่งแม่น้ำอโนมา จึงเสด็จลงจากหลังม้า ประทับเหนือหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำ รับสั่งแก่นายฉันนะว่า พระองค์จะบรรพชาถือเพศเป็นบรรพชิต ณ ที่นี้ ให้นำเครื่องประดับและม้ากัณฐกะกลับพระนคร เจ้าชายสิทธัตถะทรงตั้งพระทัยว่า เมื่อได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จะเสด็จกลับมาเทศนาโปรดพระประยูรญาติ Tags พระพุทธรูปปางอธิษฐานเพศบรรพชิต - ปางอธิษฐานเพศบรรพชิต - เจ้าชายสิทธัตถะ - บรรพชิต พระพุทธรูปปางปัจจเวกขณะ พระพุทธรูปปางปัจจเวกขณะ วัดปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับ ( นั่ง ) ขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายประคองบาตร ที่วางอยู่บนพระเพลา ( ตัก ) พระหัตถ์ขวายกขึ้นป้องเสมอพระอุระ ( อก ) ทอดพระเนตรลงต่ำ ความเป็นมาของปางปัจจเวกขณะ หลังจากที่เจ้าชายสิทธัตถะ หรือ พระบรมโพธิสัตว์ ได้บรรพชาแล้ว ได้เสด็จไปเสวยสุขจากการบรรพชา ณ ป่ามะม่วงนามว่า อนุปิยอัมพวัน โดยเว้นการเสวยพระกระยาหาร ๗ วัน ด้วยอิ่มในสุขจากการบรรพชา ในวันที่ ๘ ได้เสด็จไปบิณฑบาตในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเขตกรุงราชคฤห์ แล้วเสด็จมาประทับ ณ บัณฑวบรรพต ทอดพระเนตรอาหารซึ่งปะปนกันในบาตรแล้วเสวยไม่ลง เพราะเคยเสวยแต่อาหารที่ประณีต จึงได้เตือนพระองค์เองว่า "บัดนี้เราเป็นบรรพชิต ต้องอาศัยผู้อื่นเลี้ยงชีพ ไม่มีสิทธิ์เลือกอาหารตามใจชอบ การบริโภคอาหารของผู้แสวงหาสัจธรรมนั้น ก็เพียงเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด ไม่มีจุดประสงค์อื่น นอกจากแสวงหาทางหลุดพ้นเท่านั้น" แล้วจึงเสวยภัตตาหาริ Tags พระพุทธรูปปางปัจจเวกขณะ - ปางปัจจเวกขณะ - ความเป็นมาของปางปัจจเวกขณะ พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร พระพุทธรูปในพระอิริยาบถประทับ ( นั่ง ) ขัดสมาธิ พระหัตถ์ทั้งสองซ้อนกันบนพระเพลา ( ตัก ) พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย เป็นกิริยานั่งสมาธิ มองเห็นพระวรกายซูบผอมจนพระอัฐิ ( กระดูก ) และพระนหารุ ( เส้นเอ็น ) ปรากฏ ความเป็นมาของปางบำเพ็ญทุกรกิริยาิ พระบรมโพธิสัตว์ทรงศึกษาจนสำเร็จสมาบัติ ๗ จากสำนักอาฬารดาบสและสมาบัติ ๘ จากสำนักอุทกดาบส อุทกดาบสได้ตั้งพระบรมโพธิสัตว์ไว้ในตำแหน่งอาจารย์เสมอด้วยตนเอง แต่พระบรมโพธิสัตว์เห็นว่าวิชาที่ศึกษามายังมิใช่หนทางแห่งโพธิญาณ จึงอำลาออกจากสำนัก ทรงแสวงหาหนทาง ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม มีปัญจวัคคีย์ ทั้ง ๕ ได้แก่ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ อัสสชิ เป็นอุปัฏฐาก พระบรมโพธิสัตว์ทรงกระทำทุกรกิริยา เช่น ลดอาหารลงทีละน้อยจนถึงงดเสวย ร่างกายซูบผอม พระโลมา ( ขน ) มีรากเน่าหลุดออกมา แลเห็นพระอัฐิได้ชัดเจน ไปทั่วพระวรกาย จะลุกขึ้นก็เซล้มลงไปแทบสิ้นพระชนม์ Tags พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา - ปางบำเพ็ญทุกรกิริยา - ความเป็นมาของปางบำเพ็ญทุกรกิริยาิ พระพุทธรูปปางทรงพระสุบิน พระพุทธรูปปางทรงพระสุบิน วัดปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถบรรทมตะแคงขวา พระหัตถ์ซ้ายทอดไปตามพระวรกาย พระพาหา ( ต้นแขน ) ขวาแนบกับพื้น ยกหลังพระหัตถ์ขึ้นแนบพระหนุ ( คาง ) งอนิ้วพระหัตถ์แนบกับพระปราง ( แก้ม ) หลับพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย เป็นกิริยาบรรทมหลับในลักษณะสีหไสยาสน์ ความเป็นมาของปางทรงพระสุบิน ต่อมาพระบรมโพธิสัตว์ทรงเลิกบำเพ็ญทุกรกิริยา เพราะทรงเห็นว่ามิใช่หนทางแห่งพระโพธิญาณ ทรงเปลี่ยนมาใช้มัชฌิมาปฏิปทา หรือ การปฏิบัติโดยทางสายกลาง จึงเสด็จออกบิณฑบาตดังเดิม ปัญจวัคคีย์ ทั้ง ๕ เข้าใจว่า บัดนี้ พระบรมโพธิสัตว์ได้ละความเพียรแล้วหันมาบริโภคอาหารดังเดิม ไหนเลยจะพบธรรมวิเศษได้ จึงพากันเดินทางจากไป พระบรมโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญเพียรทางจิตมาจนถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ขณะบรรทมทรงปัญจมหาสุบิน ( ฝัน ) เป็นบุพนิมิตรมหามงคล ๕ ประการ เมื่อตื่นบรรทมพระบรมโพธิสัตว์ทรงทำนายมหาสุบินนิมิตรด้วยพระองค์เอง ทรงทราบว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทรงเบิกบานพระทัยเป็นอย่างยิ่ง Tags พระพุทธรูปปางทรงพระสุบิน - ปางทรงพระสุบิน - พระบรมโพธิสัตว์ พระพุทธรูปปางรับมธุปายาส พระพุทธรูปปางรับมธุปายาส วัดปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับ ( นั่ง ) ขัดสมาธิ แบพระหัตถ์ทั้งสองยื่นออกไปข้างหน้า เป็นกิริยารับถาดข้าวมธุปายาส บางแบบอยู่ในพระอิริยาบถนั่งห้อยพระบาท ความเป็นมาของปางรับมธุปายาส เช้าวันเพ็ญวิสาขะ หรือ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ( ปีระกา ) อันเป็นวันครบรอบพระชนมายุ ๓๕ พรรษา ของพระบรมโพธิสัตว์ นางสุชาดา ธิดาของเศรษฐีผู้หนึ่ง แห่งตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ได้นำถาดทองคำบรรจุข้าวมธุปายาส มาแก้บนต่อรุกขเทวดาที่ต้นไทรใหญ่ ครั้นแลเห็นพระบรมโพธิสัตว์ประทับ ณ โคนต้นไทร ทรงรัศมีออกจากพระวรกายแผ่ซ่านไปทั่วปริมณฑล เข้าใจว่าเป็นรุกขเทวดา จึงนำข้าวมธุปายาสไปถวายพร้อมกับถาดทองคำ พระองค์ทรงแบพระหัตถ์ทั้งสองออกรับถาดข้าวมธุปายาส Tags พระพุทธรูปปางรับมธุปายาส - ปางรับมธุปายาส - รุกขเทวดา - ข้าวมธุปายาส - ถาดทองคำ พระพุทธรูปปางเสวยมธุปายาส พระพุทธรูปปางเสวยมธุปายาส วัดปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับ ( นั่ง ) ขัดสมาธิ ประคองถาดมธุปายาส ความเป็นมาของปางเสวยมธุปายาส เมื่อนางสุชาดาทูลลากลับไปแล้ว พระบรมโพธิสัตว์เสด็จออกจากร่มไทร ทรงถือถาดข้าวมธุปายาส เสด็จไปยังริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา สรงพระวรกาย ( อาบน้ำ ) แล้วประทับริมฝั่งแม่น้ำ หันพระพักตร์สู่ทิศตะวันออก ทรงแบ่งข้าวมธุปายาส ออกเป็น ๔๙ ส่วน แล้วปั้นเป็นก้อน ๔๙ ก้อน แล้วเสวยจนหมด ถือเป็นอาหารทิพย์ที่จะคุ้มได้ถึง ๔๙ วัน ในการเสวยวิมุตติสุขภายหลังการตรัสรู้ Tags พระพุทธรูปปางเสวยมธุปายาส - ปางเสวยมธุปายาส - มธุปายาส พระพุทธรูปปางเสี่ยงบารมีลอยถาด