ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ |
เจ้าของโพสต์นี้ จินตนา พรมรักษา จากจังหวัด อุตรดิตถ์ |
|
วิจัยในชั้นเรียน |
โพสต์เมื่อวันที่ : 31 ก.ค. 2552 IP : เปิดอ่าน : 7051 ครั้ง คะแนนของ BLOG นี้ (52.50%-8 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย > |
|
|
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย
|
|
Advertisement
|
.....รายงานวิจัยในชั้นเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2551
ผู้วิจัย จินตนา พรมรักษา
***************************************************************
เรื่อง ผลการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนในรายวิชาภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 ด้วยกระบวนการเสริมแรง
วัตถุประสงค์งานวิจัย
1. เพื่อประเมินผลพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ในรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน หลังจากการได้รับการปรับพฤติกรรมด้วยกระบวนการเสริมแรง
2. เพื่อประเมินผลความคงทนของพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนหลังจากการได้รับการปรับพฤติกรรมด้วยกระบวนการเสริมแรง
3. เพื่อสร้างคู่มือการปรับพฤติกรรมวินัยทางการเรียนด้วยกระบวนการเสริมแรงที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ยอมรับได้
สมมติฐานงานวิจัย
1. หลังจากการได้รับการปรับพฤติกรรมด้วยกระบวนการเสริมแรง นักเรียนมีวินัยทางการเรียนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ที่ระดับคุณภาพ ดี
2. หลังจากการได้รับการปรับพฤติกรรมด้วยกระบวนการเสริมแรง นักเรียนมีความคงทนต่อการแสดงพฤติกรรมวัยทางการเรียนอย่างถาวร และสม่ำเสมอ
3. คู่มือการปรับพฤติกรรมวินัยทางการเรียนด้วยกระบวนการเสริมแรงมีคุณภาพตามมาตรฐานในระดับ 4
ขอบเขตงานวิจัย
1. ขอบเขตด้านประชากร
- กลุ่มประชากร
ประชากรที่ใช้ในการดำเนินงานวิจัยในครั้งนี้ เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 ของโรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ จำนวน 206 คน
- กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการดำเนินงานวิจัยในครั้งนี้ เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 /5 ของโรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ จำนวน 41 คน
2. ขอบเขตด้านระยะเวลา
- การดำเนินงานวิจัยในครั้งนี้ ใช้เวลาในการดำเนินงานทั้งสิ้น 14 สัปดาห์ ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ 2551
3. ขอบเขตด้านเนื้อหา
- เนื้อหาที่ใช้ในการดำเนินงานวิจัย ได้กำหนดขอบเขตของการแสดงพฤติกรรมด้าน
วินัยทางการเรียน ดังนี้
3.1 มีความพร้อมในการเรียน ได้แก่ อุปกรณ์การเรียน สมุด หนังสือ
ครบถ้วน
3.2 ไม่คุย เล่น หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการเรียนใน
รายวิชาภาษาไทย
3.3 ส่งงานและการบ้านตรงเวลา ครบถ้วน
3.4 ผลงานที่ทำมีความประณีต เรียบร้อย สะอาด แสดงถึงความตั้งใจและความพยายามในการเรียนรู้และรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัย
