5 แนวคิดชีวิตเป็นสุข/Life and Family
การที่คนเราจะประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งหน้าที่การงานและครอบครัว นั้น แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร แต่เชื่อว่าหลายคนที่เจอมรสุมในชีวิต อาจทำแนวทางในการดำเนินที่เคยยึดถือมาตกหล่นไประหว่างทาง
วันนี้ทางทีมงานlife and family จึงขอหยิบยกแนวทางง่ายๆ ในการดำเนินชีวิตเพื่อเสริมสร้างให้ทุกคนในครอบครัว แข็งแรงขึ้นกว่าที่ผ่านมาค่ะ
ทั้ง นี้5 แนวคิดชีวิตเป็นสุขด้วยย่างก้าวแห่งสติขั้นต่อไปนี้ เป็นวิถีที่ทุกคนควรมีใจที่ตั้งมั่นเพื่อที่ว่า ขณะที่ก้าวขึ้นไปในแต่ละขั้นนั้น เราจะไม่สะดุดหกล้ม จนต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กันอีกครั้ง
ก้าวแรก--เคารพและขอบคุณตนเอง
ก่อนที่เราจะก้าวไปหาความสุขและความสำเร็จจากภายนอก แรกเริ่มเราควรสำรวจตัวเองเสียก่อน รักตัวเองก่อนที่จะไปรักผู้อื่น รวมไปถึงการพิจารณาความดีความชอบที่เราเคยกระทำมา
-เมื่อมีโอกาสตื่นขึ้นมาพบเช้าวันใหม่ในทุกๆวัน สิ่งที่ไม่ควรลืมนั่นคือ การขอบคุณพ่อและแม่ และขอบคุณตัวเอง ที่ทำให้เรายังสามารถลืมตาตื่นขื้นมาได้ เพราะคนเราไม่สามรถรับรู้ได้เลยว่า วันไหนจะเป็นวันสุดท้ายของเรา
-สานต่อความดีที่เคยทำ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือ การไม่โกรธ และการให้อภัยเพื่อทุกคนในบ้าน รวมไปถึงเพื่อนมนุษย์ เพราะเชื่อเถอะว่า การให้มีความสุขมากกว่าการรับ
-มีความหวังอยู่เสมอ ไม่ว่าจะลงมือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด อย่าแช่งตัวเองและอย่าดูถูกตัวเองเป็นอันขาด เพราะไม่มีคนเก่งที่ประสบความสำเร็จคนไหน มีความสุขในชีวิตด้วยการดูถูกเหยียดหยามตนเอง
ก้าวที่สอง--ให้โอกาส ไม่คาดหวัง
หลังจากที่ไม่ดูถูกตัวเอง และขอบคุณตัวเองรวมไปถึงพ่อและแม่ในทุกๆวันแล้ว บทหนึ่งในพระคัมภีร์ของพระเยซูได้สอนไว้ว่า 'จงเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ'
ดังนั้น เมื่อนิ้วมือทั้งสิบนิ้วยังไม่เท่ากัน คนแต่ละคนที่แตกต่างกันจึงนับเป็นเรื่องธรรมดา เราไม่ควรคาดหวังในตัวผู้อื่นมากเกินไป โดยเฉพาะพ่อแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยเรียน หัวเลี้ยวหัวต่อ หากคาดหวังเชิงบังคับเขา บางทีสิ่งเหล่านี้อาจกลับมาทำร้ายครอบครัวได้ไม่น้อย
ขณะ เดียวกันหากสิ่งไหนที่พลาดไปแล้ว ของให้ระลึกอยู่เสมอว่า คนทุกคนมักอยากได้โอกาส ดังนั้น หากเราสามารถเป็น "ผู้ให้โอกาส" แล้วจะรู้ว่าความสุขในชีวิตจะสุขมากขึ้นหากเรารู้จัก แบ่งปันสิ่งดีๆให้แก่คน อื่นด้วย
ก้าวที่3--ไม่มีวันพรุ่งนี้
การอยู่กับปัจจุบัน ไม่จมปรักกับอดีต ไม่เพ้อฝันกับอนาคต และทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทำได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ทำเต็มความสามารถของตนเอง เพียงเท่านี้ชีวิตก็จะไม่พลาดพลั้งในเรื่องง่ายๆ และคนรอบข้างเองก็จะพลอยสุขไปกับเราด้วย
แต่ที่สำคัญเรื่องอดีตที่ผ่านมานั้น อย่าให้มันกลับมาทำร้ายคุณและคนในครอบครัวเป็นอันขาด เพราะการที่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่คอยทำร้ายจิตใจทุกค นในบ้านนั้น เท่ากับการสะกิดแผลที่ไม่มีวันตกสะเก็ด ซึ่งมันจะยิ่งทำให้ทุกคนทุกข์อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
ก้าวที่ 4 --ล้มแล้วลุก
แม้ว่าจะเจอมรสุมในชีวิตหนักหนาสักเพียงใด ขอให้ทุกคนระลึกไว้เสมอว่า เมื่อล้มไปแล้ว เราต้องปัดเข่าแล้วลุกขึ้น อย่านั่งจมอยู่ตรงนั้น เพียงรอให้ใครสักคนยื่นมือมา เพราะตราบใดที่เรายังมีเรี่ยวแรง มีกำลังที่จะก้าวต่อไปด้วยสติ เราก็สามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้อารมณ์และเสียงหัวเราะ กำลังใจจากคนรอบข้าง และความหวังที่ยังไม่หายไป จะเป็นยาชูกำลังที่ดีอีกขนานหนึ่งที่จะทำให้เราก้าวต่อไปพร้อมๆทุกคนอีกด้วย
ก้าวสุดท้าย--ปรับปรุงตัวเองเสมอ
ทุกคนในครอบครัว ควรยึดหลักที่เป็นมงคลต่อกันคือ ไม่อิจฉา ไม่ระแวง ไม่แข่งขัน ไม่นอกใจ รู้จักการให้ การอภัย มีน้ำใจ และรู้จักเกรงใจกัน ขณะที่ในสังคมเอง ก็ควรหมั่นสร้างมิตรเสมอ มีการให้ความสำคัญกัน ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และพูดจากันแบบปิยวาจา
ส่วนตนเองนั้น ก็ต้องมีการพัฒนาตนเองเสมอ มีความภูมิใจตนเองตามความเป็นจริง สามารถให้กำลังใจตัวเองได้ และมีกำลังใจที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดี ขึ้น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 พฤษภาคม 2552