สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.)ได้จัดประชุมเสวนา เรื่อง องค์กรครู : องค์กรเพื่อการพัฒนาครูและการศึกษาของชาติ ณ โรงแรมพูลแมน จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม โดย มีข้าราชการครูเข้าร่วมกว่า 300 คน โดยมี รศ.ธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา เป็นผู้เปิดการเสวนา พร้อมกล่าวว่า ระบบการบริหารงานบุคคลมีส่วนสำคัญต่อขวัญกำลังใจของครู แต่นับตั้งแต่การปฏิรูปโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เมื่อปี 2542 ที่มีการกระจายอำนาจบริหารงานบุคคลจากศูนย์กลางมาให้เขตพื้นที่ในรูปแบบขององค์คณะบุคคลที่เรียกว่า คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา ปรากฎว่าทำให้เกิดปรากฎการณ์ของการร้องเรียนเพิ่มมากขึ้น
ทั้งการร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา หรือการร้องศาลปกครอง โดยเฉพาะกรณีการเรียกค่าตอบแทนในการโยกย้าย หรือการเข้าสู่วิทยฐานะ รวมถึงการเข้าสู่ตำแหน่งในอ.ก.ค.ศ.ที่มีการพูดกันมากเกี่ยวกับการซื้อขายเสียงเลือกตั้ง อีกทั้งในวันที่ 20 มิ.ย.จะมีการเลือกตั้งผู้แทนครูในอ.ก.ค.ศ.ทั่วประเทศ ทางสกศ.จึงจัดเวทีขึ้นทั้ง 4 ภาคเพื่อรับฟังข้อมูลรวมทั้งข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมถึงเป็นการกระตุ้นสำนึกสาธารณะโดยรวม ทั้งนี้สกศ.ไม่ได้ตั้งธงไว้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ต้องการประมวลข้อมูลที่ได้จากทั่วประเทศก่อน เช่น หากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาส่วนใหญ่เห็นว่าของเดิมก็ดีอยู่แล้ว แต่ควรมุ่งไปแก้ในเรื่องของจิตสำนึกมากกว่าก็อาจไม่จำเป็นต้องมีการแก้ไขกฎหมายใดๆก็ได้
ด้าน ดร.สุวัฒน์ เงินฉ่ำ อดีตกรรมการปฏิรูปการศึกษา กล่าวตอนหนึ่งการการบรรยายว่า การเข้าสู่ตำแหน่งในอ.ก.ค.ศ.นั้น ความจริงแล้วคณะกรรมการปฏิรูปการศึกษาไม่ได้ออกแบบให้ใช้การเลือกตั้ง หรือให้มีผู้แทนจำนวนมาก 19-20 คนเช่นนี้ แต่เพราะการเมืองในยุคนั้นอ่อนแอจึงทำให้กฎหมายที่ออกมาถูกเปลี่ยนแปลงไปหมด แล้วก็ก่อให้เกิดให้ปัญหาเช่นในปัจจุบัน
นายกฤษฎา จันทร์สว่าง รองผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) กาฬสินธุ์เขต 3 กล่าวว่า ตนมองว่าองค์กรของอ.ก.ค.ศ.ดีอยู่แล้ว ส่วนปัญหาต่างๆ ทั้งเงินเดือนใต้ดิน การซื้อขายวิทยฐานะ หรือเรียกเงินโยกย้ายล้วนเป็นปัญหาปลายเหตุ ซึ่งปัญหาจะไม่เกิดหากผอ.สพท.ไม่ขยิบตา สังเกตได้จากเขตใดที่ผอ.เข้มแข็งก็จะมีปัญหาน้อย ซึ่งการเลือกตั้งผู้แทนครูในอ.ก.ค.ศ.วันที่ 20 มิ.ย.นี้ตนจึงอยากให้มีตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)สำหรับอ.ก.ค.ศ.เพื่อเข้ามาช่วยดูแล รวมทั้งให้รองผอ.สพท.กว่า 2,300 คนได้มีโอกาสลงสมัครด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเสวนามีทั้งผู้ที่เชื่อและไม่เชื่อว่ามีการหากินกับครู แต่ผู้แทนครูในอ.ก.ค.ศ.แห่งหนึ่งยอมรับว่าร้อยละ 85-90 หากินกันจริง นอกจากนี้ยังมีผู้หยิบยกประเด็นไม่เห็นด้วยกับการแยกเขตมัธยม และประถมกลับไปเหมือนเดิม รวมถึงการเรียกร้องให้ปรับโครงสร้างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กลับไปเป็นสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ(สปช.)เหมือนเดิมอีกด้วย
ที่มา แนวหน้า / 24 พ.ค.52