พระพุทธรูปปางเสี่ยงบารมีลอยถาด วัดปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับ ( นั่ง ) คุกพระชานุ ( เข่า ) ทั้งสองกับพื้น พระหัตถ์ซ้ายวางที่พระเพลา ( ตัก ) ข้างซ้าย เป็นอาการค้ำพระวรกายให้ตั้งมั่น ทอดพระเนตรลงต่ำ พระหัตถ์ขวาอยู่ในพระอิริยาบถยื่นถาดไปข้างหน้า ความเป็นมาของปางเสี่ยงบารมีลอยถาด หลังจากที่พระบรมโพธิสัตว์เสวยข้าวมธุปายาสแล้ว ทรงลอยถาดลงในแม่น้ำเนรัญชรา พร้อมกับทรงอธิษฐานเสี่ยงพระบารมีว่า "ถ้าจะได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ขอให้ถาดทองลอยทวนกระแสน้ำ แม้นว่าไม่ได้สำเร็จสมประสงค์ ขอให้ถาดลอยล่องไปตามกระแสน้ำ" พุทธประวัติกล่าวว่า ถาดนั้นได้ลอยทวนกระแสน้ำขึ้นไป จนถึงวังน้ำวนแห่งหนึ่ง จึงจมลงสู่นาคพิภพ ไปกระทบกับถาดสามใบของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตสามพระองค์พญานาคราชซึ่ง กำลังนอนหลับอยู่ในนาคพิภพได้ยินเสียงถาดกระทบกัน จึงทราบว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะบังเกิดขึ้นในโลกมนุษย์อีกพระองค์หนึ่งแล้ว ( ในกัปปัจจุบัน หรือที่เรียกว่าภัทรกัป มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๕ พระองค์ เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๔ ทรงพระนามว่า "พระสมณโคดมพุทธเจ้า" ) Tags พระพุทธรูปปางเสี่ยงบารมีลอยถาด - ปางเสี่ยงบารมีลอยถาด พระพุทธพระพุทธรูปปางรับหญ้าคา พระพุทธพระพุทธรูปปางรับหญ้าคา วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ซ้ายห้อยลงข้างพระวรกาย พระหัตถ์ขวายื่นออกมาข้างหน้า เป็นกิริยาทรงรับหญ้าคา บางแบบทำเป็นพระอิริยาบถทรงถือหญ้าคาก็มี บางแบบมีรูปพราหมณ์กำลังยื่นหญ้าคาถวายด้วย ความเป็นมาของปางรับหญ้าคา พระบรมโพธิสัตว์ทอดพระเนตรเห็นถาดทองลอยทวนกระแสน้ำดังอธิษฐานจึงทรงโสมนัส ( ดีใจ ) เสด็จสู่ร่มสาละ ครั้นถึงเวลาบ่ายได้เสด็จกลับไปยังอัสสัตถโพธิพฤกษ์มณฑล ( ร่มโพธิ์ ) ระหว่างทางได้พบกับโสตถิยพราหมณ์ ถือหญ้ากุสะ ( หญ้าคา ) ๘ กำ เดินสวนทางมา โสตถิยพราหมณ์เลื่อมใสในพระสิริที่งามสง่าของพระบรมโพธิสัตว์ จึงน้อมถวายหญ้ากุสะทั้ง ๘ กำ Tags พระพุทธรูปปางรับหญ้าคา - ปางรับหญ้าคา - <a href="http://www.itti-patihan.com/Search.html?searchphr พระพุทธรูปปางสมาธิเพชร พระพุทธรูปปางสมาธิเพชร วัดนิเวศธรรมประวัติ ราชวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับ ( นั่ง ) ขัดสมาธิไขว้พระชงฆ์ ( แข้ง ) หงายฝ่าพระบาททั้งสองข้าง ฝ่าพระหัตถ์วางหงายซ้อนกันบนพระเพลา ( ตัก ) พระหัตถ์ขวาทับบนพระหัตถ์ซ้าย ความเป็นมาของปางสมาธิเพชร หลังจากที่พระบรมโพธิสัตว์รับหญ้าคาจากโสตถิยพราหมณ์แล้ว ทรงนำไปปูต่างบัลลังก์ ณ ควงไม้อัสสัตถโพธิพฤกษ์ แล้วประทับ ( นั่ง ) ขัดสมาธิ อธิษฐานว่า "เนื้อและเลือดในสรีระนี้ แม้จะเหือดแห้งไปหมดสิ้น จะเหลือแต่หนังเอ็นและกระดูกก็ตามที ถ้าเรายังไม่บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณก็จักไม่ทำลายบัลลังก์นี้" Tags พระพุทธรูปปางสมาธิเพชร - ปางสมาธิเพชร - ความเป็นมาของปางสมาธิเพชร