1. ตัวแปรต้น
กระบวนการเสริมแรงทางบวกและทางลบ
2. ตัวแปรตาม
พฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง
วิธีดำเนินงาน
1. บันทึกพฤติกรรมก่อนการดำเนินงานวิจัย
2. เรียงลำดับความสำคัญของปัญหา
3. ศึกษาและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการปรับพฤติกรรมของนักเรียน
4. สร้างคู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียน ด้วยกระบวนการเสริมแรง 4 ขั้นตอน ตามหลักการทางจิตวิทยาการปรับพฤติกรรมของ คาริช ( Kalish ) ดังนี้
4.1 กระบวนการเรียนรู้วินัยทางการเรียน
4.2 กระบวนการสร้างเงื่อนไข
4.3 กระบวนการปรับพฤติกรรมตามเงื่อนไข
4.4 กระบวนการตอบสนองพฤติกรรม
5. ดำเนินการทดลองใช้กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง
6. ปรับปรุงกระบวนการให้มุ่งสู่เป้าหมายที่ต้องการให้เกิดกับนักเรียน
7. ประเมินผล รายงานผลการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงานวิจัย
1. คู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียน
2. แบบบันทึกพฤติกรรมวินัยทางการเรียนก่อนและหลังการปรับพฤติกรรม
3. แบบประเมินคุณภาพคู่มือการปรับพฤติกรรมวินัยทางการเรียน
วิธีการสร้างและตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ
1. คู่มือการปรับพฤติกรรมวินัยทางการเรียน
1.1วิธีการสร้าง
- ศึกษาเอกสาร ตำรา ทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการปรับพฤติกรรมของนักเรียนและ
การเสริมแรง
- กำหนดขอบเขตเนื้อหาของพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความมีวินัยทางการเรียน
- กำหนดรูปแบบกระบวนการปรับพฤติกรรมตามแนวทางหรือทฤษฎีการปรับ
พฤติกรรมของ คาริช ( Kalish )
- กำหนดรูปแบบ และวิธีการเสริมแรง
- ดำเนินการจัดสร้างคู่มือตามความคิด และเข้าใจ จากนั้นนำไปให้ผู้ทรงคุณวุฒิ
ร่วมพิจารณา ตรวจสอบความเป็นไปได้ของกระบวนการปรับพฤติกรรมด้วยการ
เสริมแรง
- นำคู่มือมาปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำ
- นำไปทดลองใช้กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง
1.2 การตรวจสอบคุณภาพของคู่มือ
- นำคู่มือไปให้ผู้ทรงคุณวุฒิช่วยพิจารณาและประเมินระดับคุณภาพของคู่มือจากแบบประเมินคุณภาพคู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรง
2. แบบบันทึกพฤติกรรมวินัยทางการเรียนก่อนและหลังการปรับพฤติกรรม
2.1 วิธีการสร้าง
- ศึกษาเอกสารและตำราที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแบบประเมิน แบบสอบถาม แบบบันทึกผลพฤติกรรมต่าง ๆ
- กำหนดรูปแบบการบันทึกพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนตามหัวข้อที่กำหนดไว้ในเนื้อหาของวิจัย โดยใช้วิธีการแจกแจงความถี่ของพฤติกรรม
- สร้างแบบบันทึกพฤติกรรมวินัยทางการเรียนตามที่กำหนดรูปแบบไว้
- นำไปให้ผู้ทรงคุณวุฒิได้ร่วมพิจารณาและข้อคำแนะนำ
- นำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง สมบูรณ์
- นำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง
2.2 การตรวจสอบคุณภาพของแบบบันทึก
