เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.52 นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร จะทำหนังสือถึงประธานสภาฯเพื่อขอตั้งกระทู้ถาม ในประเด็นที่ สกสค. บังคับให้สมาชิก ช.พ.ค.ที่ประสงค์จะกู้เงินโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.(โครงการ 5) วงเงินสูงสุดไม่เกินคนละ 600,000 บาท ต้องทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อกับบริษัทประกัน ในอัตราค่าเบี้ยประกันต่อคน ต่อ 10 ปี ตั้งแต่ 6,200-37,200 บาท ว่า ได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่ สกสค.ว่าเบี้ยประกันที่ครูจะจ่าย 37,200 บาท เวลา 10 ปี เฉลี่ยปีละ 3,720 บาท ตกราวเดือนละประมาณ 300 กว่าบาท เงื่อนไขคุ้มครอง 10 ปี ไม่จำกัดอายุ ไม่มีการตรวจสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็งหรือโรคติดต่อร้ายแรงนั้น เห็นว่าเป็นเงื่อนไขที่เปิดกว้างในแง่ของคุณสมบัติของผู้ทำประกัน ซึ่งคิดว่าทางบริษัทประกัน คงจะคิดอัตราความเสี่ยงของครูถัวเฉลี่ยกันได้
"การประชุม ช.พ.ค.ในวันนี้มีมติสรุปว่ากลุ่มที่จะกู้เงินเต็มเพดาน 600,000 บาท ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขเดิม ที่ต้องมีการทำประกันชีวิต ส่วนสมาชิกที่กู้ไม่เต็มยอด หรือ 300,000 บาท ให้เลือกว่าจะทำประกันหรือไม่ ส่วนกรณีเงินสนับสนุนพิเศษ(คอมมิชชั่น)ที่ธนาคารออมสิน ให้กับ สกสค.นั้น จะต้องไปตรวจสอบให้ชัดเจน เพราะภารกิจของ สกสค.คือการดำเนินกิจกรรมของ ศธ.เพื่อจัดหารายได้ มาจัดสวัสดิการแก่ครู ทั้งนี้หากมีการตกลงสัญญากันไว้ หรือมีค่าคอมมิชชั่นที่ สกสค.ได้รับจากธนาคารออมสิน จะต้องเปิดเผยและชี้แจงได้ และยืนยันว่าจะต้องทำให้เกิดประโยชน์ให้กับครูอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย"
ปลัด ศธ.กล่าวและว่า ส่วนกรณีที่ สกสค.บางจังหวัดบังคับให้ครูกู้เงินเช่าพระ นั้น เรื่องต้องลงไปตรวจสอบก่อนว่า มีการจงใจหรือไม่
|