หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
สุภาภรณ์ นิลยกานนท์(เพชรสุภา)
จากจังหวัด ชุมพร

กลอน..สุภาษิตสอนศิษย์ของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต)
โพสต์เมื่อวันที่ : 19 มิ.ย. 2552 IP : เปิดอ่าน : 7056 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
(81.82%-11 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย >  
  Share on Google+   LINE it!  
เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย

Advertisement

จะกล่าวกลอนสอนสูทุกหมู่ศิษย์

.....

สุภาษิตสอนศิษย์
 


loading picture
สุภาษิตนี้ตามประวัติกล่าวว่า เป็นของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตาราม  เนื้อความของสุภาษิต แสดงถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านในสมัยนั้น คือ สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ประมาณกว่า ๑๐๐ ปีมาแล้ว มีพฤติกรรมของพวกมิจฉาชีพ ในรูปแบบต่างๆ ที่ท่านได้ยกมาเป็นตัวอย่าง ให้ลูกศิษย์และคนทั่วไปได้รู้เท่าทัน จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มบุคคลดังกล่าว  มีอยู่หลายกรณี  ที่ยังนำมาใช้ได้ในยุคปัจจุบันและแม้ในอนาคต

จะกล่าวกลอนสอนสูทุกหมู่ศิษย์

จงฟังคำจำไว้ให้เป็นนิจ 
อุตส่าห์คิดข้อความไปตามกลอน 
อันสัญชาตินักเลงมิใช่ชั่ว แต่ล้วนตัวปลิ้นปลอกทั้งหลอกหลอน
ทนสบถปดไปไม่แน่นอน ทำยอกย้อนแยบคายเป็นหลายกล
ทำปราณีที่รักนี่หนักหนา  กล่าววาจาป้อยอต่อนุสนธ์
เรียกพ่อพ่อลวงล่อให้หลงลน แต่พอจนมันก็ช้ำจนสิ้นตัว...

...ชาตินักเลงแล้วก็เหลืออย่าเชื่อเลย เป็นคนเคยพูดจามารยายอ
ลางคนซื่อถือว่าเป็นพวกเพื่อน มันกลับเชือนเอาไปบาทเสียอ้อต้อ
ทำหน้าจนต้องจำระยำพอ เพราะเชื่อพ่อหรือมิใช่อ้ายเจ๊กอื้อ
บ้างวางโขลงโยงคลอพอเข้าบ่อน เอาปี้ผ่อนส่งไว้ให้ช่วยถือ
แล้วแทงก่อนผ่อนส่งจนเต็มมือ ทำหารือว่าจะแทงก็ตามใจ
เอาปี้เราที่เจ้าถือนั้นแทงเถิด ถ้าถั่วเกิดแล้วก็ตามอัชฌาสัย
ถึงเสียเล่าก็ไม่เอาให้เจ้าใช้ อย่าตกใจเลยนะเจ้าจงแทงลง
ที่เสียเล่าก็ไม่เอาเหมือนปากว่า ที่ได้มาเล่าก็ให้ให้ใจหลง
เห็นพอควรแล้วก็ชวนให้นั่งลง แล้วยุส่งให้เข้าทำจนเกินการ
อีกอย่างหนึ่งพึงรู้เป็นครูไว้
มันเที่ยวไปทั้งบ่อนตำบลบ้าน
เห็นผู้ดีมีทรัพย์ทำกราบกราน เอาคาวหวานเข้าไปล่อแต่พองง
ขอตั้งบ่อนลงได้ดังในนึก แล้วตรองตรึกที่จะให้เจ้าบ้านหลง
ทำพูดจาพาทีให้งวยงง เชิญให้ลงไปบ่อนแล้วผ่อนปรน
ทำอุบายแยบคายเป็นหลายท่า เหมือนที่ว่ามาแล้วแต่ข้างต้น
ให้เจ้าบ้านเสียทรัพย์จนอับจน กลับเป็นคนปลิ้นปลอกทำซอกซอน...

ลางทีก็ลงทุนให้กินเหล้า
แต่พอเมาจับตาพาเข้าบ่อน
...ช่วยกันสวดบวชเสียด้วยลมลิ้น จนหมดสิ้นข้าวของต้องจำนำ
ลางทีเล่าเล่นตรุษสงกรานต์ส่ง แล้วตั้งวงเล่นเลยไปยังค่ำ
เพลินเล่นเบี้ยเสียทรัพย์ยับระยำ เพราะไม่จำคำครูผู้สอนมา
หนึ่งแปะโปแปดเก้านั้นเล่าหนอ ช่างขี้ฉ้อล่อลวงที่หนักหนา...

....ยังพวกฝิ่นกินยาทำหน้าซื่อ ไม่อึงอื้อเหมือนกับคนไม่รู้เที่ยว
ทำเดินเลาะเดาะไปแต่ผู้เดียว เห็นที่เปลี่ยวแล้วก็นั่งชำเลืองแล
ถ้าเห็นเด็กเดินมาทำปราศัย เห็นผู้ใหญ่แล้วนั่งไม่แยแส
ทำพูดจางุบงิบขยิบแล มานี่แน่ข้าจะบอกที่ของดี
เอายาฝิ่นส่งให้เห็นพอหอมหอม แล้วกล่าวกล่อมว่าจะลองก็มานี่
ไม่รู้รสดอกหรือน้องเป็นของดี ลองสักทีเถิดนะพ่อมิเป็นไร
มันตั้งเพียรเวียนลอบมาหาบ่อย เอาของเล่นเล็กน้อยมาอ่อยให้
ล่อให้เชื่องแล้วก็ชักให้ติดใจ เที่ยวคบไว้พอได้กินเมื่อสิ้นอด
เจ้าเด็กรักลักส่งไม่วายวัน ทั้งผ้าผ่อนจอกขันมันไม่ลด
ทั้งพ่อแม่พี่น้องเงินทองหมด ด้วยมันอดเข้าไม่ได้อายใจตน
มันรักเพื่อนยิ่งกว่าพ่ออ้ายคอยา ถึงครูบาก็ไม่เว้นทำเข็ญค่น...

