หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
นายศุภวัฒน์ คุณานุวัฒน์
จากจังหวัด จันทบุรี

"สามชุก" ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ "กระทรวงวัฒนธรรม" ภูมิใจเสนอ
โพสต์เมื่อวันที่ : 4 ส.ค. 2552 IP : เปิดอ่าน : 7061 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
(40.00%-5 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย >  
  Share on Google+   LINE it!  
เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย

Advertisement

.....

  PDF ส่งเมล

"สามชุก" ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ "กระทรวงวัฒนธรรม" ภูมิใจเสนอ

 

 

สามชุก

“สามชุก” ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ “กระทรวงวัฒนธรรม” ภูมิใจเสนอ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และรัฐมนตรีทั้งคณะ นี่ เป็นคำโปรยบนโปสเตอร์สองแบบล่าสุด จากหนังที่สร้างขึ้นมา เพื่อให้คนได้ทราบถึงภัยของยาเสพย์ติด และการทำความเข้าใจกับความเปราะบางของวัยรุ่น ซึ่งสร้างจากเรื่องจริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอำเภอสามชุก

ซึ่งจากคำโปรยดังกล่าว ทำให้เรารู้สึกสนใจว่า หนังที่เหมาะสมกับคนไทย จะต้องเป็นแนวสาระแบบนี้ใช่ไหม ซึ่งเนื้อหา และผลของภาพยนตร์ เราคงต้องรอพิสูจน์ดู เข้าฉาย 6 สิงหาคม 2552 นี้ ผลงานโดย ปื๊ด-ธนิตย์ จิตนุกูล

ทำความรู้จักกับภาพยนตร์ "สามชุก"
 

