A Chorus Line เคยถูกสร้างเป็นหนังมาแล้วในปี 1985 กำกับโดย เซอร์ ริชาร์ด แอทเทนโบโรห์ ซึ่งกำลังดังจากหนังคานธีในตอนนั้น โปรเจ็คนี้หลายผู้กำกับพากันเลี่ยง แม้กระทั่งไมเคิล เบนเนต ต้นแบบละครเวที ยังปฏิเสธ ด้วยเหตุเกรงว่าจะแปลงคอนเซปต์การนำเสนอแบบละครเวทีมาเป็นหนังได้ไม่สมบูรณ์อย่างใจ เพราะ A Chorus Line นั้นเขียนขึ้นมาด้วยเทคนิคของละครเวทีล้วนๆ

หนังออกมาพอดูได้ในระดับหนึ่ง มีการเติมแต่งฉากนอกโรงละครเข้ามาอยู่บ้างเพื่อช่วยในการเล่าเรื่อง แต่น่าเสียดายที่เสน่ห์ความเป็นละครเวทีมันหายไปโดยสิ้นเชิง สิ่งที่ยังพอเหลือเก็บไว้คือลีลาออกแบบท่าเต้นอันสุดยอด ซึ่งนักเต้นแต่ละคนต้องมีมาตรฐานไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

คนที่เคยปลื้มกับละครต้นแบบล้วนบ่นกันตรึมกับเวอร์ชั่นหนังเพลงนี้ มีเพลงหลายเพลงที่ถูกดัดแปลง และแต่งเพิ่มเติมเข้ามา แนวดนตรีมีการแต่งเติมสไตล์กลองอิเล็กโทรนิคตามสมัยนิยม(ยุคนั้น) เข้ามาตามสมควร

แม้แต่เพลง What I did for love ก็ถูกเรียบเรียงไปคนละสไตล์จากละคร แต่เวอร์ชั่นที่นำมาร้องนี้ ยังคงลีลาในแนวละครบรอดเวย์อยู่ เพลงนี้นับเป็นอีกเพลง นอกจากเพลง One ที่เป็นเพลงฮิตของละครจนกลายมาเป็นเพลงสแตนดาร์ดให้หลายศิลปินคัฟเวอร์กันมากมาย

ปล. ถ้าผมจำไม่ผิด เพลง What I did for love นี้เป็นเพลงที่สุชาติ ชวางกูร  ใช้ประกวดร้องเพลงที่ประเทศฮ่องกง

What I did for love

Kiss today goodbye,
The sweetness and the sorrow,
Wish me luck, the same to you,
But I can't regret, what I did for love,
What I did for love.

Look my eyes are dry,
The gift was ours to borrow,
It's as if we always knew,
But I can't regret, what I did for love,
What I did for love,
What I did for love.

Gone, love is never gone,
As we travel on,
Love's what we remember

Kiss today goodbye,
And point me t'ward tomorrow,
We did, what we had to do,

Won't forget, can't regret, what I did for love,
What I did for love,
What I did for love,

Gone, love is never gone,
As we travel on,
That's what we remember.

Kiss today goodbye,
And point me t'ward tomorrow,
We did, what we had to do,

Won't forget, can't regret, what I did for love,
What I did for love,
What I did for love,
What I did for love,

Credit : http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thaibear&group=5&page=6