ผมมองว่าสังคมไทยวันนี้เป็นสังคมปรนัย..จึงย่ำแย่
"ปรนัย" ตามความหมายใน"พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒" ให้คำอธิบายตอนหนึ่งว่า ".....เรียกการสอบแบบที่ผู้สอบมักไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นส่วนตัว เป็นคําถามที่ต้องการคําตอบตายตัว..."
เมื่อสังคมไทยกลายเป็น"สังคมปรนัย" ก็หมายความเป็นไปตามความหมาย นั่นคือ "..ผู้สอบมักไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นส่วนตัว.." ทำให้สังคมไทยวนและจมปลักอยู่ในวังวนน้ำเน่า ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง เพราะ"ทุกอย่าง" ถูกกำหนดให้"ประชาชน"มีส่วนร่วมเพียง"เลือก"ในสิ่งที่ถูกกำหนดมาแล้วแบบ"ตายตัว"
การไม่มีปากมีเสียงและไม่มีโอกาสแสดงความเห็นจึงเป็นสิ่งที่น่าห่วงของสังคมไทย
ปัญหานี้ อาจจะเป็นปัญหาเล็กๆสำหรับคนทั่วไป แต่นี่คือสิ่งที่จะต้องปลูกฝังตั้งแต่วันนี้ และคนที่จะต้องรับผิดชอบต่อจากพ่อแม่ที่ยังยึดหลักการเลี้ยงลูกแบบปรนัย คือหามาให้ลูกเลือกว่าจะเอาหรือไม่เอาก็คือ"ครู" ที่ควรจะเลิกสอนและออกข้อสอบแบบปรนัย แต่หันมาให้ความสำคัญกับการออกข้อสอบแบบ"อัตนัย"
ใน"พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒" ให้ความหมายของอัตนัยไว้ว่า "...เปิดโอกาสให้แสดงความรู้หรือความคิดเห็นส่วนตัวได้, เรียกการสอบแบบที่ให้ผู้ตอบบรรยายแสดงความรู้หรือแสดง ความคิดเห็นของตนเอง.."
นี่คือ"ความยาก"ของการออกข้อสอบประเภทนี้ที่"ครู"หลายคนไม่ชอบ
ไม่ชอบเพราะการตอบแบบ"อัตนัย" คนตรวจข้อสอบจะต้องมี(ทั้ง)ความรู้และความเข้าใจในเรื่องนั้นๆมากกว่าคนตอบ และต้องสามารถ"เข้าใจ"ว่าคนตอบกำลังจะอธิบายอะไรในคำตอบนั้นๆ ซึ่งแน่นอนว่ายากกว่าการออกข้อสอบแบบ"ปรนัย" ที่มี"คำตอบสำเร็จรูป"ที่ครูแค่ตรวจว่านักเรียนเลือกข้อ ก. ข. ค.หรือ ง. ซึ่งส่วนใหญ่ข้อ ง.มักจะเป็น"ถูกทุกข้อ"
การพัฒนาประเทศไทยวันนี้ จึงต้องเริ่มที่"ครู"..ที่ต้องกล้าออกข้อสอบอัตนัย
วันนี้ 16 มกราคม เป็น"วันครู"..ผมจึงอยากเสนอสิ่งที่"ยาก"สำหรับหน่วยงานที่ผลิต"ครู" ว่าถึงเวลาหรือยังที่จะ"สอน"ให้คนที่จะเป็น"ครู" เรียนรู้และเข้าใจที่จะพัฒนาสังคมไทยให้เป็น"สังคมอัตนัย" ด้วยการสอนให้นักเรียนไทย"กล้า"ที่จะออกความเห็น มากกว่านั่งปั่นแปะประเภท "หัวคือข้อ ก. ก้อยคือข้อ ข."
ครู...จึงเป็น"ผู้นำ"ที่แท้จริงในการพัฒนาประเทศ แต่เปลี่ยนประเทศไทยจาก"สังคมปรนัย"เป็น"สังคมอัตนัย"
ถึงเวลาหรือยังครับครู !!!
|