          เรื่องราวชีวิตของวัยรุ่นไทยกลุ่มหนึ่งที่กำลังอยู่ในวัยที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต กลายเป็นทาสของยาเสพติดที่ระบาดเข้ามาในโรงเรียนอย่างเงียบๆด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ด้วยความรักและความเข้าใจของอาจารย์ในโรงเรียน จึงทำให้พวกเขารอดพันจากจุดจบที่น่าเศร้าในชีวิตไปได้ สร้างจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ในโรงเรียน สามชุกรัตนโภคาราม อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
จากเรื่องจริง ของเด็ก 7 คนในอำเภอสามชุก ที่มีชีวิตวัยมัธยมเหมือนเด็กทั่วไป มีความรัก มีความคะนอง ทั้ง 7 คน ได้แก่ วาล พัน ยอด เอก นักเรียนตัวแสบชั้น ม. 5 และรุ่นน้องม.4 ที่สนิทกันอีก 3 คน เทพ ปอด โบ๊ะ ชีวิตเด็กทั้ง 7 คนกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อวาลต้องเริ่มทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระหนี้สิน แม่และวาลต้องแบกหนี้สินของพ่อที่เสียไปแล้วทิ้งไว้ให้ตามลำพังแม่ลูก วาลต้องทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนหลายอย่าง และนี่คือช่องทางแรกที่ยาบ้าแทรกเข้ามาในกลุ่มเด็ก 7 คน ไอ้ดำเพื่อนที่อู่แนะนำให้วาลรู้จักยาบ้า ที่จะทำให้วาลทำงานได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่เหน็ดเหนื่อย กว่าจะรู้ตัวชีวิตวาลก็ตกอยู่ใต้อำนาจของมันอย่างช้าๆ แล้ววาลเป็นสะพานที่นำยาไปสู่เพื่อนๆ อีกหกคน แทนที่ยาจะช่วยให้วาลมีเงินช่วยแม่ใช้หนี้ แต่มันกลับกลายเป็นความต้องการยามากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนทั้งหกหันมาทดลองยาด้วยหลากหลายเหตุผล เทพที่บ้านมีฐานะที่สุดเป็นสปอนเซอร์ให้เพื่อนๆ ทำให้พวกวาลไม่เคยขาดยา
ทุกคนรู้ว่ามันคือสิ่งผิด และไม่ดี แต่พวกเขาไม่สามารถเลิกได้ เรื่องราวเริ่มลุกลามจนถึงตำรวจ ทุกคนพร้อมจะตราหน้าพวกเขาว่าเป็นเด็กเหลือขอ ไม่มีอนาคต อาจารย์พินิจได้ยื่นมือเข้าช่วยเด็กๆไว้ เด็กๆจึงไว้ใจอาจารย์ ทำให้อาจารย์ได้รู้เรื่องราวและปัญหา อาจารย์พินิจพยายามปรับความคิดของเด็กโดยให้ใช้ปัญญาและยืดอกรับปัญหาต่างๆ รวมทั้งปรับความเข้าใจของคนใกล้ชิดเด็ก และชาวบ้านในชุมชนสามชุกไปพร้อมๆกัน ให้ทุกคนได้รู้ว่าปัญหายาเสพติดไม่ได้เป็นความผิดของเด็กฝ่ายเดียว ผู้ปกครองต้องเอาใจใส่ ชุมชนต้องป้องกัน ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ด่าทอโยนความผิดให้กัน อาจารย์พินิจพยายามตะโกนดังๆ ให้ทุกคนในชุนชน และสังคมรู้ว่าปัญหาของเด็ก 7 คนนี้เป็นเพียงลางบอกเหตุ หากทุกคนเลือกที่ปัดปัญหาออกไปง่ายๆ โดยการตัดโอกาศเด็กพวกนี้และปล่อยให้เด็กทั้ง 7 จมหายไปกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อนาคตก็ต้องมีเด็กๆ ลูกๆหลานๆ ของคนในชุมชน ที่ต้องพลาดติดมันอีกอย่างแน่นอน อาจารย์พินิจขอโอกาสให้เด็กๆ ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และรับปากจะทำให้เด็ก 7 คน เลิกยากลับมาเป็นคนดีและอยู่ร่วมในชุมชนอย่างสงบสุขให้ได้
อาจารย์พินิจนำเด็ก 7 คน เข้ามาอยู่ค่ายประจำที่โรงเรียน และดูแลอย่างใกล้ชิด ให้เด็กทำกิจกรรมต่างๆ เป็นกิจวัตร ทุกเช้าต้องออกกำลังกาย ปลูกกุหลาบ และทำอาหารกินกันเอง การเลิกยาอาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่ท่ามกลางปัญหา และสิ่งยั่วยุมากมาย ถ้าหัวใจ และมิตรภาพของเด็กทั้ง 7 ไม่เข้มแข็งพอ พวกเขาก็จะไม่สามารถผ่านพ้นมันไปได้ อาจารย์พินิจทำได้มากสุดก็แค่ยืนเคียงข้าง และเฝ้ามองวันที่เด็กทั้ง 7 จะก้าวผ่านพ้นมันไปได้ในที่สุด วันนี้ดอกกุหลาบต้นเล็กๆ ที่เด็กและอาจารย์ช่วยกันฟูมฟักออกดอกโชว์ความงาม มันคือตัวแทนของความฝัน และความหวังของทุกคน หากไม่ได้รับโอกาสในวันนั้น คงไม่มีวันนี้ เด็กทั้ง 7 เรียนจบ มีงานดีๆทำ และวันนี้เด็ก 7 คนกลายเป็นพลังผลักดัน และเป็นแรงบันดาลใจให้สามชุกกลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง คอยต่อต้านภัยจากยาเสพติดอย่างยั่งยืนตลอดไป

ที่มาของภาพยนตร์

อะไรจะเกินขึ้นในอนาคต หากเยาวชนของชาติตกเป็นทาส “ยาบ้า”

สามชุก ภาพยนตร์จากเค้าโครงเรื่องจริง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก อาจารย์พินิจ พุทธิวาส อาจารย์โรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ที่มองว่ามหันตภัยยาบ้าไม่เพียงระบาดหนักไปทั่วประเทศ แต่ยังได้ลุกลามเข้าสู่สถานศึกษาอันเป็นแหล่งปลูกฝังวิชาความรู้แก่เยาวชนของชาติ หลายโรงเรียนประสบกับปัญหานี้รวมถึงโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม แม้ว่าผู้เกี่ยวข้องจะมีการแก้ไขกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ

จากความเชื่อที่ว่า “หากใครสักคนที่ได้ให้ความรักแท้จริงกับผู้ที่ประสบความล้มเหลว โดยไม่มีเงื่อนไข จะทำให้ผู้นั้นมีพลังในการเปลี่ยนแปลง” ทำให้อาจารย์วินิจ พุทธิวาส เลือกที่จะเชื่อใจและหยิบยื่นโอกาสให้แก่ลูกศิษย์ที่หลงผิดติดยาบ้างอมแงม ทั้ง 7 คน ในขณะที่สังคมรุมตราหน้าเด็กเหลือขอเหล่านี้ว่าไม่มีทางกลับตัวได้ อาจารย์พินิจพาเข้าโครงการณ์ “สู่ชีวิตใหม่” ซึ่งเป็นการบำบัดการติดยาแบบแยบยลและเป็นธรรมชาติ และจากโครงการณ์นี้เองที่เป็นที่มาของสารคดี “ยาม้า มหันตภัยในสถานศึกษา” (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น ยาบ้า) ผลิตโดยบริษัทเจเอสแอล ออกอากาศทางช่อง 7 เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2537 ซี่งได้สร้างกระแสอันเป็นปรากฏการณ์ระดับชาติ เนื่องจากเป็นตัวจุดประกายเร่งเร้าให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบบ้านเมืองตั้งแต่ ระดับนายกรัฐมนตรีถึงขั้นประกาศเปรี้ยงต้องรีบแก้ไขด่วน โดยให้กระทรวงศึกษาธิการดูแลเป็นพิเศษ และขอความร่วมมือผู้ปกครองร่วมสกัดกั้นมหันตภัยร้ายอย่างเข้มงวด

ผู้กำกับภาพยนตร์

ปื๊ด – ธนิตย์ จิตนุกุล ผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้าของวงการภาพยนตร์ไทย ที่สั่งสมประสบการณ์ทำงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 24 ปี โดยมีรางวัลต่างๆ การันตีคุณภาพ ปีนี้เขากลับมากำกับผลงานคุณภาพเรื่องล่าสุด “สามชุก” ซี่งเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรีที่มียาเสพติดเข้าไประบาดอย่างหนัก นอกจากเป็นอันตรายต่อผู้เสพแล้ว ยังทำให้เยาวชนอันเป็นเรี่ยวแรงสำคัญของชาติที่นั่นตกอยู่ภายใต้ภัยอันร้ายแรงอีกด้วย เนื้อหาจึงมุ่งต่อต้านยาเสพติดที่กำลังระบาดหนักไปทั่วทุกท้องที่และทั่วภูมิภาคของประเทศไทย

ความยากลำบากของโปรเจกต์นี้เป็นอย่างไรบ้าง
“ความพิเศษของภาพยนตร์เรื่องนี้คือเป็นหนังสีขาว ที่รณรงค์เรื่องของยาเสพติด อยากให้สังคมรู้ว่ายาเสพติดมันแพร่ระบาดอย่างหนักไปทั่วทุกหัวระแหง ยาบ้าไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย เราไม่ควรเพิกเฉย ถ้าเด็กที่ติดยาเป็นลูกเป็นหลานของคุณหล่ะ? จะทำยังไงกัน?”

การคัดเลือกนักแสดงในเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง
“เรื่องนี้ใช้นักแสดงเยอะมาก นอกจากนักแสดงเด็กที่ติดยาแล้ว ก็มี พ่อ แม่ ญาติๆ ซึ่งล้วนเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ไม่มีพื้นฐานทางการแสดงมาก่อนทั้งหมด จะมีนักแสดงอาชีพเพียง 2 คน อย่างคุณ ปรเมศร์ น้อยอ่ำ (บอดี้ศพ19) ซึ่งลักษณะบุคลิคภายนอกมองดูคล้าย
อาจารย์พินิจมาก แล้วก็เป็นนักแสดงที่มีฝีมือ คุณ วิมลเรขา ศิริชัยราวรรณ และยังมีดารารับเชิญพิเศษอย่างแม่เล็ก แม่ของตั๊กบงกช ที่เป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรีจริงๆ ในเรื่องบทเยอะเหมือนกันทั้งร้องห่มร้องไห้กอดลูก ถือว่าสอบผ่าน แสดงได้ดีมาก
สำหรับนักแสดงเด็กๆ ที่มารับบทหนักในเรื่อง เราได้นักแสดงหน้าใหม่มาเล่นให้เรื่องนี้ ที่เป็นอย่างนี้เพราะเราต้องการเน้นเรื่องความสมจริงมาเป็นอย่างแรก เราไม่ได้อยากได้ตัวเอกหน้าหล่อจัด หรือมีความหล่อโดดเด่นจนเกินไป ที่สำคัญเราได้เลือกคนที่เป็นคนสุพรรณจริงๆ อย่างวาล ตัวเอกของเรื่องที่ได้น้องหมูมาสวมบท ที่เลือกน้องหมูเพราะหน้าเขามีหลายอารมณ์ มีมุมดราม่า มีมุมสนุก มีด้านลึกเยอะ เพราะในเรื่องเค้าต้องแบกรับเรื่องราวอะไรหลายอย่าง อย่างที่บ้านมีหนี้ เขาเป็นคนแรกที่ต้องไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว เพราะความอยากทำงาน ได้เยอะๆ แล้วจึงเริ่มเสพยา พอติดแล้วก็เอายาบ้าเข้ามาสู่เพื่อนๆ ในกลุ่ม”

ความยากง่ายในการทำงานกับนักแสดงใหม่
“หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีหลากหลายแง่มุม ทั้งมิตรภาพระหว่างเพื่อน ความสนุกสนาน ความรัก เนื้อหาในหนังจะเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จะเริ่มมีมุมมืดเข้ามา ซึ่งก็ต้องให้เวลาน้องๆนักแสดงพอสมควร อย่างซีนอารมณ์ และในเรื่องมีฉากแรงๆ อย่างฉากที่ต้อง เสพยาบ้า ฉากเล่นยา ด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งการเผา การสูดควัน และสูบบุหรี่ ซึ่งน้องนักแสดงพวกนี้ก็ต้องสูบบุหรี่จริงๆ ซึ่งประเด็นเรื่องนี้ค่อนข้างเซนซิทีฟนะ ก่อนถ่ายเราต้องคุยและต้องขออนุญาตพ่อแม่ของเด็กก่อน ซึ่งทางผู้ปกครองเด็กก็อนุญาต เพราะเข้าใจและมั่นใจในตัวลูก ไม่กลัวลูกติดบุหรี่จริงๆ จากการแสดง เพราะคิดว่าถ้าเด็กจะติดก็ติดเอง ซึ่งตัวเด็กๆพวกนี้เองก็ยังบ่นเลยว่าไม่ชอบ มันทรมาน”

โลเกชั่นที่ใช้ถ่ายทำหนังเรื่องนี้มีที่ไหนบ้าง
“ผมใช้สถานที่เกิดเรื่องจริงๆ คือที่สามชุก จากการได้คลุกคลีทำงานที่นี่ ผมมองว่า ตลาดสามชุก เป็นตัวอย่างที่ดี เป็นชุมชนที่แข็งแรงมากๆ ชาวบ้านทุกคนรู้จักกันหมด มีการรวมกลุ่มกันอย่างแน่นหนา มีการช่วยเหลือสอดส่องดูแลลูกหลานในชุมชน ตอนไปถ่ายทำชาวบ้านก็ให้ความร่วมมือดี ไปบ้านไหนก็ให้การต้อนรับ อีกที่ก็คือที่โรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม ซึ่งจัดว่าเป็นโรงเรียนรัฐบาลที่มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งที่นี่จะเปรียบเหมือนโรงถ่ายของเรา ทางโรงเรียนเปิดให้ไปถ่ายทุกซอกทุกมุม ครูจริงๆ ก็เข้าฉากหลายคน ส่วนฉากใหญ่ๆ ยากๆ ก็คงเป็นฉากที่ตลาดสามชุก ซีนที่เด็กไปอาละวาดทำลายข้าวของของชาวบ้าน ทั้งเตะกระจาด ทุบหม้อกระจุยกระจายไปหมด ซึ่งฉากนี้ถึงกับต้องปิดตลาดกันเลยทีเดียว ส่วนอีกฉากที่ถ่ายบริเวณลานโพธิ์ เป็นซีนที่ชาวบ้านมารวมตัวกันเพราะไม่พอใจที่เห็นเด็กไปอาละวาดจนเกิดความเสียหาย ซึ่งต้องใช้นักแสดงสมทบเยอะมาก”