...ยังพวกเหล่ากัญชาทำหน้าเซอะ  ขี้ฟันเลอะอกแห้งมักอยากหวาน
ทำตาปรือลือกันประสาพาล ไม่ทำการเที่ยวหากินกัญชาเชือน
เอาไฟดุ้นเข้าจ่อชักคอก่ง พอตกเพลาะแล้วก็ส่งให้พวกเพื่อน
ทำหน้าเงยเหมือนจะเสยเอาดวงเดือน ใครทำเหมือนแล้วก็ชมกันว่าดี
บ้างอัดอั้นควันไว้มิใคร่ปล่อย เรียกทองย้อยตั้งน้ำไปตามที่
เรียกมังกรล่อแก้วนั้นก็มี ทำท่วงทีส่ายหน้าท่ามังกร
ควันกัญชาเข้าคอหัวร่อแห้ง ทั้งเรี่ยวแรงเล่าก็หมดมือตีนอ่อน
ทำตาเล็กซึมเซาเหมือนหาวนอน แลเห็นขอนก็ว่าคนหนีซนไป
แลเห็นเชือกก็ว่างูไม่รู้จัก ใครร้องทักก็ให้กลัวไม่อยู่ได้
เห็นมือชี้เล่าก็หนีออกไปไกล ให้ตกใจเหมือนตั้งจ่อเข้าตรงตา... 

ยังพวกโจรใจดื้ออวดมือดี
เที่ยวรอบลี้ฉกชิงวิ่งเอาผ้า
เห็นที่เปลี่ยวเที่ยวคอยคนเดินมา เห็นชอบท่าแล้วก็ชิงวิ่งหนีไป
ลางทีเห็นเด็กน้อยใส่ปิ่นปัก ทำเดินเคียงเข้าไปชักเอาจนได้
ลางทีทำพูดผลอล่อเอาไป คัดกำไลตีนมือแล้วปล่อยมา...

ยังพวกหนึ่งขี้ฉ้อทำล่อหลอก
มันปลิ้นปลอกลวงเอาเป็นหลายท่า
เห็นพระสงฆ์บิณฑบาตท่านเดินมา ทำมารยาเข้านิมนต์เหมือนคนดี
ว่าคุณยายจะถวายซึ่งข้าวสงฆ์ นิมนต์คุณเดินตรงขึ้นเรือนนี้
รับบาตรได้ไพล่ลัดไปทันที พระสงฆ์รี่ขึ้นเรือนแล้วนั่งลง
เจ้าเรือนรู้ให้รับไปตามหา ว่าใครมาแต่ไหนมาลวงสงฆ์
อ้ายขี้ฉ้อล่อลวงเอาตรงตรง มันจะลงนรกตกเวจี



อ้ายเด็กหนึ่งเที่ยวเดินตามตะพาน 
ทำอาการร้องไห้อยู่อู้อี้
พระไปสรงน้ำคิดจิตปราณี ว่าอ้ายนี่อยู่ที่ไหนร้องไห้มา
มันบอกว่าพ่อข้ามาบางกอก เขาชวนบอกว่าจะพามาหา
ฉันไม่รู้เล่ห์กลคนมารยา ลงเรือมากับเขาไม่เข้าใจ
พระชีต้นมีจิตคิดสงสาร มานี่หลานกูจะคิดช่วยแก้ไข...

อ้ายลูกเจ้ามารยาทำหน้าเศร้า
กินข้าวเหมือนจะกลืนลงไม่ได้
ชีต้นปลอบว่าเองอย่าเสียใจ กินเข้าไปให้อิ่มเถิดหลานชาย
ครั้นรุ่งเช้าก็เข้าไปบิณฑบาต อ้ายมารยามันก็กวาดเอาง่ายง่าย
ครั้นกลับมาเรียกหาเห็นผ้าหาย ทีนี้ร้ายแล้วสิเราอ้ายเจ้ากล...

อ้ายคนหนึ่งตัวดีเห็นสีกา
ถือพานหมากขึ้นมาเข้าตามก้น
ทำอย่างสุกกระสารเข้าปลอมพล เข้าปะปนอยู่กับเขาที่เข้ามา
สีกาส่งเภสัชให้ประเคน แล้วพาเณรกลับคืนมาตีนท่า
มันทำดีทีตามเขาลงมา พอลับตาแล้วก็กลับเข้าไปใหม่
ว่าท่านใช้ให้เอาพานลงไปด้วย เจ้าคุณช่วยโปรดถ่ายส่งมาให้
พอได้พานแล้วก็ลงบันไดไป อ้างจังไรเช่นนี้ก็ดีพอ...ฯลฯ
.................................................กราบนมัสการ......................................................................................ตรูติ๋ว

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง กลอน..สุภาษิตสอนศิษย์ของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต)
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

สุภาภรณ์ นิลยกานนท์(เพชรสุภา)
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
สุภาภรณ์ นิลยกานนท์(เพชรสุภา)..