- ใช้แบบประเมินความสอดคล้อง( IOC ) ของแบบบันทึกพฤติกรรมวินัย
ทางการเรียน โดยขอความร่วมมือจากผู้ทรงคุณวุฒิ แลเพื่อนครู
3. แบบประเมินคุณภาพคู่มือการปรับพฤติกรรมวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรง
3.1 วิธีการสร้าง
- ศึกษาเอกสารและตำราที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแบบประเมิน
- กำหนดรูปแบบ เนื้อหา และวัตถุประสงค์ของการประเมินคุณภาพของคู่มือ
- นำไปให้ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณา ตรวจสอบและให้ขอเสนอแนะ
- นำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงแก้ไข จนสมบูรณ์
- นำไปทดลองใช้
3.2 การตรวจสอบคุณภาพของแบบประเมิน
- ใช้แบบประเมินความสอดคล้อง ( IOC ) ของแบบประเมินคุณภาพคู่มือการปรับพฤตกรรมวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรง
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
.สิถิติพื้นฐานทั่วไป
- ค่าเฉลี่ย ( กาญจนา วัฒายุ , 2545 : 106 )
X = ∑
X = คะแนนดิบ
X = ค่าเฉลี่ย
∑x = ผลรวมของคะแนนดิบ
N = จำนวนนักเรียน
- ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( กาญจนา วัฒายุ , 2545 : 112 )
S.D. =
S.D. = ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
∑x = ผลรวมคะแนนดิบของนักเรียน
∑x2 = ผลรวมคะแนนดิบของนักเรียนกำลังสองทีละตัว
N = จำนวนนักเรียน
- ค่าร้อยละ
นิยามศัพท์เฉพาะ
1. วินัยทางการเรียน หมายถึง การกระทำหรือการแสดงพฤติกรรม ดังต่อไปนี้
1.1 มีความพร้อมในการเรียน ได้แก่ อุปกรณ์การเรียน สมุด หนังสือ
ครบถ้วน
1.2 ไม่คุย เล่น หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการเรียนใน
รายวิชาภาษาไทย
1.3 ส่งงานและการบ้านตรงเวลา ครบถ้วน
1.4 ผลงานที่ทำมีความประณีต เรียบร้อย สะอาด แสดงถึงความตั้งใจ และความพยายามในการเรียนรู้และรับผิดชอบต่องานที่ได้รับ มอบหมาย
2. กระบวนการปรับพฤติกรรมวินัยทางการเรียน หมายถึง
2.1 กระบวนการเรียนรู้วินัยทางการเรียน
2.2 กระบวนการสร้างเงื่อนไข
2.3 กระบวนการปรับพฤติกรรมตามเงื่อนไข
2.4 กระบวนการตอบสนองพฤติกรรม
3. กระบวนการเรียนรู้วินัยทางการเรียน หมายถึง การจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้รู้และ
เข้าใจถึงความมีวินัยทางการเรียน ด้วยการอธิบาย
4. กระบวนการสร้างเงื่อนไข หมายถึง การสร้างข้อตกลงร่วมกันระหว่างครูและนักเรียน ว่าการกระทำหรือไม่กระทำตามเงื่อนไขของวินัยทางการเรียนจะได้ผลตอบสนองอย่างไร
5. กระบวนการปรับพฤติกรรมตามเงื่อนไข หมายถึง การควบคุมการทำงาน การตรวจสอบการทำงานและการส่งงาน การรายงานตนเอง
6. กระบวนการตอบสนองพฤติกรรม หมายถึง การตอบแทนการกระทำในทางบวก และทางลบของนักเรียนด้วยวิธีการเสริมแรง
7. การเสริมแรง หมายถึง การให้สิ่งตอบแทนทางบวก ได้แก่ คะแนน คำชมเชย
เกียรติบัตร เมื่อนักเรียนแสดงพฤติกรรมวินัยทางการเรียน และการให้สิ่งตอบแทนในทางลบ ได้แก่ การตัดคะแนน การทำลงโทษด้วยการคุมประพฤติ
ผลการดำเนินงาน
