|
สวัสดีครับ ถ้าท่านเพิ่งจะเข้ามาชมเป็นครั้งแรก ก็ขอเรียนให้ทราบว่า เว็บนี้็ เป็นเว็บเล่าเรื่องโจ๊กใสๆสนุกๆ แทรกด้วยเกร็ดความรู้ด้านภาษาและประสบการณ์ในอเมริกาของผู้จัดทำ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยครับ
(แม้ว่าข้อความแนะนำตัว จะสั้นๆเพียงแค่เนี๊ยะ แต่เนื้อหาของเว็บนี้ ยิ่งใหญ่เกินคำบรรยาย นับเป็นอภิมหากาพย์การเรียนรู้ด้านภาษาและความบันเทิงแบบสุดๆที่ผสมกลมกลืนกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อจัดพิมพ์เป็นหนังสือ จึงมีผู้ให้ความสนใจมืดฟ้ามัวดิน(ฝนจะตกอ้ะ) จนพิมพ์กันไม่หวาดไม่ไหว)
|
เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน และเพื่อความมีอรรถรส ให้ถือหลักดังนี้
|
1. ให้อ่านเรื่องภาษาอังกฤษก่อน (อันนี้สำคัญมาก) ดูว่าท่านเข้าใจมากน้อยแค่ไหน เราไม่จำเป็นต้องรู้ศัพท์ทุกคำ ให้ฝึกอ่านเก็บใจความ โดยอ่านแบบเร็วๆตะลุยจนจบเรื่อง ถ้าไม่เข้าใจจึงค่อยอ่านภาษาไทยหรือใครอยากรู้ความหมายของศัพท์คำใดแบบละเอียด ก็เปิด Dictionary ดู ผู้แปลพยายามจะให้ในสิ่งที่คิดว่าผู้อ่านไม่มี เช่น การออกเสียง, สำนวน และเกร็ดความรู้อื่นๆ (ยึดหลักว่า : ไม่ควรให้ในสิ่งที่เขามีอยู่แล้วหรือหาได้ง่ายๆ)(ในตอนแรก ให้อ่านในใจ เมื่อพอจับทางได้แล้ว ให้ฝึกอ่านออกเสียงดังๆพอได้ยิน)
|
2. ให้ยึดถือสำเนียงเจ้าของภาษาเป็นสำคัญ รวมถึงการสะกด การันต์ และเครื่องหมายพิเศษอื่น ๆ จะใช้หลักเทียบเคียงจากเสียงเจ้าของภาษาจริง ๆ (และอย่าลืม ฝึกอ่านหนังสือพิมพ์, ดูหนัง, ฟังข่าว, ฟังเพลง(ภาษาอังกฤษ) ฝึกออกเสียงตาม ไม่นาน คุณจะสามารถจับสำเนียงที่ถูกต้องและกลั่นกรองเอาแต่สิ่งที่ดีๆมาใช้ได้)
|
3. คำที่มีตัวสะกดหรือลงท้ายด้วยตัว s (เอส), ce, x, ze,se ฯลฯ จะใช้ตัว "ซ" หรือ"ส" วางไว้ท้ายคำ เช่น คำว่า Jews หรือ Juice จะออกเสียงว่า จิวซ หรือ จู้ซ( เวลาอ่านต้องมีเสียงตัว " ซ " หรือ " ส " ออกมาด้วยทุกครั้ง ) และในหนังสือเล่ม 4 ผมจะเริ่มใช้จุดใต้ตัวอักษรที่ต้องออกเสียง ซึ่งน่าจะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น เช่น คำว่า"Once" ก็จะออกเสียงว่า"วั้นซฺ"(ใน 3 เล่มแรก ผมใช้วิธีขีดเส้นใต้ครับ)
|
