| ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ |
 เจ้าของโพสต์นี้
นายศุภวัฒน์ คุณานุวัฒน์
จากจังหวัด จันทบุรี |
|
 นาตาลี คลุ้มครั่ง!!! |
โพสต์เมื่อวันที่ : 1 ก.ค. 2552 IP : เปิดอ่าน : 7052 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้ -ไม่มีผลโหวต-
|
☰แชร์เลย > |
|
 |
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย
|
|
Advertisement
|
 พังนาตาลี 
.....1 กค. 2552 12:51 น.
กลางดึกคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุชาวบ้านถูกช้างทำร้ายเสียชีวิตที่ ม.5 บ้านแหลมสอม อ.ปะเหลียน ผู้เสียชีวิตคือนายโสภณ จินหล้า อายุ 44 ปี ถูกช้างเหยียบเสียชีวิตในสวนยาง ห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร โดยนางอ๊อด จินหล้า ภรรยานายโสภณ ให้การว่าระหว่างกรีดยางในสวนยางได้ยินเสียงชาวบ้านร้องตะโกนว่าช้างหลุดออกอาละวาด จึงดับตะเกียงแล้ววิ่งกลับบ้าน แต่ไม่พบสามี คิดว่าออกไปตามจับช้างที่หลุด เนื่องจากสามีเป็นเจ้าหน้าที่ อพปร. ต่อมามีผู้พบศพนายโสภณอยู่ในสวนยาง คาดว่าสามีน่าจะออกจากบ้านไปหาตนเองแต่สวนกัน จึงถูกช้างทำร้ายจนเสียชีวิต
ต่อมามีชาวบ้านถูกช้างเหยียบเสียชีวิตที่ ม.5 ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน คือนางปรียา เมฆฉาย อายุ 51 ปี โดนระหว่างที่นางปรียากรีดยางอยู่กับลูกสาว พบว่าช้างเดินเข้ามา นางปรียาจึงตะโกนให้ลูกสาววิ่งและดับตะเกียง แต่นางปรียายังไม่ได้ดับตะเกียง ช้างจึงเข้าทำร้ายเสียชีวิต และในเวลาไล่เลี่ยกันได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้าน ม.3 ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน ถูกช้างทำร้ายเสียชีวิตเช่นกัน ได้แก่ นางจินตนา ช้างขาว อายุ 43 ปี ม.4 ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน ซึ่งนางจินทนาและสามีกำลังกรีดยาง นางจินตนาวิ่งหนีไม่ทัน ถูกช้างทำร้ายเสียชีวิต
นายสมโชค ชูบาล อายุ 55 ปี เจ้าของช้างที่ก่อเหตุ อยู่ ม.7 ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน กล่าวว่า ช้างดังกล่าวชื่อช้างพังนาตาลี อายุ 38 ปี หนัก 3,500 กิโลกรัม ซื้อมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราชประมาณ 6 เดือน ในราคา 620,000 บาท เพื่อชักลากไม้ยางพาราในพื้นที่ เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาพี่ชายก็ถูกพังนาตาลีทำร้ายเสียชีวิตเนื่องจากมีอาการตกมัน ก่อนเกิดเหตุล่ามช้างไว้ข้างบ้าน เมื่อมีชาวบ้านบอกว่ามีช้างหลุดจึงไปตรวจสอบพบว่าเป็นพังนาตานี ล่าสุดจับพังนาตาลีได้แล้ว โดยนำไปผูกไว้บนภูเขาห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร เนื่องจากเกรงว่าช้างจะหลุดมาทำร้ายชาวบ้านอีก และประกาศขายในราคา 650,000 บาท เนื่องจากได้สร้างเสียหาย ไม่สามารถเลี้ยงต่อได้ ตนเองพร้อมเดินทางไปให้การกับตำรวจในฐานะเจ้าของช้าง และพร้อมรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับ 3 ครอบครัว สำหรับพังนาตาลีก่อนซื้อมามีประวัติเคยทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตมาแล้ว 3 ศพ เมื่อรวมกับวันนี้ 3 ศพ และพี่ชายของตัวเองอีก 1 ศพ พังนาตาลีได้ทำร้ายคนเสียชีวิตไปแล้วรวม 7 ศพ
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วันที่ 1 ก.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกระแสข่าวลือว่า ช้างพังนาตาลี อายุ 35 ปี ที่นายสมโชค ชูบาล ส.อบต.หมู่ 7 ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เจ้าของซื้อมาจาก จ.นครศรีธรรมราช ก่อเหตุไล่กระทืบเหยียบชาวบ้านที่กรีดยางพาราในพื้นที่ อ.ปะเหลียน จนเสียชีวิต จำนวน 3 ศพ ในคืนเดียวกัน ได้หลุดออกจากบนภูเขาที่เจ้าของนำช้างไปล่ามไว้แล้วนั้น และนอกจากนั้นยังมีช้างพลายอีกตัว ก็หลุดออกมาด้วยเช่นเดียวกัน จนสร้างความแตกตื่นและหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่ อ.ปะเหลียน เป็นอย่างมาก
