ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ เจ้าของโพสต์นี้ นายศุภวัฒน์ คุณานุวัฒน์ จากจังหวัด จันทบุรี

ความคิดที่งดงาม........

โพสต์เมื่อวันที่ : 3 ก.ค. 2552 IP : เปิดอ่าน : 6898 ครั้ง คะแนนของ BLOG นี้ (63.33%-6 ผู้โหวต) ☰แชร์เลย >         Tweet ไม่พลาดข่าวการศึกษา ครูบ้านนอก Line Official กดเพิ่มเพื่อนเลย Advertisement

.....

ความคิดที่งดงาม

ความคิดที่งดงาม


ผมอ่านเจอบทความหนึ่ง ชื่อเรื่อง “ความคิดที่งดงาม นำมาซึ่งผลผลิตที่งดงาม”

เป็นบทความที่ไม่ยาว เขียนเข้าใจง่าย และมีสาระประโยชน์



จึงอยากจะนำมาให้เพื่อนๆได้ลองอ่าน



บทความนี้ เขียนขึ้นโดย คุณ มยุรา ภักดีรอด ...เขียนไว้ในหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2549



ลองอ่านดูซิครับ เผื่อว่ายังไม่เคยอ่าน









ของบางอย่าง หลายอย่าง และเกือบทุกอย่างเป็นได้ทั้งคุณและโทษ


“ คิดผิดเป็นทุกข์ คิดถูกดับทุกข์ได้”


ดิฉันเคยอ่านหนังสือเล่มบางๆ เล่มหนึ่งเขียนโดย พระอาจารย์ มิตซูโอะ คเวสโก แห่ง วัดป่าสุนันทวนาราม บ้านท่าเตียน ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี ....เนื้อหาในหนังสือได้เน้นถึงเรื่อง การเกิดของความทุกข์ทุกวันนี้ ว่าล้วนแล้วแต่มีที่มาจากแหล่งเดียวกัน นั่นก็คือมาจากความคิดทั้งสิ้น



เมื่ออ่านครั้งแรกหลายปีมาแล้ว ดิฉันรู้สึกว่า ช่างเป็นการอธิบายที่ง่ายและมีคุณค่ายิ่งนัก เมื่อยิ่งคิดตาม คิดและศึกษาเรื่องคิดผิดเป็นทุกข์นี้ อย่างทั้งเป็นระบบและไม่เป็นระบบแล้ว ก็ขอตอบเลยว่าคำสอนนี้ถูกต้อง



เมื่อยิ่งนึกไปถึงหลักสูตรฝึกอบรมต่างๆ ที่เคยไปเข้าเรียนกับฝรั่ง ทั้งอ่านหนังสือตำราฝรั่ง เกี่ยวกับการพัฒนาองค์กร พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หรือพัฒนาตัวเอง ดิฉันขอบอกได้เลยว่า เป็นหลักการเดียวกัน



เพราะว่าการที่เราจะทำอะไรให้ได้ผลสัมฤทธิ์ สักอย่างนั้น จะต้องเกิดจากการสร้างหลักความคิดให้ถูกต้องให้ได้เสียก่อน



เมื่อได้หลักความคิดที่ถูกต้องแล้ว พฤติกรรมที่ถูกต้องก็จะตามมาเอง





ดิฉันไม่มีความกังวลสงสัยในหลักคำสอนของท่านอาจารย์มิตซูโอะ เพราะว่าคำสอนนี้ อยู่ในข้อแรกของอริยสัจสี่ ในมรรคมีองค์แปดอยู่แล้ว คือ สัมมาทิฐิ ( Right View Of Understanding ) และไม่สงสัยในการปฏิบัติ (Right Actions ) เพื่อที่จะคิดให้ถูกต้องด้วย เพราะอยู่ในการฝึกเจริญสติปัฏฐานสี่ อยู่แล้วเช่นกัน



ทั้งหลักการ และการปฏิบัติให้ 'ไม่เป็นทุกข์' นั้น เป็นคำตอบที่ชัดเจน แต่ในแง่ของการปฏิบัติโดยการเจริญสติปัฏฐานสี่นั้น ค่อนข้างจะเข้าใจและปฏิบัติตามยาก ...เพราะความรู้ ความเข้าใจ การจำ และการตีความหมายหลักธรรมคำสอน ที่เป็นภาษาบาลีของดิฉันเองนั้นจำกัด จึงทำให้การปฏิบัติเรื่องเจริญสติ นั้นไม่ก้าวหน้า