4. ทุกเรื่อง จะกำหนดให้มีการ '' ฝึกออกเสียง '' ขอให้ตั้งใจฝึกให้ดี จุดนี้สำคัญมาก ถ้าท่านฝึกสำเร็จ ภาษาอังกฤษของท่าน จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป (การถ่ายทอด"การออกเสียง"ด้วยตัวหนังสือนั้น จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ผู้จัดทำ จะพยายามทำให้ดีที่สุด ขอให้ใช้"Talking Dict."(ชนิดที่เป็นซี.ดี. แผ่นละร้อยกว่าบาท)ประกอบไปด้วย)
|
5. เสียงในภาษาอังกฤษบางเสียง ,บางคำหรือบางพยางค์ ไม่สามารถเขียนออกมาเป็นภาษาไทยได้ ต้องอาศัยการเทียบเคียงเท่านั้น เช่น คำว่า Michael Jackson ต้องออกเสียงว่า “มั้ย – เขิ่ล แจ๊ค-สึ่น (ไม่ใช่ ไมเคิ่ล แจ๊กสัน) คำว่า “สึ่น” ก็ไม่ใช่คำว่า“สึ่น” หรือ “สั่น” เต็มๆ คำ แต่จะเป็นเสียงผสมระหว่าง “อั่น” กับ”อึ่น” ซึ่งเขียนออกมาเป็นภาษาไทยไม่ได้ คล้าย ๆ กับคำว่า Good ซึ่งผู้รู้บางท่านบอกว่า ต้องออกเสียงเป็นสระอูกับสระอื้ด ผสมกัน ดังนี้เป็นต้น ( เป็นดอกด้วยก็ดีนะ จะได้เอาไว้ดมเวลามึน ๆ ..อ่ะๆๆๆ)
|
6. การออกเสียง พยางค์ที่เน้น (stress) จะมีขีด (-) อยู่ด้านหลัง เช่นคำว่า Window จะออกเสียงว่า วิ้น-โด่ว โดยเน้นที่พยางค์แรก คือ วิ้น ซึ่งการลงเสียงหนัก (stress) นั้น เป็นเรื่องซึ่งสำคัญมาก ๆ แต่คนไทยกลับให้ความสำคัญน้อยเกินไปทำให้มีปัญหาเวลาสื่อสารกับชาวต่างชาติเพราะจะทำให้คุยกันไม่ค่อยเข้าใจ
|
7.ถ้าวันใดท่านรู้สึกสนุกและมีความสุขที่จะอ่านเนื้อเรื่องภาษาอังกฤษหลายๆเที่ยวจนจำเนื้อเรื่องได้เป็นส่วนใหญ่(จำได้โดยอัตโนมัติ มิใช่การท่องจำ)และสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้โดยมิต้องอ่านเนื้อเรื่องภาษาไทยอีกต่อไป(เวลาอ่าน ไม่ต้องแปล) ท่านจะพบว่า ภาษาอังกฤษ ได้เข้ามาสิงสถิตย์อยู่ในตัวท่านมากมาย จนถึงระดับที่ท่านสามารถนำไปใช้งานได้แล้วจริงๆ
|
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า websiteนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่าน ไม่มากก็น้อย หากมีข้อ
ผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้อมรับคำติชมทุกประการ โดยเขียนมาคุยได้ที่
cyborg_bkk@hotmail.comหรือ
cyberknight_th@yahoo.com
จตุพล ณ อิลลินอยส์
(สั่งซื้อหนังสือ"เก่งอังกฤษพิชิตความเครียด"ของผมได้ที่นี่และที่ร้านจำหน่ายหนังสือทั่วไป)
(ซื้อที่นี่ จะได้ราคาพิเศษ) (ดูรายละเอียดที่หัวข้อ"สั่งซื้อหนังสือ")
|
ก้าวแรกของท่าน ในการที่จะ "เก่งอังกฤษ พิชิตความเครียด" จะเริ่ม ณ.บัดนี้.........ลุย < คลิกที่นี่
|