12 พฤษภาคม 2552 เป็นวันเปิดเทอมใหม่ของนักเรียนทั้งระัดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา ส่วนมหาวิทยาลัยต่าง ๆจะเปิดกันอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าคือวันที่ 1 มิถุนายน 2552 แม้ว่ามหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะยังไม่เปิดแต่การจราจรในวันแรกนี้ก็ไม่เบาทีเดียว รถติดยาวเยียดเลยล่ะ นี่ขนาดต่างจังหวัดนะกรุงเทพฯจะยังไงไม่รู้ หลาย ๆ อย่างก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางสักเท่าไหร่ เด็กหลายคนต้องย้ายชั้นเีรียน บางคนก็ย้ายโรงเรียน หากเป็นชั้นเด็กเล็ก ๆ ก็มีเสียงร้องไห้งอแงไปตาม ๆ กัน
เมื่อวันศุกร์มาดูห้องเรียนของลูกชาย แต่ได้รับคำตอบว่ายังไม่พร้อม เลยไม่ได้ติดประกาศให้ทราบให้มาดูอีกครั้งวันจันทร์หรือไม่ก็เป็นวันอาทิตย์ตอนเย็น ๆ เอ๋! เขาปิดเทอมกันมาเกือบสามเดือนแล้วนะยังไม่เสร็จอีกหรือเหรอ ? แต่ไม่เป็นไร เพราะยังไงก็ทำใจมาตั้งแต่จะย้ายโรงเรียนจากเอกชนมาโรงเรียนรัฐบาลแล้วล่ะ ความแตกต่างก็ย่อมมีเป็นธรรมดา ตั้งแต่เข้ามาจากหน้าโรงเรียนเลย โรงเรียนรัฐแม้ว่าจะประกาศนโยบายนักเรียนเป็นศูนย์กลาง แต่ก็ยังไงก็ไม่แตกต่างกับสมัยก่อนที่ยังไม่ประกาศเท่าใดนัก
บางคนมาส่งลูกตั้งแต่เช้ายังไม่ทันได้เจ็ดโมงดีเท่าไหร่กล้วว่ารถจะติดเดี๋ยวไปถึงโรงเรียนสาย มาเดินสำรวจดูรายชื่อว่าได้อยู่ห้องไหน เสร็จจัดโต๊ะเก้าอี้ให้ พาเดินลงมาดูสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำห้องส้วม ที่ดื่มน้ำ โทรศัพท์สาธารณะ หรือไม่ก็ที่ที่ซื้อขนมไว้รับประทาน เพื่อเวลาที่จำเป็นจะสามารถไปใช้บริการสถานที่นั้น ๆ ได้ถูกเพราะการย้ายโรงเรียนทำให้ไม่ชิน เพื่อนก็เป็นเืพื่อนใหม่ ยังไม่รู้จักใครเลย แต่ดีหน่อยเขาไม่งอแงแถมเข้ากับเพื่อนใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว วันแรกต้องรอเพื่อดูความเรียบร้อยก่อน เกือบ ๆ สิบนาฬิกาจึงได้กลับ และมารับอีกครั้งตอนบ่ายสามโมงครึ่ง ตอนมารับนี่ก็ไม่เหมือนกันกับที่เดิมอีกล่ะ เพราะมาถึงก็ไม่เห็นคุณครูแล้ว เด็ก ๆ ก็เดินเล่นอยู่บริเวณ สนาม หรือไม่หากเป็นชั้นใหญ่ ๆ หน่อยก็เดินมาซื้อของหน้าโรงเรียน หรือนอกรั้วโรงเรียนก็มี เราต้องกำซับลูกว่าห้ามออกนอกบริเวณโรงเรียนก่อนพ่อ แม่มารับเด็ดขาด แล้วก็ห้ามไปกับใคร เพราะพ่อกับแม่จะไม่ให้ใครมารับแทนเด็ดขาด เพราะกังวลกับลูกมาก ๆ เลยกลัวว่าจะมีใครมาหลอก เพราะที่โรงเรียนเดิมหากผู้ปกครองยังไม่มารับ คุณครูจะต้องคอยจนกว่าผู้ปกครองจะมารับทุกคน ครูถึงจะกลับได้ ตรงนั้นเราสบายใจได้หน่อย
กลับจากโรงเรียนต้องไปเดินซื้อของอีกหลายอย่าง เพื่อเตรียมให้พร้อมในวันถัดไป การจราจรบริเวณหน้าโรงเรียนก่อน ๆ เราแทบไม่จะไม่อยากผ่านมาเลยเนื่องจากมาที่ไรรถติดทุกที แต่พอจำเป็นจริง ๆ ต้องมารับ มาส่งสังเกตุดูแล้วก็ไม่เท่าไหร เมื่อส่งเสร็จ รับเสร็จทุกคนก็ต้องรีบไป อีกอย่างหน้าโรงเรียนมีวัด วัดหนึ่งอนุญาตให้เข้าไปจอดรถได้ และที่สำคัญวัดนี้ผิดกับหลาย ๆวัดในจังหวัดเดียวกันคือหากมีผู้คนมาใช้ที่จอดรถมาก ๆ ก็จะประมูลให้เอกชนมาเก็บค่าจอดรถเลย แต่ที่วัดนี้ไม่เป็นเช่นนั้น ต้องขอชื่นชมจริง ๆ ที่ท่านเห็นแก่ส่วนรวม และเห็นแก่ลูกหลานที่ให้มาอาศัยจอดรถรับลูกหลานชั่วครั้งชั่วคราว
ขอบคุณที่มาข้อมูลบางส่วน
|