ในการดำเนินงานวิจัย เรื่อง ผลการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนในรายวิชาภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยกระบวนการเสริมแรง ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1. เพื่อประเมินผลพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ในรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน หลังจากการได้รับการปรับพฤติกรรมด้วยกระบวนการเสริมแรง
2. เพื่อประเมินผลความคงทนของพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนหลังจากการได้รับการปรับพฤติกรรมด้วยกระบวนการเสริมแรง
3. เพื่อสร้างคู่มือการปรับพฤติกรรมวินัยทางการเรียนด้วยกระบวนการเสริมแรงที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ยอมรับได้
ทั้งนี้จากการดำเนินงานเก็บรวบรวมข้อมูลปรากฏผลตามวัตถุประสงค์ของงานวิจัย ดังนี้
1.ผลการประเมินพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ในรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน หลังจากการได้รับการปรับพฤติกรรมด้วยกระบวนการเสริมแรง
จากการประเมินพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ในรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน หลังจากการได้รับการปรับพฤติกรรมด้วยกระบวนการเสริมแรง ด้วยวิธีการบันทึกพฤติกรรม และทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าเฉลี่ย และร้อยละ จากจำนวนนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง 41 คน ปรากฏผลดังตารางต่อไปนี้
ตารางที่ 1 แสดงผลการบันทึกพฤติกรรมวินัยทางการเรียนก่อนและหลังการปรับพฤติกรรมวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรง
ลำดับที่ พฤติกรรมก่อนปรับ (ค่าเฉลี่ย ความถี่พฤติกรรม 4 สัปดาห์ / 12 ช.ม.) พฤติกรรมขณะดำเนินงานปรับ
(ค่าเฉลี่ย ความถี่พฤติกรรม 4 สัปดาห์ /
12 ช.ม. )
ความพร้อมในการเรียน ไม่คุยเล่น หรือทำกิจกรรมอื่น ส่งงานตรงเวลา ครบถ้วน ผลงานประณีต สะอาด เป็นระเบียบ ความพร้อมในการเรียน ไม่คุยเล่น หรือทำกิจกรรมอื่น ส่งงานตรงเวลา ครบถ้วน ผลงานประณีต สะอาด เป็นระเบียบ
1 5 4 5 2 7 7 9 8
2 4 5 4 2 8 9 8 8
3 8 10 7 8 12 12 11 11
4 6 5 3 2 9 9 8 9
5 6 6 4 3 9 10 9 9
6 5 7 6 3 8 11 10 9
7 8 9 9 7 11 12 12 11
8 9 8 6 9 10 11 10 11
9 5 5 4 3 9 8 9 8
10 3 4 2 2 3 9 11 7
11 4 5 4 3 9 11 11 7
12 4 4 4 4 10 8 9 9
13 6 5 5 4 9 9 11 9
14 5 5 5 4 9 9 12 11
15 8 6 9 6 12 10 11 7
ลำดับที่ พฤติกรรมก่อนปรับ (ค่าเฉลี่ยความถี่พฤติกรรม 4 สัปดาห์ / 12 ช.ม.) พฤติกรรมขณะดำเนินงานปรับ
(ค่าเฉลี่ยความถี่พฤติกรรม 4 สัปดาห์ /
12 ช.ม. )
ความพร้อมในการเรียน ไม่คุยเล่น หรือทำกิจกรรมอื่น ส่งงานตรงเวลา ครบถ้วน ผลงานประณีต สะอาด เป็นระเบียบ ความพร้อมในการเรียน ไม่คุยเล่น หรือทำกิจกรรมอื่น ส่งงานตรงเวลา ครบถ้วน ผลงานประณีต สะอาด เป็นระเบียบ
16 9 6 8 9 12 11 10 9
17 9 6 7 8 11 10 10 8
18 6 5 6 4 10 9 8 8
19 7 4 4 4 11 9 9 9
20 4 7 3 3 10 11 10 9
21 3 5 8 7 11 8 11 11
22 7 6 8 8 11 9 12 10
23 7 6 7 8 10 10 11 11
24 6 4 6 6 9 9 12 9
25 7 8 6 6 11 11 11 9
26 6 6 5 6 11 9 8 9
