หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
นายพรมดี สาลี
จากจังหวัด หนองบัวลำภู

รายงานการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีล
โพสต์เมื่อวันที่ : 4 ก.ย. 2552 IP : เปิดอ่าน : 7048 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
(52.65%-509 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย >  
  Share on Google+   LINE it!  
เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย

Advertisement

.....

 

ชื่อเรื่อง          รายงานการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกัน 
                        เรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา
                        ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษา            นายพรมดี สาลี
สถานศึกษา    โรงเรียนบ้านขามพิทยาคม อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู
สังกัด              สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1
ปีที่รายงาน      พ.ศ. 2551
 
บทคัดย่อ
 
                    การศึกษาถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ช่วยพัฒนาเยาวชนของชาติให้เป็นคนดี มีความรู้
แต่ในการจัดการศึกษาของประเทศไทยยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร โดยเฉพาะในวิชา สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นวิชาหนึ่งที่นักเรียนมีปัญหาในการเรียน เพราะการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนยังใช้วิธีการสอนแบบบรรยาย ยังขาดการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในการเรียนการสอน จากเหตุผลดังกล่าวทำให้ผู้ศึกษาต้องการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ
ร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) เข้ามาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
               การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้  (1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน  (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
                กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนบ้านขามพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 จำนวน 33 คน
จาก 1 ห้องเรียน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
                  เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน
แบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1  ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 9 แผนการเรียนรู้ (2)  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากตั้งแต่ 0.28 ถึง 0.76 มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.26 ถึง 0.75 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.92 (3)แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มี 5 ระดับ จำนวน 1 ชุด จำนวน 18 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานใช้ ค่า t-test ( Dependent Samples ) ผลการศึกษาปรากฏ ดังนี้
                    1.  แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD)  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพ 86.36/86.06 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
                    2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
                    3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
              โดยสรุปผลการศึกษาครั้งนี้ พบว่า แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) ที่ได้พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ อีกทั้งผู้เรียนยังมี ความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้ในระดับมาก ดังนั้นในการจัดการเรียนรู้ จึงสามารถนำ     แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้(STAD) ไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพได้
 
 

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง รายงานการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีล
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

นายพรมดี สาลี
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
นายพรมดี สาลี..