ความตั้งใจของผู้กำกับสำหรับหนังเรื่องนี้
ยาเสพติดไม่ใช่เรื่องไกลตัว และตอนนี้มันระบาดไปแล้วทุกที่ หากยาบ้ายังไม่หมดไปจากโรงเรียน ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น คนที่เป็นครู พ่อ แม่ จะทำอย่างไรถ้าลูกหลานตนเองติดยาบ้าอย่างหนัก รุนแรง และกำลังจะเดินสู่นรก อยากให้คนที่เกี่ยวข้องรับรู้ถึงตรงนี้ สมมติว่าเด็กที่ติดยาเป็นลูกหลานคุณล่ะ? อยากให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน ไม่ต้องรอหน่วยงานของรัฐ ทางโรงเรียน หรือชุมชน ก็ควรเปิดรับช่วยเหลือไม่ใช่ผลักภาระไปทางอื่น ถ้าช่วยเด็กติดยาพวกนี้ได้พอเขาแข็งแรงกลับมาเป็นคนดีได้ เด็กพวกนี้ก็จะเติบโตขึ้นเป็นเด็กดีมีอนาคต และกลายเป็น เรื่ยวแรงสำคัญให้ชุมชน ทำให้ชุมชนก็จะแข็งแรงยิ่งขึ้น
อีกอย่างคือมุมมองเรื่องการให้โอกาส ไม่ใช่ว่าคนที่พลาดไปแล้วจะพลาดไปเลย ขอแค่เพียงสังคมให้โอกาสพวกเขาพิสูจน์ ตัวเองบ้าง ถ้าพวกเราปล่อยพวกเขาไปตามยถากรรม ก็เท่ากับปัญหามันไม่ถูกแก้ คนที่กลับตัวได้อาจจะกลายเป็นฟันเฟืองที่ช่วยแก้ปัญหาใหญ่ได้ ในอนาคตสร้างรากฐานให้มันแข็งแรง ในชีวิตจริงของเด็กกลุ่มนี้เหมือนเป็นไอดอลเหมือนแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ของชุมชน เพราะเด็กทุกคนเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคม ประกอบอาชีพ มีหน้าที่การงานที่ดี และเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการช่วยชุมชน ถ้าไม่ได้อาจารย์พินิจ มาช่วยก็อาจไม่มีวันนี้

ข้อมูลและรูปภาพจาก www.openmm.com

นักแสดงสามชุก เข้าเยี่ยมคารวะอภิสิทธิ์ มอบของที่ระลึก

PDF ส่งเมล
 
 

          ทีมงานภาพยนตร์ "สามชุก" เข้าเยี่ยมคารวะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อมอบของที่ระลึกพร้อมจัดงานแถลงข่าว ยกเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่กระทรวงวัฒนธรรม ส่งเสริมให้คนไทยทั้งประเทศได้ชม  (แปซิฟิคไอร์แลนด์ ฟิลม์)

 

นักแสดงสามชุก เข้าเยี่ยมคารวะอภิสิทธิ์ มอบของที่ระลึก
 

 

          ทีมงานผู้สร้าง ผู้กำกับ และทีมนักแสดงจากภาพยนตร์ไทยเรื่อง "สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)" นำทีมโดย นายสมชาย องอาจ ประธานกรรมการบริษัท แปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม, นายธนิตย์ จิตนุกูล ผู้กำกับภาพยนตร์, ทีมนักแสดง ปรเมศร์ น้อยอ่ำ, ธีรภัทร แย้มศรี, พิเชษฎ์พงษ์ โชคประดับ, อำนาจ บัวปรอด, พงศธร ศรีบุญเพ็ง, ศุภณัฐ มีสมศักดิ์, ณัฐชนน ศุภลักษณ์, นวพล เจริญธรรมรักษา, จารุวรรณ สมตัว, สิริกานดา บุญธรรม และปานไพลิน เนตรเพชร ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อมอบของที่ระลึกจากภาพยนตร์ ได้แก่ เสื้อทีเชิ้ตสามชุก, ผลิตภัณฑ์จากสามชุก และบัตรเชิญร่วมงานรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ ที่จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม นี้ ที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เวลา 20.00 น.