27 8 9 10 8 12 12 9 11
28 7 5 9 8 11 11 12 9
29 7 6 9 9 11 10 12 12
30 6 6 6 5 12 9 10 9
31 6 5 8 6 11 10 10 11
32 7 4 7 9 12 8 11 11
33 7 7 7 8 11 11 11 12
34 7 5 6 5 11 9 9 9
35 8 6 8 7 12 12 10 11
36 8 8 8 7 12 12 10 10
37 7 7 8 8 11 11 11 10
38 6 7 7 6 9 11 10 9
39 6 7 6 6 9 10 9 9
ลำดับที่ พฤติกรรมก่อนปรับ ( ค่าเฉลี่ยความถี่พฤติกรรม 4 สัปดาห์ / 12 ช.ม.) พฤติกรรมขณะดำเนินงานปรับ( ค่าเฉลี่ยความถี่พฤติกรรม 10 สัปดาห์ /
12 ช.ม. )
ความพร้อมในการเรียน ไม่คุยเล่น หรือทำกิจกรรมอื่น ส่งงานตรงเวลา ครบถ้วน ผลงานประณีต สะอาด เป็นระเบียบ ความพร้อมในการเรียน ไม่คุยเล่น หรือทำกิจกรรมอื่น ส่งงานตรงเวลา ครบถ้วน ผลงานประณีต สะอาด เป็นระเบียบ
40 9 9 9 10 11 11 11 12
41 5 4 4 4 9 8 9 9
รวม 261 246 257 237 416 406 417 390
เฉลี่ย 6.36 6 6.26 5.78 10.14 9.90 10.17 9.51
ร้อยละ 53.04 50 52.23 48.17 84.55 82.52 84.75 79.26
จากตารางซึ่งเป็นการเปรียบเทียบสะท้อนผลการดำเนินงาน ผลการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรง พบว่า นักเรียนมีความถี่ของการแสดงพฤติกรรมซึ่งเป็นตัวชี้วัดความมีวินัยทางการเรียนเพิ่มมากขึ้นกว่าก่อนการปรับพฤติกรรม ดังนี้
1. นักเรียนมีความพร้อมทางการเรียนเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยร้อยละ 53.04 เป็นร้อยละ 84.55 สูงกว่าเดิมร้อยละ 31.51
2. นักเรียนไม่คุยเล่น หรือทำกิจกรรมอื่นนอกเหนือวิชาภาษาไทยเพิ่มขึ้นจากเดิมมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 50 เป็น 82.52 สูงกว่าเดิมร้อยละ 32.52
3. นักเรียนส่งการงาน ตรงเวลา ครบถ้วนเพิ่มขึ้นจากเดิมมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 52.23 เป็น 84.75 สูงกว่าเดิมร้อยละ 32.52
4. นักเรียนมีผลงานที่ประณีต เป็นระเบียบ สะอาด เพิ่มขึ้นจากเดิมมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 48.17 เป็น 79.26 สูงกว่าเดิมร้อยละ 31.09
2. ผลการประเมินความคงทนของพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนหลังจากการได้รับการปรับพฤติกรรมด้วยกระบวนการเสริมแรง
จากการที่ผู้วิจัยได้เว้นระยะการปรับพฤติกรรมด้วยการเสริมแรงไป 2 สัปดาห์ เพื่อพิจารณาถึงความคงทนของพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนหลังการปรับพฤติกรรม ปรากฏว่านักเรียนกลุ่มตัวอย่าง แสดงพฤติกรรมที่สะท้อนถึงความคงทนของการมีวินัยทางการเรียนดังนี้
ลำดับที่ พฤติกรรมหลังการเว้นระยะปรับ ( ค่าเฉลี่ยความถี่พฤติกรรม 3 สัปดาห์ / 9 ช.ม.)
ความพร้อมในการเรียน ไม่คุยเล่น หรือทำกิจกรรมอื่น ส่งงานตรงเวลา ครบถ้วน ผลงานประณีต สะอาด เป็นระเบียบ
1 6 7 7 6
2 7 7 7 6
3 8 9 8 7
4 7 7 7 7
5 7 7 6 6
6 5 7 7 7
7 8 8 9 7
8 9 8 8 6
9 7 7 7 7
10 7 7 8 7
11 8 8 7 7
12 7 8 8 8
13 6 7 8 7
14 7 7 9 9
15 8 8 9 7
16 9 8 8 8
17 9 7 7 7
18 6 7 8 8
19 7 7 8 8
20 8 7 9 9
21 8 8 8 8
22 7 7 8 7
23 7 7 7 6
24 6 6 7 7
ลำดับที่ พฤติกรรมก่อนปรับ ( ค่าเฉลี่ยความถี่พฤติกรรม 4 สัปดาห์ / 12 ช.ม.)
