หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
จิราภรณ์ หอมกลิ่น
จากจังหวัด ยโสธร

เทคนิคสุดฉลาด....ช้อปอย่างไร ให้เงินเหลือ
โพสต์เมื่อวันที่ : 27 พ.ค. 2552 IP : เปิดอ่าน : 7046 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
(63.33%-6 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย >  
  Share on Google+   LINE it!  
เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย

Advertisement

.....

เทคนิคสุดฉลาด..ช้อปอย่างไร ให้เงินเหลือ

อ่านพบบทความนี้  นิตยสาร Teens & Family  เห็นว่ามีสาระดี  แล้วเข้ากับเศรษฐกิจยุคนี้ด้วย  เลยเอามาแบ่งปันค่ะ....ลองอ่านดูนะคะ

ถ้าคุณเป็นคนที่ปรี่เข้าหาสินค้าทุกครั้งที่เห็น ...ส่วนลดแสนประหยัด วันเดียวราคาเดียว แพคเกจชุดสุดคุ้มเพิ่ม...ได้ถึงสอง วันสุดท้าย ของมีจำนวนจำกัด ของขวัญสุดพิเศษ หรือสะสมคูปองไว้แลก... คุณกำลังเสี่ยงกับโรคต่อมช้อปอ่อนแอและภูมิแพ้โปรโมชั่น อาการของโรคคือหน้าตาจะสดใสในช่วงต้นเดือน ผ่านไปไม่กี่วันจะมีอาการหน้าเหี่ยวหน้าแห้ง แล้วก็...จน...เครียด

 
สาเหตุของโรคก็คือความต้องการของเราและแรงดูดของโปรโมชั่นเหล่านี้ ซึ่งจริงๆ ก็คือกลยุทธ์ที่มาจากฐานคิดทางจิตวิทยา ที่ต้องการกระตุ้นความต้องการของมนุษย์ เพื่อให้เกิดการใช้จ่าย ซึ่งความสำเร็จของโปรโมชั่นเหล่านี้พิสูจน์ได้ว่ามนุษย์เราปรารถนาความสุขแบบปัจจุบันทันด่วน และโปรโมชั่นแปลกๆ ใหม่ๆ ที่เราเห็นทุกวันนี้ก็คือ ความพยายามหาลูกล่อลูกชนที่จะกระตุ้นความต้องการของคนซื้อให้ได้ผลภายในระยะเวลาสั้นที่สุด เพื่อให้เกิดการซื้อที่เร็วที่สุดนั่นเอง


บำบัดต่อมช้อป

 ในเมื่อเจ้าของสินค้าเอาเทคนิคย่นเวลาตัดสินใจซื้อมากระตุ้นให้เราจ่ายเร็วได้สำเร็จ แล้วถ้าเรายึดหลักเดียวกัน คือหาวิธียืดเวลาการคิดตัดสินใจออกไปให้นานที่สุดก่อนควักกระเป๋าจ่ายล่ะ ...เรื่องช้อปจนกระกระเป๋าฉีก สติแตก หน้าแห้ง เงินหมดก็ไม่มีน่ะสิ  ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะสะกดตัวเองให้คิดและตัดสินใจช้าลง เพื่อควบคุมความต้องการของตัวเองได้ยังไง ลองเทคนิคเหล่านี้ดูก่อนเป็นไง

 
  สติ และ ลิมิต คาถาเด็ดบทแรกที่ต้องงัดขึ้นมาใช้เวลาที่ต่อมช้อป

    ถูกสะกิด ตามด้วยบทที่ 2 "ฉันกำลังจะซื้ออะไร" "เพื่ออะไร" "

   จำเป็นไหม" และ "แบบนี้ที่บ้านมีแล้วกี่อัน" ถ้าเจอสุดยอดโปรโมชั่น

    เย้ายวนก็ต้องบทนี้ "ลดจริงหรือ" "ราคาตั้งต้นเว่อร์ไปเปล่า"

   "เราจะได้เอาคูปองนี้มาใช้อีกทีเมื่อไหร่" "เราจะลืมใช้/ส่ง

   คูปองนี้หรือเปล่า" หรือ "คอยดูสิพรุ่งนี้ก็ยัง Sale อยู่" ...เป็นต้น


  ทำตัวเป็นพวกวินโดว์ช้อป อย่าเพิ่งรีบร้อนเดินเข้าร้านไหน จนกว่า
จะเดินชื่นชมสินค้า display ร้านต่างๆ ให้หนำใจก่อน

 
 เมื่อเกิดอาการสะดุดกึกกับโปรโมชั่น ก็เบรกตัวเองด้วยการแวะดูหนังสือสักเล่ม
จิบกาแฟสักแก้ว ดูหนังสักเรื่องก็น่าจะดี


   ถ้าเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ขอดูทุกแบบแล้วเลือกมาลองสัก 2-3 ชุด นอก
จากยืดเวลาการจ่ายออกไปแล้ว คุณยังมีเวลาพิจารณาด้วยตาตัวเองว่าเมื่อของเหล่านั้นอยู่บนตัวเราแล้วมันเหมาะกับเราจริงๆ หรือเปล่า ไม่ใช่คนอื่นบอกว่าเหมาะ

 
    ระลึกไว้ว่าของที่ควรค่ากับเงินในกระเป๋าเราคือของจำเป็น ของดี และของที่เหมาะกับเราเท่านั้น ไม่ใช่ของถูก
ของแถม


 บอกตัวเองว่า บัตรเครดิตสำหรับรายจ่ายประจำ พวกค่าน้ำ ไฟ โทรศัพท์ ประเภทรายจ่ายขาจรต้องเงินสดเท่านั้น
เพราะแบงค์ในกระเป๋าที่หายไปจะช่วยฉุดสติสตางค์เราให้กลับคืน

 
กลยุทธ์เสริม


  ของยังมีจำนวนจำกัดได้ เราก็พกเงินต่อวันในจำนวนจำกัดได้เหมือนกัน โดยเฉพาะวันที่จะไปช้อป

 
  บัตรเครดิตไม่ต้องติดกระเป๋าบ้างก็ได้ โดยเฉพาะช่วงสตางค์มีน้อย

 
   เตือนตัวเองว่าอย่าใช้การเดินห้างเป็นการพักผ่อน (บ่อยนัก)

 
  ออกช้อปครั้งใดต้องลิสต์รายการของที่จะซื้อก่อนทุกครั้ง


ถ้าคิดกันให้ดีๆ ถึงเราไม่ได้ความสุขแบบปัจจุบันทันด่วน ไม่ได้จ่ายแบบทันที นอกจากเงินไม่ขาดมือแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรขาดหายไปจากชีวิตนี่นา คุณว่าจริงไหม....

 

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง เทคนิคสุดฉลาด....ช้อปอย่างไร ให้เงินเหลือ
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

จิราภรณ์ หอมกลิ่น
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
จิราภรณ์ หอมกลิ่น..