หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
สุภาภรณ์ นิลยกานนท์(เพชรสุภา)
จากจังหวัด ชุมพร

จูบแลกน้ำลาย อันตรายกว่าที่คิด ?
โพสต์เมื่อวันที่ : 27 พ.ค. 2552 IP : เปิดอ่าน : 7049 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
(63.33%-6 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย >  
  Share on Google+   LINE it!  
เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย

Advertisement

.....

แลกน้ำลาย อันตรายกว่าที่คิด ?

หลายคนยังไม่ทราบว่าการจูบนั้นอาจจะไม่ปลอดภัย ทำให้เกิดการติดเชื้อโรคจากน้ำลายได้หลายอย่าง
จูบแลกน้ำลาย อันตรายกว่าที่คิด ?

ปัจจุบันวัยรุ่นไทยมีการแสดงความรักกันอย่างเปิดเผยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกอด หรือการจูบ โดยที่ จนถึงขั้นทำให้สมองเสื่อม เป็นโรคอัลไซเมอร์ได้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์โรคผิวหนัง อดีตนักวิจัยสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การจูบนั้นอาจไม่ปลอดภัยทำให้เกิดการติดเชื้อโรคจากน้ำลายได้หลายอย่าง ที่พบบ่อยคือ โรคเริม ซึ่ง จะเป็นตุ่มน้ำเจ็บ ๆ คัน ๆ ที่ริมฝีปาก จมูก คาง แก้ม เกิดจากเชื้อไวรัสเริมชนิดที่ 1 (HSV-1) ในอเมริกาพบว่าเมื่อ วัยรุ่นอายุครบ 20 ปี ส่วนใหญ่จะมีการ ติดเชื้อเริมที่ปากไปแล้ว และเริมที่อวัยวะสืบพันธุ์ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสเริมชนิดที่ 2 (HSV-2) เริมเป็นแล้วจะไม่หายขาด เมื่อ ผู้ติดเชื้ออ่อนแอ เช่น เป็นไข้ โดนแดดจัด หญิงก่อนมีประจำเดือน เริมจะกำเริบได้ หากแกะเกาตุ่มน้ำแล้วสัมผัสนัยน์ตา กระจกตาอาจอักเสบจนถึงขั้นตาบอด

ที่น่าสนใจ คือ ปัจจุบันเชื่อว่าการ ติดเชื้อเริมที่ริมฝีปาก (HSV-1) อาจทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมที่เรียกว่าอัลไซเมอร์ได้ โดยตรวจพบเชื้อไวรัสเริม (HSV-1) ในคราบสมอง (beta-amyloid plaques) ของผู้ป่วยที่เป็น โรคนี้

อาการของอัลไซเมอร์ คือ ความจำเสื่อม หลงลืม ชอบพูดซ้ำ ถามซ้ำ ปัจจุบันพบว่ามีผู้เป็นโรคนี้มากขึ้น เพื่อป้องกันโรคเริม แนะ นำว่าให้งดเว้นการจูบพร่ำเพรื่อ การมีเพศสัมพันธ์ สำส่อน งดการใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ตลอดจนแก้วน้ำร่วมกัน เพื่อความปลอดภัยควรใช้หลอดดูด ดูดน้ำจากแก้ว

ผู้หญิงที่ชอบทดลองลิปสติกตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางมีโอกาสติดเชื้อ เริมได้ ผู้ที่เข้าห้องน้ำสาธารณะก็มีโอกาส ติดเชื้อเริมที่ก้น จึงควรใช้กระดาษ ปู รองนั่ง การทักทายโดยการจูบแบบชาว ตะวันตกนั้นเพิ่มการติดเชื้อเริมอย่างมาก การทักทายโดยการไหว้แบบไทยนับว่าปลอดภัยกว่า

การจูบปากยังทำให้ติดเชื้อไวรัส อื่น ๆ คือ โรคไวรัสตับอักเสบ บี เอ และน่าจะถ่ายทอดไวรัส ซี ได้ด้วย ซึ่งล้วนเป็นโรคเรื้อรังเป็นแล้วไม่หายขาด มีโอกาสทำให้ตับอักเสบ ตับแข็ง ตับวาย และอาจกลายเป็นมะเร็งตับ

ทั้งนี้การจูบอาจถ่ายทอดโรคโมโนนิวคลิโอสิส (infectious mononu- cleosis) ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เอปสตีน บาร์ ไวรัส (Epstein Barr Virus, EBV) โรคนี้จึงมีชื่อภาษาอังกฤษว่าโรคจากการจูบ (kissing diseases) มักพบในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น โรคนี้ทำให้เกิดอาการไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต ม้ามโต เจ็บคอ ปวดหัว เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และตับอักเสบ

สำหรับการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ที่ทำให้เกิดโรคเอดส์ซึ่งหลายคนกลัวนั้น โดยทั่วไปการจูบไม่ทำให้ติดโรคนี้ ยกเว้นแต่ว่าเป็นการจูบแบบเปียกที่ผู้ที่เราไปจูบด้วยมีแผลมีเลือดออกในช่องปากและมีเชื้อเอชไอวี และตัวเราก็มีแผลในช่องปากเองด้วย

อย่างไรก็ตาม การจูบยังทำให้ติดเชื้อไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัส หูดข้าวสุก และโปลิโอ.

นวพรรษ บุญชาญ : รายงาน

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ข้อมูลโดย : นิตยสาร หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง จูบแลกน้ำลาย อันตรายกว่าที่คิด ?
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

สุภาภรณ์ นิลยกานนท์(เพชรสุภา)
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
สุภาภรณ์ นิลยกานนท์(เพชรสุภา)..