ความพร้อมในการเรียน ไม่คุยเล่น หรือทำกิจกรรมอื่น ส่งงานตรงเวลา ครบถ้วน ผลงานประณีต สะอาด เป็นระเบียบ
25 7 8 8 8
26 8 6 8 8
27 8 9 9 7
28 7 7 9 8
29 7 8 9 6
30 7 7 6 6
31 7 8 8 7
32 7 4 7 7
33 7 7 7 7
34 9 9 7 5
35 9 8 8 8
36 8 8 8 6
37 7 7 8 6
38 9 7 7 7
39 8 7 8 8
40 9 9 9 7
41 8 7 7 5
รวม 306 302 318 288
ค่าเฉลี่ย 7.46341463 7.365854 7.756098 7.02439
ร้อยละ 82.9268293 81.84282 86.17886 78.04878
จากข้อมูลที่ปรากฏในตาราง แสดงให้เห็นว่า พฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนหลังจากที่ผู้วิจัยเว้นระยะการดำเนินการปรับพฤติกรรม แล้วมาเริ่มสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนอีกครั้ง พบว่า
1. นักเรียนมีความพร้อมทางการเรียนค่าเฉลี่ยร้อยละ 82.92 เป็นร้อยละ 84.55 น้อยกว่ากว่าเดิมในขณะที่อยู่ระหว่างการปรับพฤติกรรม ร้อยละ 1.63
2. นักเรียนไม่คุยเล่น หรือทำกิจกรรมอื่นนอกเหนือวิชาภาษาไทยค่าเฉลี่ยร้อยละ 81.84 เป็น 82.52 น้อยกว่าเดิมในขณะที่อยู่ระหว่างการปรับพฤติกรรม ร้อยละ 0.68
3. นักเรียนส่งการงาน ตรงเวลา ครบถ้วน ค่าเฉลี่ยร้อยละ 86.17 เป็น 84.75 สูงกว่าเดิมในขณะที่อยู่ระหว่างการปรับพฤติกรรม ร้อยละ 1.42
4. นักเรียนมีผลงานที่ประณีต เป็นระเบียบ สะอาด มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 78.04 น้อยกว่าเดิมในขณะที่อยู่ระหว่างการปรับพฤติกรรม ร้อยละ 1.22
3. ผลการประเมินคุณภาพคู่มือการปรับพฤติกรรมวินัยทางการเรียนด้วยกระบวนการเสริมแรง
จากการนำคู่มือการปรับพฤติกรรมวินัยทางการเรียนด้วยกระบวนการเสริมแรง ไปให้เพื่อนครูท่านอื่น จำนวน 10 คน ช่วยประเมินคุณภาพของคู่มือ ปรากฏผลดังนี้
รายการ 5 4 3 2 1
คู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรงมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์หรือเป้าหมายของการปรับพฤติกรรม 3 5 2 - -
คู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรงมีขั้นตอนหรือกระบวนการปรับพฤติกรรม
ที่ชัดเจน แสดงออกให้เห็นเป็นรูปธรรม 2 5 3 - -
คู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรงมีความสัมพันธ์กันระหว่างขั้นตอนหรือกระบวนการกับผลทางด้านพฤติกรรมของนักเรียน - 6 4 - -
คู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรง มีขั้นตอนหรือกระบวนการที่สามารถปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนได้จริง 1 6 3 - -
คู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรงมีการวัดผลประเมินผลพฤติกรรมที่แสดงออกชัดเจน เป็นรูปธรรม 3 5 2 - -
รายการ 5 4 3 2 1
คู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรง มีความสอดคล้องกับแนวคิดทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับพัฒนาการทางการเรียนรู้และพัฒนาการทางคุณธรรมจริยธรรม 4 6 - - -
คู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรงสามารถสนองตอบวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมายของโรงเรียนได้ 5 5 - - -