ล่าสุดทางนายพงษ์ศักดิ์ คารวานนท์ นายอำเภอปะเหลียน เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งข่าวดังกล่าวว่า ช้างพังนาตาลีหลุดไปอยู่ในพื้นที่ บ้านเจ้าพะ และบ้านเขาลูกลม หมู่ 7 ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียนจริง และตนก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สจ.พร้อมกำลังจำนวนหนึ่ง เข้าตรวจสอบที่บ้านห้วยช่อน หมู่ 7 ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน บนภูเขาห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสถานที่ที่นำช้างไปล่ามไว้ และยืนยันว่า ช้างพังนาตาลียังถูกตีโซ่ตรวนขาหยั่งด้วยปลอกเหล็กทั้ง 4 ขา ไม่สามารถขยับเขยื้อนหรือหลุดไปไหนได้ ส่วนอีกกระแสข่าวที่ว่า ช้างหลุดไปอยู่ในพื้นที่บ้านเขาลูกลม หมู่ 7 ต.ทุ่งยาว นั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีช้างแม้แต่เชือกเดียวอยู่อาศัย
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่หมู่ที่ 11 บ้านเจ้าพระ ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน ยังมีช้างอีก 3 เชือก โดย 1 ในนั้นเป็นช้างพลายสีดอ ซึ่งไม่มีงาของนายอำนวย ซึ่งนำมาจาก จ.พัทลุง มารับจ้างชักลากไม้ยางพาราอยู่ในพื้นที่เป็นครั้งคราว แม้เจ้าของจะนำไปเลี้ยงไว้ในป่าลึกห่างไกลหมู่บ้านแล้วก็ตามนั้น ตนก็ยังกังวลอยู่ว่า พื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นสวนยางพารามีแนวเขตติดต่อกันแม้ว่าช้างจะอยู่ในป่าลึกก็สามารถเดินผ่านไปมาได้ ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทตนก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า จะเป็นช้างเชือกนี้หรือไม่
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนสาเหตุที่ช้างไล่กระทืบชาวบ้านที่ออกไปกรีดยางพาราจนเสียชีวิต นั้น ไม่ได้มาจากสาเหตุที่ช้างตกมัน เพราะช้างตัวดังกล่าวเป็นช้างพังเพศเมีย และที่ผ่านมาเจ้าของก็ไม่ได้ใช้ช้างทำงานหนัก หรือชักลากไม้ซุง เพียงแต่ใช้ชักลากไม้ยางพาราออกมาไว้ที่ริมถนนเท่านั้น แต่จากการตรวจสอบพบว่าช้างเริ่มเป็นสัตว์ จึงทำให้มีอารมณ์แปรปรวน อีกทั้งในพื้นที่ไม่มีช้างตัวผู้ให้ผสมพันธุ์ และเป็นที่อุปนิสัยส่วนตัวของช้างที่เวลาเจอคนมักจะชอบทำร้าย
โดยสำหรับช้างพังนาตาลีจะมีนิสัยแตกต่างจากช้างปกติโดยทั่วไป คือ มักจะใช้งวงกระแทกก่อนจะใช้เท้ากระทืบซ้ำในภายหลัง และเจ้าของก็จะไม่ใช้ตะขอสำหรับบังคับช้าง เพราะช้างไม่กลัว แต่จะใช้หอกซึ่งมีความแหลมคมแทน และช้างจะเกิดอาการกลัวเมื่อเห็นหอก ดังนั้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันว่าช้างไม่ได้อาละวาด เพราะภายหลังเกิดเหตุนายสมโชค ชูบาล เจ้าของช้าง ก็ไปตามช้างกลับมาขึ้นรถตามปกติ โดยพังนาตาลีมีอาการปกติและไม่มีอาการหงุดหงิดให้เห็น
นอกจากนี้นายอำเภอปะเหลียน ยังกล่าวต่อไปว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบให้ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ปะเหลียนและใกล้เคียงเกิดการแตกตื่นและหวาดกลัวจนไม่กล้าออกไปกรีดยางพารา และมีการเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวเร่งเจรจาให้ช้างออกนอกพื้นที่โดยเร็ว เพราะกลัวไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ขณะนี้ตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจำนวนช้างที่อยู่ในพื้นที่เขตรอยต่อทั้ง 2 พื้นที่แล้ว ปรากฏว่ามีทั้งหมด 5 เชือกซึ่งรวมทั้งช้างพังนาตาลีด้วย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่พบเจอตัวช้างและเจ้าของแล้ว 2 เชือก ส่วนอีก 1 เชือกนั้น เป็นช้างพลายสีดอ ซึ่งกระแสข่าวว่ามีอาการตกมัน กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะตกมันจริงหรือไม่ ขณะนี้ยังหาตัวช้างอยู่ เพราะเป็นพื้นที่ห่างไกลและเป็นเขตรอยต่อ จ.พัทลุง สำหรับมาตรการป้องกันเหตุร้ายที่เกิดจากช้างทำร้ายคนนั้น ตนได้ประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ให้ขอความร่วมมือกับทางเจ้าของช้างให้นำช้างไปล่ามไว้ที่ห่างไกลชุมชน ซึ่งปกติแล้วเจ้าของช้างจะนำไปล่ามไว้ที่ห่างไกลอยู่แล้ว พร้อมทั้งตีตรวนล่ามโซ่ให้แข็งแรง และคอยหมั่นตรวจดูสภาพช้างให้ปกติเสมอ และถ้ามีเหตุช้างทำร้ายคนเกิดขึ้นให้ผู้นำชุมชนรายงานตนทันที เพื่อที่จะได้แจ้งให้เจ้าของช้างเข้าไปแก้ไขสถานการณ์โดยเร่งด่วน
|
|
Advertisement
|
เกี่ยวกับเรื่อง นาตาลี คลุ้มครั่ง!!!
