ช่วงนี้สัตว์ที่ฮอตฮิตที่สุดคงจะไม่ใช่หมีแพนด้าอย่างช่วงช่วง-หลินฮุ่ยอีกต่อไป แม้ว่ากำลังจะมีข่าวดีเมื่อ หลินฮุ่ยกำลังจะตั้งท้องหมีแพนด้าตัวแรกในไทย แต่ก็โดนกระแสของหมูฟีเวอร์กลบไป จนบางคนไม่รู้ข่าวด้วยซ้ำว่าหลินฮุ่ยท้องแล้ว หุหุ สาเหตุที่พี่ปอบอกว่าหมูฟีเวอร์นั้น หลายคนคงจะทราบดีอยู่แล้วว่า ตอนนี้กำลังระบาดอย่างหนักเลย สำหรับไข้หวัดใหญ่ 2009 หรือ ไข้หวัดแม็กซิกัน แต่ที่เราเรียกกันติดปากเห็นจะเป็น... ไข้หวัดหมู ...ล่าสุด มีการยืนยันแล้วว่า มีการติดเชื้อไข้หวัดชนิดนี้ในไทยแล้ว
จากข่าวไข้หวัดใหญ่ระบาดนี้ พี่ปอเลยขอนำน้องๆ มาย้อนรอยดูเรื่องราวของการระบาดของไข้หวัดใหญ่กันดีกว่าว่ามันไม่ได้เพิ่งจะมาระบาดในตอนนี้ แต่มันมีมานานแล้ว เพียงแค่คนละสายพันธุ์ หรือคนละชื่อ เท่านั้น อย่างเมื่อไม่นานมานี้ เราก็ได้หวั่นวิตกกันไปทั่วโรคด้วยไข้หวัดนก
แต่ก่อนจะย้อนรอย พี่ปอขออธิบายสักนิดว่าไข้หวัดใหญ่ 2009 นี้ มันคืออะไรกันแน่
?
จริงๆ แล้ว พี่นัทคอลัมนิสต์สาวสวยของเราได้ เขียนถึงเรื่องนี้แบบเต็มๆ ไปแล้ว แต่พี่ปอขอสรุปคร่าวๆ เผื่อน้องๆ คนไหนยังคงสงสัยกันอยู่ดีกว่า อ้อ!!! แต่อย่าลืมไปอ่านของพี่นัทด้วยนา ที่นี่เลย --> http://www.dek-d.com/content/view.php?id=15364
ไข้หวัดหมู หรือไข้หวัดเม็กซิโก หรือ ไข้หวัด
2009 แล้วแต่เราจะเรียกกันนั้น จริงๆ แล้วมันก็คือไข้หวัดใหญ่ชนิดหนึ่ง เป็นสายพันธ์ใหม่ในคน เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ (A) สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) แพร่ติดต่อระหว่างคนสู่คน โดยมีความจริงที่เราควรรู้ไว้ว่า มันไม่ได้ติดต่อจากหมูมาสู่คน จากที่ฮือฮากันช่วงแรกๆว่าเป็นไข้หวัดหมู แต่อย่างใด ซึ่ง การติดต่อของโรคนี้ก็เหมือนกับไข้หวัดใหญ่ทั่วๆไป คือ จะติดต่อผ่านเสมหะ น้ำลาย น้ำมูก หรือการไอจาม ในระยะใกล้ชิดจากคนป่วยมาสู่ตัวเรา
การป้องกันของไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้ มีวิธีการทั่วๆไป คล้ายๆกับไข้หวัดใหญ่ ได้แก่
1 .หลีกเลี่ยงการอยู่ร่วมกันกับผู้ป่วย
2. หมั่นล้างมือ รักษาสภาพร่างกายให้สะอาด
3. หมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ สุขภาพร่างกายแข็งแรง และมีภูมิต้านทานที่จะสู้กับไข้หวัดสายพันธ์นี้ได้
4.
ไม่ควรอยู่ในสถานที่ ที่แออัด และ อากาศถ่ายเทได้ไม่สะดวก ควรจะอยู่ในที่โล่งมากกว่า
5.
ไม่ควรอยู่หรือเดินทางไปยังประเทศ พื้นที่ ที่มีการแพร่ระบาดของโรค
เมื่อรู้ข้อมูลคร่าวๆ ของไข้หวัดสายพันธ์อันตรายสายพันธ์นี้แล้ว เรามาร่วมย้อนรอยไข้หวัดใหญ่ระบาด ทั้งในไทยและทั่วโลกกันเลยดีกว่า
...
- คศ. 1580 - ครั้งแรกที่มีการบันทึกไว้ ไข้หวัดใหญ่ระบาดจากเอเชียมายังแอฟริกาและยุโรป สเปนแทบจะเป็นเมืองร้าง และโรมมีคนตายไป 8,000 คน คำว่า Influenza ก็เกิดขึ้นมาจากการระบาดรอบนี้ โดยมันมาจากภาษาอิตาลีว่า “influenza del freddo” หรือ “influence of the cold” ในภาษาอังกฤษ
- คศ. 1918/1919 - ไข้หวัดสเปน เป็นการระบาดครั้งที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เคยมีการคาดการณ์กันไว้ว่าตายไป 50-100 ล้านคน
- คศ. 1956/1958 - ไข้หวัดเอเชีย แต่เกิดในอเมริกา ตายไป 70,000 คน ไวรัสเป็นชนิดเดียวกับตระกูล H2N2 ที่เคยระบาดในรัสเซีย
-คศ. 1968 - ไข้หวัดฮ่องกง เกิดในอเมริกาเช่นกัน ตายไป 33,800 คน แต่ถ้าใครติดหวัดเอเชียมาจะมีภูมิคุ้มกันเพราะเป็นสายเดียวกัน
-คศ. 1976 - ไข้หวัดหมู H1N1 เป็นหวัดสายพันธุ์เดียวกับหวัดสเปน คราวนี้เป็นแค่การตื่นตูม มีคนตายเพราะหวัดหมูไปแค่คนเดียว อีก 25 คนตายเพราะวัคซีน
-คศ. 1977/1978 - ไข้หวัดรัสเซีย เป็นตระกูล H1N1 อีกเช่นกัน ที่น่าสนใจคือมันจะติดเฉพาะคนที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีที่ยังไม่ค่อยพัฒนาภูมิต้านทาน
-คศ. 2003 - ไข้หวัดนก H5N1 มีอัตราตายสูงถึง 60% ถ้าติดหวัดชนิดนี้ แต่ว่าติดต่อจากคนไปสู่คนได้ยาก และไวรัสเองมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานพอที่จะระบาดได้นาน
ดูแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ ว่า โรคที่เราหลายคนมักมองข้ามกันไป อย่างไข้หวัดใหญ่ จะอันตรายจนน่ากลัวเลยทีเดียว ยังไงพี่ปอก็ขอฝากให้น้องๆดูแลรักษาตัวเองดีๆนะครับ จะได้รอดพ้นจากไข้หวัดมหาภัย อย่างไข้หวัดใหญ่ ซึ่งไม่ว่ามันจะเป็นสายพันธ์อะไร แต่ก็ล้วนแต่น่ากลัวทั้งนั้น ยิ่งตอนนี้อากาศกำลังเปลี่ยนแปลงบ่อยเลย ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะครับ
...."ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ"....จำไว้นะคร้าบ ชาว dek-d ทุกคน อิอิ
พี่ปอขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก www.jusci.net
|