คู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรง สามารถสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนได้อย่างมีความสุข - 5 5 - -
คู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรง ตอบสนองความแตกต่างของนักเรียน 1 4 5 - -
คู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรง มีขั้นตอนหรือกระบวนการที่มีคุณภาพต่อการพัฒนาพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนของนักเรียน 4 5 1 - -
รวม 23 52 25 0 0
ค่าเฉลี่ย 4.181818 9.454545 5.555556 0 0
ร้อยละ 23 52 25 0 0
จากตารางทำให้ทราบว่า คู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรง
มีขั้นตอนหรือกระบวนการที่มีคุณภาพต่อการพัฒนาพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนของนักเรียน ดังนี้ ร้อยละ 23 เห็นว่าเหมาะสมมากที่สุด ร้อยละ 52 เห็นว่าเหมาะสมมาก และร้อยละ 25 เห็นว่าเหมาะสมปานกลาง
สรุปอภิปรายผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงานวิจัยเรื่อง ผลการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนในรายวิชาภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยกระบวนการเสริมแรง สามารถสรปุผลได้ดังนี้
สรุป
1. ผลการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรง พบว่า นักเรียนมีความถี่ของการแสดงพฤติกรรมซึ่งเป็นตัวชี้วัดความมีวินัยทางการเรียนเพิ่มมากขึ้นกว่าก่อนการปรับพฤติกรรม ดังนี้
1.1. นักเรียนมีความพร้อมทางการเรียนเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยร้อยละ 53.04 เป็นร้อยละ 84.55 สูงกว่าเดิมร้อยละ 31.51
1.2. นักเรียนไม่คุยเล่น หรือทำกิจกรรมอื่นนอกเหนือวิชาภาษาไทยเพิ่มขึ้นจากเดิมมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 50 เป็น 82.52 สูงกว่าเดิมร้อยละ 32.52
1.3. นักเรียนส่งการงาน ตรงเวลา ครบถ้วนเพิ่มขึ้นจากเดิมมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 52.23 เป็น 84.75 สูงกว่าเดิมร้อยละ 32.52
1.4. นักเรียนมีผลงานที่ประณีต เป็นระเบียบ สะอาด เพิ่มขึ้นจากเดิมมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 48.17 เป็น 79.26 สูงกว่าเดิมร้อยละ 31.09
2. การประเมินผลความคงทนของพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนหลังจากที่ผู้วิจัยเว้นระยะการดำเนินการปรับพฤติกรรม แล้วมาเริ่มสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนอีกครั้ง พบว่า
2.1. นักเรียนมีความพร้อมทางการเรียนค่าเฉลี่ยร้อยละ 82.92 เป็นร้อยละ 84.55 น้อยกว่ากว่าเดิมในขณะที่อยู่ระหว่างการปรับพฤติกรรม ร้อยละ 1.63
2.2. นักเรียนไม่คุยเล่น หรือทำกิจกรรมอื่นนอกเหนือวิชาภาษาไทยค่าเฉลี่ยร้อยละ 81.84 เป็น 82.52 น้อยกว่าเดิมในขณะที่อยู่ระหว่างการปรับพฤติกรรม ร้อยละ 0.68
