ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ |
เจ้าของโพสต์นี้ แสวง มลศิลป์ จากจังหวัด ยโสธร |
|
รูดซิป......เลือดซิบ......ประวัติซิป |
โพสต์เมื่อวันที่ : 6 ส.ค. 2552 IP : เปิดอ่าน : 7047 ครั้ง คะแนนของ BLOG นี้ -ไม่มีผลโหวต-
☰แชร์เลย > |
|
|
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย
|
|
Advertisement
|
มีเรื่องขำ ๆ นำมาเล่าสู่ฟังนะ.....สาระดีด้วยครับท่าน .....
รูดซิป...เลือดซิบ......ประวัติซิป
เวลารีบ อะไร ๆ ที่คิดว่าน่าจะราบรื่นกลับกลายเป็นติดขัดไปหมด อย่างเช่นวันนี้ ผมตื่นสายเพราะไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก แล้วไม่มีใครปลุกผมอีกด้วย ผมจึงรีบอาบน้ำ รีบแต่งตัว แต่เจ้ากรรมเอ๋ย.....พอรูดซิปกางเกงผ้าที่จะใส่ไปเรียน......ซิปก็ติดอยู่แค่กึ่งกลาง
ผมพยายามดึงขึ้น ก็ไม่ไป พยายามดึงลง ก็ไม่มา
อะไรกันนักหนาโว้ย..... ผมเริ่มหงุดหงิดใส่ตัวเอง
คนยิ่งรีบ ๆ อยู่ด้วย เดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน วิชาสำคัญซะด้วย
ผมก้มลงมองหาสาเหตุ เจ้ากรรมแท้ ฟันซิปเกิดพิศวาสกางเกงในของผมเข้าให้แล้ว ผมพยายามดึงขึ้นดึงลง แต่ทุกอย่างนิ่งสนิท พยายามจะถอดกางเกงออกก็ถอดไม่ได้ โอย...แล้วผมจะทำยังไงดี ในที่สุดผมก็ตัดสินใจ กำลังมีเท่าไรถาโถมไปที่เจ้าซิปตะกละอันนี้ให้หมด มันต้องดึงออกซิน่า....ผมคิดในใจ
แล้วก็ได้ผลทันตา ......แควก.....กางเกงในผมขาด ซิปรูดขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
ผมรีบเอามือปิดด้วยความอาย .....อายจริง ๆ ........
โอ...เลือดซิบเลยเรา......
ตอนนั้น ผมนึกถึงวิศวกรช่างกลคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวเมืองชิคาโก เขาชื่อ
วิตคอมบ์ จั๊ดสัน เขาเป็นคนคิดซิปขึ้นมาเป็นคนแรกของโลก แล้วจดทะเบียนในชื่อ clasp-locker ในปี ค.ศ. 1893 ซึ่งแคลสพ์-ล็อคเกอร์สองอันแรกของโลกนี้เขาใช้กับรองเท้าบู๊ตของจั๊ดสันและลุยส์ วอล์คเกอร์
จั๊ดสันทำธุรกิจที่ยิ่งใหญ่หลายอย่างแล้วประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องยนต์กลไก ที่ห้ามล้อรถไฟ แต่สิ่งประดิษฐ์เล็ก ๆ อย่าง “ซิป” กลับไม่มีใครสนใจ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ารูปร่างไม่น่าสนใจ มันเป็นตะขอที่ต่อเนื่องกันเป็นแถว ๆ ดูน่ากลัว และบางครั้งการใช้งานก็ไม่เรียบลื่น
ในปี ค.ศ. 1893 เขาจึงตัดสินใจจัดงานแสดงสินค้านานาชาติที่ชิคาโกเพื่อเปิดตัวสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ งานนี้มีผู้ชมงานเป็นล้าน ๆ คน แต่ผู้คนเหล่านั้นกลับสนใจรถไฟฟ้าคันแรกของโลกซึ่งเป็นของเฟอริมากกว่า อย่างไรก็ตามเขาก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่ไปรษณีย์สั่งซิปเของเขาไปติดที่ถุงไปรษณีย์ แต่ใช้ได้ไม่นานก็ต้องเลิกใช้ เพราะซิปมักติดขัดบ่อย ๆ
วิตคอมบ์ จั๊ดสัน จึงเสียใจมากและรู้สึกอับอายเป็นยิ่งนัก ก็คงเหมือนผมในตอนนี้ แล้วเขาก็จากโลกนี้ไปเมื่อ ค.ศ. 1909 ด้วยความรู้สึกปลงในชีวิตว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาไร้ค่ายิ่งนัก
อีก 20 ปีให้หลัง กิเดียน ซันแบค วิศวกรเชื้อสายสวีเดนและอเมริกา ได้ประดิษฐ์ซิปขนาดเล็กและเบาขึ้น ในปี ค.ศ. 1913 ปรากฏว่ากองทัพอเมริกาสนใจ จึงสั่งซิปมาใช้กับเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ส่วนคนทั่วไปจะใช้ซิปกับรองเท้าบู๊ต เข็มขัดใส่เงินและซองใส่ยาสูบมากกว่า จนถึงปี ค.ศ. 1920 คนจึงเริ่มนำซิปมาใช้กับเสื้อผ้าบ้าง แต่ไม่นานคนก็เลิกนิยมเพราะฟันซิปทำจากเหล็ก ทำให้ขึ้นสนิมง่าย คนจึงหันไปใช้กระดุมกับรังดุมต่อไป
อีก 12 ปีต่อมา คือในปี ค.ศ. 1932 บริษัท B F Goodrich ได้ประดิษฐ์ซิปไร้ขอที่ไร้สนิมขึ้น ซึ่งเรียกชื่อว่า Zipper และนำไปใช้กับรองเท้าบู๊ต ปรากฏว่าได้รับความนิยมมาก จนต่อมาในปี ค.ศ. 1935 เอลสา เวียปาเลลิ นักออกแบบเสื้อผ้าได้เริ่มนำซิปไปใช้กับเสื้อผ้าอาภรณ์ ปรากฏว่าเป็นที่นิยมของคนทั่วไป
ปัจจุบัน ซิปกลายเป็นสิ่งประดิษฐ์สำคัญที่อยู่คู่กับเสื้อผ้าของคนมากกว่ารองเท้าซึ่งเป็นจุดประสงค์ในการประดิษฐ์ครั้งแรก และซิปได้เดินทางรับใช้ผู้คนไปทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ชุดอวกาศ ถ้า วิตคอมบ์ จั๊ดสัน คนประดิษฐ์ซิปคนแรกมีญาณหยั่งรู้ เขาคงดีใจจนเนื้อเต้นที่ซิปได้กลายเป็นสิ่งของที่มีประโยชน์มากที่สุดของคนในโลกและคนนอกโลกไปแล้ว
โดยเฉพาะผมในตอนนี้จะจัดการอย่างไรกับเจ้าซิปตะกละที่เขมือบกางเกงในของผมอันนี้ดี เพื่อนช่วยผมคิดหน่อยซิครับ....
นำมาฝากจากเรื่องเล่าของนายบาส ....... ครับ
Advertisement
|