หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
นายสุรงค์ โพชนิกร
จากจังหวัด ศรีสะเกษ

<<<มารู้จัก< ซาไก> คนป่าที่น่าสนใจ >>>
โพสต์เมื่อวันที่ : 6 มิ.ย. 2552 IP : เปิดอ่าน : 8214 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
(55.00%-8 ผู้โหวต)

Advertisement

.....

ยุคโบราณมนุษย์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในป่า ใช้ผลิตภัณฑ์จากป่าเพื่อการดำรงชีวิต
ป่าภาคใต้ของประเทศไทย ทุกวันนี้ก็พบว่ายังมีมนุษย์โบราณเผ่าหนึ่งที่เรียกว่า “ ซาไก “
หรือภาษาพื้นเมืองภาคใต้เรียกชนเผ่านี้ว่า “ เงาะ “ หรือ “ เงาะป่า “
อาศัยอยู่และกระจัดกระจายเป็นกลุ่ม ๆ ในเขตจังหวัดตรัง พัทลุง สตูล ยะลา และนราธิวาส
นับเป็นชนกลุ่มน้อยของประเทศที่ยังใช้ชีวิตแบบโบราณ

ซาไก มีนิสัยร่าเริง  ยิ้มง่าย  พูดตรงไปตรงมา ไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้งไม่ว่าจะเป็นซาไกด้วยกันเอง หรือกับบุคคลภายนอก ไม่เคยพบซาไกทะเลาะ หรือโต้เถียงกัน แม้แต่ในเด็กเล็ก
ทุกคนจะเล่นกันด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ

จากระบบนิเวศที่มีความหลากหลายเช่นนี้ ส่งผลให้มีพืชและสัตว์หลากหลายชนิดด้วยเช่นกัน
ทำให้ซาไกมีอาหารสำหรับบริโภคได้ตลอดทั้งปี และสามารถดำรงเผ่าพันธุ์ได้ตลอดมาหลายชั่วอายุคน 

 


chaitawee.เชื้อสาย เผ่าพันธุ์ซาไก  แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มภาษาใหญ่ ๆ คือ

   1. ภาษาแต็นแอ็น ในพื้นที่จังหวัดตรัง พัทลุงและสตูล

   2. ภาษาเดียเด ในพื้นที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส

   3. ภาษายะฮาย ในพื้นที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส

   4.ภาษากันซิวในพื้นที่อำเภอธารโตจังหวัดยะลา

ซาไกมีรูปร่างค่อนข้างเตี้ยผิวเนื้อดำค่อนไปทางสีน้ำตาลไหม้ผมหยิกเป็นก้นหอยติดหนังศีรษะปากกว้างน่องสั้นเรียวท้องป่องและริมฝีปากหนา

อาหารการกินของพวกซาไก

เนื่องจากคนพวกนี้ผูกพันธ์กับธรรมชาติ อาหารก็ได้มาจากธรรมชาติ โดยการเก็บพืชจากธรรมชาติ การเข้าป่าล่าสัตว์ เช่น การล่าลิง ค่าง หมูป่า หาปลาในแม่น้ำลำคลอง และหาพืช ผลไม้ป่า สัตว์ป่า นำมาขายให้แก่ชาวบ้าน เป็นต้น  ในรูปคือ  "ต้นอีโป๊ะ" ที่ซาไก ใช้ยางเป็นยาพิษ ในลูกดอกที่ใช้ล่าสัตว์

การหาอาหาร ในสังคมของซาไกนั้นมีการแบ่งหน้าที่สำหรับการหาอาหารอย่างชัดเจน โดยผู้ชายจะเป็นฝ่ายออกล่าสัตว์ ผู้หญิงจะมีหน้าที่ในการเก็บพืชผัก ผลไม้ และขุดหามันป่า อย่างนี้เป็นต้น

การรักษาโรคของพวกซาไก เนื่องจากพวกซาไกมีวิถีชีวิตผูกพันธ์กับผืนป่า ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย แล่งอาหาร และป่านั้นยังเป็นแหล่งยาสมุนไพรสำหรับใช้ในการรักษาโรค รักษาอาการป่วยไข้ได้ด้วย ซึ่งมีทั้งสมุนไพรที่ได้จากพืชและได้จากสัตว์ เช่น ยาที่ได้จากพืชได้แก่ หมากพร้าวนกคุ้ม ไพล สาปเสือ ย่านลิเภา ส่วนยาที่ได้จากสัตว์ ได้แก่ ตับของค่างใช้บำรุงเลือด แก้ปวดหลังปวดเอว เกล็ดของตัวนิ่มใช้แขวนแก้อาการหอบ และผึ้งใช้ขี้ สดๆกินแก้ปวดเมื่อย

ลูกดอกหรือบิลา
ทำจากไม้เทา เป็นพืชวงศ์ปาล์ม นำมาเหลาให้มีขนาดเล็ก ปลายแหลม ความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร
นำลูกดอกไปย่างไฟให้แห้ง จนมีสีดำ ปลายลูกดอกยาวจากส่วนปลายประมาณ 3 เซนติเมตร  ควั่นให้มีรอยคอด
พร้อมทั้งทำจุกก๊อกจากทางระกำเสียบปลายอีกด้าน ก่อนนำไปเคลือบยาพิษ
การเคลือบยาพิษมักเคลือบหลาย ๆ ครั้ง จนได้ความเข้มข้นของพิษที่สามารถฆ่าสัตว์ได้ แต่ละครั้งต้องรอให้ยาพิษแห้งก่อนที่จะเคลือบชั้นต่อไป
ลูกดอกที่เคลือบยาพิษแล้วจะแยกเก็บแต่ละอันไว้ในปลอกที่ทำจากไม้ไผ่ขนาดเล็ก ที่นำมาร้อยต่อกัน เรียกว่า “ฮันลิ”
ก่อนที่จะรวบทั้งหมดบรรจุลงในกระบอกไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ซึ่งเรียกว่า “มะนึ” หรือ “ตะมิละ” นำไปเก็บไว้ในที่สูง ให้ปลอดภัยจากเด็กเล็ก

.......ถ้าในสังคมของเรา รู้จักพอเพียง ให้ได้ครึ่งหนึ่งของพวกเค้า...

...ชีวิตพวกเราคงจะไม่ยุ่งเหยิง
...รู้จักพอเพียง..อยู่อย่างสมถะ....ดีเหมือนกันนะครับ....

http://seedang.com/

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง <<<มารู้จัก< ซาไก> คนป่าที่น่าสนใจ >>>
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

นายสุรงค์ โพชนิกร
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
นายสุรงค์ โพชนิกร..