2.3. นักเรียนส่งการงาน ตรงเวลา ครบถ้วน ค่าเฉลี่ยร้อยละ 86.17 เป็น 84.75 สูงกว่าเดิมในขณะที่อยู่ระหว่างการปรับพฤติกรรม ร้อยละ 1.42
2.4. นักเรียนมีผลงานที่ประณีต เป็นระเบียบ สะอาด มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 78.04 น้อยกว่าเดิมในขณะที่อยู่ระหว่างการปรับพฤติกรรม ร้อยละ 1.22
3 . ผลการประเมินคุณภาพคู่มือการปรับพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียนด้วยการเสริมแรง
สามารถสรุปผลได้ ดังนี้ ร้อยละ 23 เห็นว่าเหมาะสมมากที่สุด ร้อยละ 52 เห็นว่าเหมาะสมมาก และร้อยละ 25 เห็นว่าเหมาะสมปานกลาง
อภิปรายผล
จากการดำเนินงานวิจัยครั้งนี้ ซึ่งได้รับผลการดำเนินงานสอดคล้องและสูงกว่าสมมติฐานที่ตั้งไว้ในเบื้องต้นการวิจัย ผู้วิจัยสามารถอภิปรายผลได้ว่า กระบวนการการปรับพฤติกรรมของนักเรียนนั้น ต้องคำนึงถึงเพศ วัย และความพร้อมของนักเรียน การที่ครูจะปรับพฤติกรรมนักเรียนที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่มีความคึกคะนอง ต้องการแสดงเอกลักษณ์เฉพาะตนของตนเอง และชอบพึ่งพาระบบหมู่เป็นหลัก อาศัยเพื่อนเป็นแกนในการคิด หรือกระทำกิจกรรม
ต่าง ๆ ตามกลุ่มของตนเอง ครูต้องนำหลักจิตวิทยามาช่วยในการปรับพฤติกรรม เด็กในวัยนี้
ไม่ชอบการถูกบังคับ สามารถเรียนรู้และคิดในเชิงนามธรรม เป็นเหตุเป็นผลได้ ดังนั้น กระบวนการปรับพฤติกรรมด้วยการเสริมแรง จะต้องคำนึงว่าการเสริมแรงและกระบวนการใดที่เด็กไม่ต้องการ และกระบวนการที่เด็กเกิดความสุขที่จะกระทำ ต้องนำมาใช้ให้ถูกเวลา นอกจากนี้กระบวนการปรับพฤติกรรมครูต้องเน้นให้เด็กได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงาน เพราะจำให้เด็กรู้สึกว่าพฤติกรรมของตนเองมีการพัฒนาด้วยความคิดของตน ไม่ใช่เกิดจากความคิดของครูทั้งหมด ถ้าเป็นความคิดของครูทั้งหมด และครูดำเนินการปรับพฤติกรรมเด็กเองทั้งหมด เด็กจะรู้สึกว่าถูกบังคับ และเกิดความขัดแย้งทางความคิดและการกระทำตามมา นอกจากนี้ การเสริมแรงให้กับเด็กในวัยรุ่นนี้ ต้องเป็นการเสริมแรงที่อยู่ในความสนใจของเด็ก เด็กได้รับการเสริมแรงแล้วมีความหมาย การเสริมแรงต้องทำให้เกิดแรงจูงใจ และกำลังใจที่ดี ขณะเดียวกันการเสริมแรงในเชิงลบที่เกิดจากการสร้างเงื่อนไข ต้องไม่มุ่งทำร้ายจิตใจของเด็กให้เกิดความท้อแท้เบื่อหน่าย แต่ต้องกระทำให้เด็กเห็นว่าผลของการได้รับการเสริมแรงทางลบนี้เนื่องมาจากการกระทำของนักเรียนเอง ไม่ได้เกิดจากการกระทำของผู้อื่น เมื่อเด็กได้รับรู้ผลสะท้อนกลับของการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางพฤติกรรมด้านวินัยทางการเรียน แล้วไม่ส่งผลดีกับตนเอง เด็กย่อมเปลี่ยนพฤติกรรมให้เข้ากับเงื่อนไขนั้น ๆ ทั้งนี้ครูต้องคำนึงว่าการเสริมแรงทางลบไม่ใช่การลงโทษ หรือการทำร้ายร่างกายจิตใจของเด็ก แต่เป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดความรู้สึกสำนึกถึงผลที่ได้จากการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขนั่นเอง
Advertisement
|