|
ทิวทัศน์อันสวยงามของเกาะ Mykonos |
|
|
ตลอดทั้งเดือนสิงหาคมของทุกปี ทุกเมืองใหญ่ในแถบยุโรปจะเงียบสนิท ผู้คนที่เคยเดินขวักไขว่เต็มทางเท้าบนท้องถนน รถราที่จอแจแน่นขนัดอยู่บนถนนสายหลัก จะลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงร้านรวงต่างๆ บริษัทน้อยใหญ่ต่างพากันปิดป้ายไว้ที่หน้าร้านหน้าบริษัท เพื่อแจ้งให้ลูกค้าได้ทราบว่า จะเปิดดำเนินการกันใหม่ ในวันที่ 1 กันยายน
เพราะช่วงเดือนสิงหาคมคือวันหยุดยาวประจำปีเป็นเวลา 1 เดือนของพ่อค้าแม่ขาย ผู้ประกอบธุรกิจทั้งรายใหญ่และรายย่อย ตลอดจนลูกจ้างของบริษัทห้างร้านจะหยุดพักร้อน ไปพักผ่อนตากอากาศชาร์จแบตเตอรี่ให้คุ้มกับที่เหน็ดเหนื่อยมาตั้งแต่ต้นปี
|
และเมื่อฤดูร้อนย่างกรายเข้ามาถึง คนยุโรปจะเริ่มมองหากิจกรรมสนุกๆ ทำกันตามชายหาด
แน่นอนที่สุดว่า แหล่งท่องเที่ยวของชาวยุโรปนั้น หนีไม่พ้น หาดทราย...สายลม...และแสงแดด รวมถึงเกาะแก่งน้อยใหญ่ที่มีหาดทราย สายลมและแสงแดดนั่นเอง ทุกคนต่างมีที่หมายไว้ล่วงหน้ากันตั้งแต่ดอกไม้ต้นไม้เริ่มผลิใบแล้ว ทั้งเสื้อผ้าหน้าร้อนที่ต้องเตรียมตัวกันเสียแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะ ชุดว่ายน้ำ ชุดเดินเล่น ชุดลำลอง ไปจนถึงหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด รองเท้าแตะดีไซน์เก๋ที่จะต้องมีไว้ใส่อวดกัน ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดเพิ่มสีผิวให้เป็นสีแทนอมทอง เหล่านี้ล้วนเป็นของจำเป็นสำหรับการพักร้อนของแต่ละคน
|
แหล่งพักร้อนยอดนิยมในยุโรป ไม่พ้นบรรดาเมืองที่รายล้อมอยู่ริมรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีหาดทรายยาวตลอดแนว เลาะไล่ลงไปจนถึงหมู่เกาะต่างๆ ที่อยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกด้านล่าง ที่อยู่ระหว่างยุโรปและอเมริกาใต้ ซึ่งแหล่งยอดนิยมเห็นจะได้แก่ เฟรนช์ ริเวียร่า หรือที่ชาวฝรั่งเศสเรียกกันว่า แซงต์ โทรเพซ์ ที่บรรดาเหล่าดารานักแสดงนิยมไปพักผ่อนตากอากาศกันที่นั่น
ตามเกาะต่างๆ ก็เป็นที่นิยมไม่น้อย ของหนุ่มสาวที่ไม่ย่อท้อต่อการเดินทางหลายรูปแบบ คือนอกจากจะต้องนั่งเครื่องบินหรือรถไฟไประยะหนึ่งแล้ว ยังต้องโดยสารเรือเพื่อข้ามทะเลไปให้ถึงยังเกาะอันเป็นจุดหมายที่ตนฝันไว้ ก่อนจะลงนอนแผ่กางแขนกางขาแบบหมดแรงเฮือกสุดท้าย
|
|
อีกมุมหนึ่งของเกาะ Mykonos |
|
|