 

นักแสดงสามชุก เข้าเยี่ยมคารวะอภิสิทธิ์ มอบของที่ระลึก

 

 

นักแสดงสามชุก เข้าเยี่ยมคารวะอภิสิทธิ์ มอบของที่ระลึก


           หลังจากร่วมถ่ายรูปเสร็จสิ้น นายปรเมศร์ น้อยอ่ำ ได้เชิญนายกรัฐมนตรีชมตัวอย่างภาพยนตร์พร้อมได้อธิบายถึงบทบาทที่ตนได้รับ คือบทอาจารย์พินิจ พุทธิวาส อาจารย์โรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม ได้ช่วยเหลือลูกศิษย์ให้หลุดพ้นวังวนของยาเสพติด ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นเตือนเยาวชนและคนในสังคมมาให้ความสำคัญกับเรื่องดัง กล่าว ถือเป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนปัญหาสังคมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้เป็นอย่างดี ทางกระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องสามชุก เป็นภาพยนตร์ยาเสพติดเรื่องแรกที่ส่งเสริมให้ประชาชนทั้งประเทศได้ชม เนื่องจากตรงกับนโยบายสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ของรัฐบาลและยังสอดคล้องกับ การส่งเสริมภาพยนตร์ไทยตามหลักการใน พ.ร.บ.ภาพยนตร์ และวิดีทัศน์ พ.ศ. 2551 โดยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะเข้าชมรอบปฐมทัศน์ในวัน และเวลาดังกล่าว

 

           ก่อนหน้ารอบปฐมทัศน์ทางบริษัท แปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม  ได้จัดรอบพิเศษสำหรับรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 21 กรกฎาคม "นักแสดงพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายธีระ สลักเพชร" เวลา 19.30 - 21.30 น. ณ โรงภาพยนตร์พารากอน ซินีเพล็กซ์ และรอบพิเศษ "รัฐมนตรีพาครูดูหนัง" โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายจุรินทร์ ลักษณะวิสิทธิ์ เชิญชวนและพาครู - ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ชมภาพยนตร์ ในวันพุธที่ 22 กรกฎาคม เวลาเวลา 19.30 - 21.30 น. ณ โรงภาพยนตร์พารากอน ซินีเพล็กซ์

           ในช่วงเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับภาพยนตร์เรื่อง "สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)" ณ โรงภาพยนตร์ เอสพละนาดซีนีเพล็กซ์ โดยภายงานมีเหล่านักแสดงและผู้กำกับ พร้อมด้วยโฆษกกระทรวงวัฒนธรรมอย่าง "อี้ - แทนคุณ จิตต์อิสระ" เข้าร่วมงานในบรรยากาศเป็นกันเอง ได้พูดคุยและให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง รวมถึงฉากสำคัญๆ ในเรื่อง

ติดตามชม "สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)" ภาพยนตร์เรื่องแรกที่กระทรวงวัฒนธรรมภูมิใจเสนอให้ ประชาชนทั้งประเทศได้ชม ในวันที่ 6 สิงหาคม นี้ ทุกโรงภาพยนตร์

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

 

รวมภาพบรรยากาศงานเปิดตัวภาพยนตร์ "สามชุก" ขอเพียงโอกาส อีกสักครั้ง และฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่สยามพารากอน ชั้น 5 วันที่ 28 ก.ค. 2552 โดยมีนายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมชมภาพยนตร์ด้วย

samchuk 8
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 9
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 10
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 11
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 12
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 13
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
 
samchuk 14
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 15
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 16
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 17
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
 
samchuk 18
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
 
samchuk 19
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
 
samchuk 20
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 21
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
 
samchuk 22
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
 
samchuk 23
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 0
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 1
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 2
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 3
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 4
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 5
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 6
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
samchuk 7
DatsoPic 1.2 © 2007 by Andrey Datso
ถัดไป >

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง "สามชุก" ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ "กระทรวงวัฒนธรรม" ภูมิใจเสนอ
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

นายศุภวัฒน์ คุณานุวัฒน์
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
นายศุภวัฒน์ คุณานุวัฒน์..