สวัสดีครับแฟน ๆ ชาวบ้านไม่บาน ก่อนอื่นผมต้องขอกราบขอบคุณบรรดาแฟน ๆ ชาวบ้านไม่บานที่สนใจเข้าร่วมฟังการบรรยายของผมในวันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในหัวข้อ " บ้าน+อพาร์ตเม้นท์ไม่บานแบบพอเพียง ที่สวยที่สุดในซอยในยุคข้าวยากหมากและน้ำมันแพงอีกทั้งความขัดแย้งทางการ เมืองรุนแรงช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น (ก่ายหน้าผาก)" ซึ่งว่ากันว่าเป็นชื่อหัวข้อการบรรยายที่ยาวที่สุดในประเทศ กันอย่างแน่นขนัดจนเสริมแล้วก็ยังล้นแล้ว ล้นอีก บางท่านก็อุตส่าห์ตีตั๋วยืน เป็นผลให้ห้องมิตติ้งรูม 2ที่ มีขนาดใหญ่ก็ดูเล็กลงไปถนัดตา บางท่านที่ไม่สามารถเข้าไปในห้องได้ก็อุตส่าห์ยืนรออยู่หน้าห้องเพื่อที่จะ รอพบผมเมื่อการบรรยายเสร็จสิ้นลง หลายท่านมาพร้อมกับปัญหาข้อข้องใจซึ่งแต่ละท่านก็ล้วนแต่มีข้อข้องใจที่แตก ต่างกัน แต่คำถามยอดฮิต ก็คือ ควรจะลงทุนอพาร์ตเม้นท์ดี หรือไม่ทำดีหรือจะทำอย่างไรถึงจะดี ควรจะลงทุนเท่าไหร่ดี ควรเก็บค่าเช่าเท่าไหร่ดี และรูปแบบของอพาร์ตเม้นท์ควรเป็นอย่างไรดี คำถามต่างๆ เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในหลายร้อยคำถามที่แฟน ๆ ชาวอพาร์ตเม้นท์ไม่บาน มีข้อสงสัยผมก็ตอบไปตามตรงไม่มีการหวงวิชาเพราะถือว่าเป็นวิทยาทานครับ เพราะสำหรับผมแล้วคำว่า "บ้าน"นั้น มี รูปแบบที่หลากหลายไม่ใช่มีเพียงบ้านในรูปแบบบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ แต่บ้านของผมนับรวมไปถึง อพาร์ตเม้นต์และคอนโดมิเนียมด้วยครับ เพราะพื้นที่ดินที่จะก่อสร้างมีเท่าเดิมแต่จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นก็ไม่มี ทางเลือกหรอกครับจำเป็นต้องก่อสร้างที่อยู่อาศัยในแนวดิ่งซ้อนกันหลายชั้น เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามเมืองใหญ่ทั่วโลกในยุคโลกาภิวัฒน์ครับ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของสถาปนิก วิศวกร ที่จะต้องยกระดับมาตรฐานของการอยู่อาศัย ไม่ว่าท่านจะยากดีมีจนก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างงามง่าย พอเพียง สมแก่ฐานะ ก็ไม่แน่นะครับในบรรดาคนที่เคยจนก็อาจจะกลายเป็นคนรวย คนที่เคยรวยอาจจะต้องกลับไปยากจน เป็นวัฏจักรพื้นฐานของชีวิตครับ
สำหรับในสัปดาห์นี้ผมจะพาท่านหลีกหนีความจำเจของสังคมเมืองที่สับสนวุ่นวาย แก่งแย่ง ชิงดี ชิงเด่นกัน แข่งขันกันทางด้านวัตถุ ผมจะพาแฟน ๆ ชาวคนรักบ้านไปเรียนรู้รักษ์ธรรมชาติไปอยู่ท่ามกลางสายลมเอื่อย ๆ สายน้ำ ที่ฉ่ำเย็น ไป ทบทวนตัวเองและค้นหาตัวเอง สำหรับบ้านไม่บานหลังนี้ ในความเห็นของผมแล้วเป็นบ้านไม่บานที่พอเพียง งามง่าย เป็นทั้งที่รักและที่พักอย่างแท้จริงครับ เพราะเป็นบ้านที่มีรูปแบบที่อ่อนน้อมถ่อมตนไม่ข่มสรรพสิ่งและสรรพชีวิตเป็น เรือนไม้ชายน้ำที่สวยจริงอิงแอบกับธรรมชาติแบบไม่บานหลังเล็ก ๆ พออยู่ อย่างไม่เบียดเบียนแต่ในกรณีที่มีสมาชิกเพิ่มก็สร้างขยายต่อออกไปอีกทีละ หลังเป็นรูปแบบของการใช้ชีวิตงามง่าย สมถะแบบเรือนไทยโบราณแท้ ๆ ที่ตัวเรือนแต่ละหลังมีขนาดไม่ใหญ่เกินไปแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เล็กจนเกินไป เมื่อมีสมาชิกเพิ่มหรือมีความต้องการพื้นที่ใช้สอยเพิ่มก็สร้างเพิ่มและ เชื่อมต่อเรือนแต่ละหลังด้วยชาน พอออกแบบเรือนไม้ชายน้ำหลังนี้เสร็จแล้วบรรดาทีมงานสถาปนิก วิศวกรชาวบ้านไม่บานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "โดน" และคณะทำงานบ้านไม่บานก็คาดว่าบรรดาแฟนๆ ชาวบ้านไม่บานทั่วประเทศก็คงจะมีอาการ "โดน" เหมือนกับพวกเรา ( คำว่า"โดน" ในที่นี้ หมายถึง โดนเข้าไปเต็มรักกลางหัวใจ ) จะว่าไปแล้วในยุคข้าวยากหมากและน้ำมันแพงรวมทั้งความขัดแย้งทางการเมือง รุนแรงช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น (ก่ายหน้าผาก) เช่นนี้คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่มีหนังสือธรรมมะดีดี "ที่ปลอดจากไสยเวทย์" ของท่านพระพรหมมังคลาจารย์หรือหลวงพ่อปัญญา ฯ สัก เล่ม แล้วปล่อยกายปล่อยใจให้สงบนิ่งนั่งทอดหุ่ยเอาเท้าแช่น้ำอ่านหนังสือตรง ระเบียงที่ชานเรือนรับลมเย็นนั่งมองสายน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ว่ายแหวกไปมาอยู่ไหว ๆ แท้จริงแล้ว ความสุขของชีวิตแบบงามง่ายก็มีแค่นี้หละครับมากกว่านี้ก็ไม่ดีครับหรือน้อยกว่านี้ก็ไม่ได้หรอกครับเพราะไม่สมศักดิ์ศรีชาวบ้านไม่บานไม่ว่ายากดีมีจนอย่างไรก็ขอให้ได้อยู่บ้านสวยที่งามง่าย พอเพียง เป็นทั้งที่รักและที่พักไว้ก่อน ถึงจะงามแบบง่าย ๆ ก็งามอย่างมีคุณค่าและมีศิลป์นะครับ เป็นความงามง่ายที่ก่อให้เกิดประโยชน์สุข ประหยัดสุด สำหรับสัปดาห์นี้ผมต้องขอฝาก เรือนไม้ชายน้ำที่ไม่บานหลังนี้ เอาไว้ในอ้อมใจของแฟน ๆ ชาวบ้านไม่บานทุกท่านแล้วพบกับสาระน่ารู้เกี่ยวกับบ้านไม่บานกันอีกในสัปดาห์หน้าครับ
|