เกาะยอดนิยมที่หนุ่มสาวยุโรปนิยมไปกันมากที่สุด เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่แพงนัก และค่าใช้จ่ายประจำวันไม่สูงจนเกินไปคือ เกาะต่างๆ ในประเทศกรีซ ที่นิยมกันมากสุดน่าจะเป็นเกาะ มิโคนอส และ ซันโตรินี่
เสน่ห์ของเกาะทั้งสองนี้ อยู่ตรงที่สามารถเดินทางจากเมืองเอเธนส์ได้หลายวิธี ทั้งมาเรือเดินสมุทร เรือด่วน ไฮโดรฟอยล์ ที่มีวันละหลายเที่ยวตั้งแต่เช้ายันค่ำ ส่วนราคาห้องพักในเกาะต่างๆ ก็ไม่สู้แพงมากนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นห้องพักที่เจ้าของบ้านจะให้แบ่งเช่าประเภท โฮมสเตย์ ซึ่งมีอยู่ทั่วทุกตรอกซอกซอย
|
|
เกาะ Santorini ที่สวยไม่แพ้กัน |
|
|
และที่หนุ่มสาวทั้งหลายนิยมมากันที่เกาะมิโคนอส ถึงจะเป็นเกาะเล็กๆ แต่ก็เพราะมีชายฝั่งส่วนหนึ่งที่เป็นชายหาดทรายยาว ส่วนเกาะซันโตรินี่ เป็นเกาะใหญ่ที่มีเสน่ห์ด้วยลักษณะของบ้านทุกหลังที่ทาสีขาวตัดด้วยหน้าต่างไม้ทาสีฟ้าสดใส และมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย
กิจกรรมผู้ที่มาพักผ่อนในเกาะทั้ง 2 แห่งได้สนุกกันคือ ส่วนใหญ่จะนอนอาบแดดตามชายหาดกันในช่วงกลางวัน เพื่อให้ผิวที่ขาวซีดมาตลอดฤดูหนาวได้ถูกแดดให้ดูมีสีสันขึ้นบ้าง หรือไม่ก็เดินลัดเลาะตามตรอกเล็กๆ ไปยังโบสถ์หรือตลาดสด ก่อนจะลงนั่งพักตามร้านกาแฟหรือร้านอาหารเล็กๆ ที่ปรุงอาหารทะเลที่ได้กันสดๆ จากตลาด ประเภทปลาซาร์ดีนสดตัวเท่านิ้วก้อย นำมาคลุกแป้งพอติดผิว แล้วทอดในน้ำมันมะกอกจนสุกเหลือง กรอบนอก บีบมะนาวโรยเกลือป่นพอมีรส กินกับไวน์ขาวพื้นเมืองเย็นเจี๊ยบรินจากไหดินเผา ใส่แก้วใบเล็กๆ จิบไปด้วยกัน
|
|
นักท่องเที่ยวกำลังสนุกกับกิจกรรม |
|
|
ส่วนตอนกลางคืนก็เป็นช่วงที่นั่งตามร้านอาหารเล็กๆ ประเภททราเวิร์นและบาร์เหล้า ที่อยู่เรียงรายตลอดแนวทางเดินริมทะเล นั่งรับแดดยามเย็นจิบเหล้าอูโซ่เรียกน้ำย่อยไปเรื่อยๆ จนถึงยามค่ำแล้วค่อยสั่งอาหารประเภทปิ้งๆ ย่างๆ กินกับข้าวห่อด้วยใบองุ่นนึ่งราดด้วยน้ำมันมะกอก กินกับไวน์แดงพื้นเมืองรสนุ่มนวล จนมืดดึกดื่นตบท้ายกันด้วยเหล้าดีกรีจัดช่วยย่อยอาหาร จนอิ่มหนำสำราญกันเต็มที่แล้วค่อยแยกย้ายกันกลับที่พัก เป็นอย่างนั้นไปจนกว่าเวลาของการพักร้อนจะสิ้นสุดลง
|
|
ยามค่ำคืนของเกาะ Santorini |
|
|
สัปดาห์หน้าจะพาลัดเลาะไปพักผ่อนตามเกาะแก่งที่สวยงาม ที่แค่เห็นภาพแล้วก็อยากจะเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าบินไปให้ได้สัมผัสกับของจริงกันเลย
|