แต่ดิฉันได้เริ่มง่ายๆ ตามที่คิดว่า ตัวเองทำได้เลย คือเริ่มจากการคิดให้ถูก คิดให้ดี ให้เป็นบวกก่อนในอันดับแรกๆ .......คิดดีต่อทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อมีสิ่งที่ไม่ดีเข้ามา ให้มองหาข้อดีของมันให้ได้ก่อน



เริ่มมองโลกอย่างที่มันเป็น ไม่ใช่อย่างที่ดิฉันเห็น มากขึ้น


ไม่คิดร้ายต่อทุกสิ่งทุกอย่าง


ไม่เครียด


พยายามไม่เบียดเบียนตัวเอง


พยายามลดความวิตกกังวลในอนาคตลง


ไม่คร่ำครวญถึงอดีตที่ผ่านไปแล้วมากนัก


พยายามสกัดกั้นความคิดที่ไม่ดีออกไป




ดิฉันฝึกคิดอย่างนี้ มาเป็นปี เมื่อกลับมาประเมินตัวเองอีกครั้ง ดิฉันสามารถรู้สึกได้ ...ถึงความเปลี่ยนแปลงของตนเองมากขึ้น ....มีความนิ่งมากขึ้น ...สงบและเข้าใจสรรพสิ่งต่างๆ ....รวมทั้งพฤติกรรมของมนุษย์มากขึ้น



และที่สำคัญ ดิฉันสามารถสร้างนวัตกรรมหรือผลผลิตในงาน ที่ตัวเองทำดีขึ้นมาก อย่างไม่น่าเชื่อด้วย








เนื่องจากว่าเมื่อเรา.....ไม่มีความวิตกกังวลต่อสิ่งทั้งหลายทั้งปวงทั้งที่ยังมาไม่ถึงและที่ผ่านไปแล้ว ....ไม่กดดันผู้อื่นจนเขาไม่เป็นตัวของตัวเอง ...ไม่ตำหนิติเตียนแต่ให้แรงเสริม ....สร้างหลักการคิดที่ถูกต้องและดีงามว่า ทุกคนทำได้ ทุกคนมีความสามารถ ทุกคนมีพรสวรรค์เป็นของตนเอง



จากการทำสิ่งนี้ ท่านทราบมั้ยคะว่า ผลที่ตามมาเป็นเช่นไร ผลที่ได้รับช่างมหาศาล เพราะเราได้ บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดีที่ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์แก่ผู้ปฏิบัติการ



ผลผลิตต่างๆ ที่ดีเยี่ยมที่เกิดขึ้นในหน่วยงานของเรานั้น จึงเกิดขึ้นจากการสร้างหลักความคิดที่งดงามให้ได้เสียก่อน



ผลผลิตในที่นี้ อาจหมายถึงการพูด การกระทำของผู้คนที่อยู่รอบด้าน รวมถึงผลงานที่เราผลิตส่งมอบให้กับลูกค้า จึงงดงามตาม



เพราะเรามีหลักความคิดที่ดี ..คิดว่าทำได้เราทำได้ และเราจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ ….เมื่อเราคิดอย่างนี้ เราจึงทำงานอย่างเข้าใจ อย่างเป็นสุข ผลจึงออกมาดีตามความคิดที่ดีของเรา



ความคิดจึงเป็นเหมือนของบางอย่างที่อยู่ใกล้ แต่ก็เหมือนไกล



เหมือนๆ จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มองไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง แต่สามารถส่งผลถึงทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างน่าอัศจรรย์



ช่างน่าเหลือเชื่อว่า มนุษย์เราได้ใช้สิ่งนี้มาตลอดทั้งในด้านสร้างสรรค์และทำลาย สิ่งเดียวกันนี้แหละ เกิดจากความคิดนี่แหละ สิ่งที่เรามองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ ไม่ได้ยินเสียง แต่สามารถผลิตสิ่งต่างๆ ที่ให้ทั้งคุณและโทษได้ถึงขนาดนี้



เมื่อแค่คิดว่า การส่งเสริมให้คิดดีทำดีตามความคิดนั้น จะส่งผลแห่งการกระทำนั้นออกมาเป็นอีกแบบหนึ่ง ....และเมื่อคิดไม่ดี การกระทำและผลก็จะออกมาอีกแบบหนึ่ง ...ก็ยิ่งน่าส่งเสริมให้ทุกคนกลับมาคิดดี คิดให้ถูกกันมากๆ ปัญหาจะได้ลดน้อยลง



เรามาเลือกคิดดีกันเถอะนะคะ