การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำยาก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำยาก ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทาง
การเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและ
การเขียนคำยาก 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำยาก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนปลาเค้าวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2549 จำนวน 21 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำยาก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 14 ชุด
2) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 14 ชุด ชุดละ 5 ข้อ 3) แบบสอบถามความ
พึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำยาก จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลการใช้ค่าสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและ
การทดสอบแบบ t-test dependent วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป
(SPSS 11.5 for windows)
ผลการศึกษา พบว่า 1) แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำยาก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.56/83.5 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
2) ดัชนีประสิทธิผลทางการเรียนของนักเรียน มีค่าเท่ากับ 0.60 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยมีคะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 4) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำยาก
เฉลี่ยเท่ากับ 4.12 ( = 4.12 S.D. = 0.10) อยู่ในระดับมาก

Advertisement