ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ศธ.กางแผนเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ระดมฉีดไฟเซอร์29จว.สีแดงเข้ม


ข่าวการศึกษา 13 ก.ย. 2564 เวลา 11:01 น. เปิดอ่าน : 9,622 ครั้ง
ศธ.กางแผนเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ระดมฉีดไฟเซอร์29จว.สีแดงเข้ม

Advertisement

เฮลั่น! ศธ.กางแผนเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ระดมฉีดไฟเซอร์ 29 จว.สีแดงเข้ม 

วันที่ 13 กันยายน 2564 ที่กระทรวงศึกษาธิการ นางสาวตรีนฺช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานการแถลงข่าว "เตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 สถานศึกษาปลอดภัย เด็กได้รับวัคซีนถ้วนหน้า" โดยมี นายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ., นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.), นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.), นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย, นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าว ซึ่งการจัดงานได้จำกัดจำนวนผู้ร่วมงาน มีเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นไปตามข้อบังคับฯและปฏิบัติตามเกณฑ์ของ ศปก.ศบค.

น.ส.ตรีนุช กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธาน ว่า ศธ. ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างใกล้ชิดและมีการถอดบทเรียนจากการจัดการเรียนการสอน 5 รูปแบบ หรือ 5 On ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางการเปิดภาคเรียนต่อไปให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากการหารือร่วมกันระหว่าง ศธ. กับ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระทรวงมหาดไทย (มท.) เบื้องต้นมีแนวทางในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ ได้แก่ 1.แผนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม แก่กลุ่มผู้ที่มีอายุ 12 ปี จนถึง 17 ปี 11 เดือน 29 วัน ณ วันที่ฉีด โดยจะอนุโลมให้แก่ กลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่มีอายุเกิน 17 ปี 11 เดือน 29 วันด้วย ซึ่งจะครอบคลุมนักเรียน นักศึกษา ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือ เทียบเท่า รวมถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีอายุ 12 ปี

น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า ในเดือนตุลาคม จะเริ่มฉีดให้แก่นักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จำนวน 29 จังหวัดก่อน แต่ตั้งเป้าหมายให้นักเรียน นักศึกษาทุกคน ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 1 อย่างครบถ้วนรวดเร็วที่สุด ซึ่งที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ชุดใหญ่ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็น ประธาน ได้อนุมัติในหลักการให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่นักเรียน นักศึกษาทุกสังกัด ทั้งในและนอก ศธ. ทั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โรงเรียนพระปริยัติธรรม โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และกรุงเทพมหานคร ซึ่งที่มีกว่า 4.5 ล้านคน

“ส่วนการฉีดวันซีน วางแผนไว้จะใช้โรงเรียนเป็นฐานในการฉีดวัคซีน โดยมีเป้าหมายว่าต้องทั่วถึงและรวดเร็วที่สุด ซึ่ง สธ.จะเป็นผู้วางแผนการกระจายวัคซีน และ ศธ. จะสร้างความเข้าใจให้กับผู้ปกครองได้รับรู้ถึงความจำเป็น ความสำคัญ และผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนให้เด็ก เพื่อให้ผู้ปกครองยินยอมให้เด็กฉีดวัคซีน ดิฉันมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดทำแบบสำรวจความยินยอมจากผู้ปกครองแล้ว โดยคาดว่าปลายเดือนกันยายนนี้ จะได้ข้อมูลสรุปจำนวนนักเรียนที่ผู้ปกครองยินยอมให้ฉีดวัคซีนได้ ทั้งนี้ ไม่อยากให้กังวลว่าผู้ปกครองไม่ยอมให้เด็กฉีดวัคซีน ศธ.จะเร่งสร้างความเข้าใจ เพราะปัญหาโควิด-19 ไม่ได้แค่ฉีดวัคซีนแล้วจบ แต่เราต้องอยู่กับโควิด-19 ต่อไป จึงต้องทำอย่างไรไม่ให้มีกระทบกระเทือนกับการเรียนรู้และการใช้ชีวิตของประชาชน” น.ส.ตรีนุช กล่าว

รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า การเปิดภาคเรียนที่ 2 ในรูปแบบปกติ ต้องดูว่าวัคซีนมาตามแผนหรือไม่ ปัญหาการระบาดของแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร โดยศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) สาธารณสุขจังหวัด ต้องร่วมกันประเมินว่าจะสามารถเปิดเรียนในโรงเรียนได้หรือไม่ โดยเน้นความปลอดภัยของเด็กเป็นที่ตั้ง อย่างไรก็ตาม การเปิดเรียนเทอม 2 นี้ ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของโรงเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนด้วย ส่วนข้อกังวลว่าถ้าเด็กได้รับวัคซีนแล้วแต่ยังติดเชื้ออยู่ ศธ.,สธ.และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ก็มีแผนเผชิญเหตุรองรับอยู่แล้ว เช่น ถ้ามีเด็กติดเชื้อจำนวนเท่าใด จึงควรปิดสถานศึกษา เป็นต้น

น.ส.ตรีนุช กล่าวอีกว่า 2.แผนการดำเนินโครงการโรงเรียน Sandbox Safety Zone in School (SSS) ซึ่งเป็นมาตรการสำหรับโรงเรียนประจำ เช่น โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนเอกชนที่มีความพร้อม โดย ศธ.จะประสานกับ สธ. ในการลงพื้นที่ตรวจโรงเรียน ที่จะประสงค์เข้าโครงการว่าเป็นไปตามมาตรการที่วางไว้หรือไม่ ทั้งนี้ การเป็น โรงเรียน SSS มีเงื่อนไข 3 ข้อ คือ 1. เป็นโรงเรียนประจำ 2. เป็นไปตามความสมัครใจและ 3. ผ่านการประเมินความพร้อม โดยต้องแจ้งความประสงค์ผ่านต้นสังกัด มีการหารือร่วมกับผู้ปกครองและผ่านความเห็นชอบ จากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จัดให้มีสถานแยกกักตัวในโรงเรียน (School Isolation) จัดให้มี Safety Zone ในโรงเรียน มีการติดตามประเมินผลโดยทีมตรวจราชการของศธ. และสธ.รวมถึงมีการรายงานผล ผ่าน MOE COVID และ Thai Stop Covid Plus

รมว.ศธ. กล่าวเพิ่มว่า ในขณะนี้ มีสถานศึกษาจำนวน 15,465 แห่ง ที่อยู่ในเขตพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด โดยใน 12 จังหวัด มีสถานศึกษาจำนวน 1,687 แห่ง ที่อยู่ในเขตพื้นที่ 45 อำเภอปลอดเชื้อ แบ่งเป็น สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 1,305 แห่ง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) 111 แห่ง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 21 แห่ง และสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) 250 แห่ง ซึ่ง ศธ. จะพิจารณาความพร้อมของสถานศึกษาสำหรับการเปิดภาคเรียนตามบริบทที่เหมาะสม

“ศธ.ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักเรียน นักศึกษา เป็นอันดับแรก โดยได้ปรึกษาและประสานงานกับ สธ.ให้เข้ามาช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด และการฉีดวัคซีนให้เด็กจะเป็นไปตามความสมัครใจ ที่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน โดย ศธ.จะเร่งสร้างการรับรู้และความเข้าใจ เกี่ยวกับประโยชน์ของการฉีดวัคซีน รวมถึงวิธีการปฏิบัติก่อนและหลังการฉีดวัคซีนด้วย สำหรับการฉีดวัคซีนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษานั้น ขณะนี้มีครูได้รับวัคซีนไปแล้วกว่า 70% โดยแผนการจัดสรรวัคซีนในเดือนตุลาคม นี้ จะให้สถานศึกษาส่งรายชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ยัง ไม่ได้รับวัคซีนมาด้วย เพื่อเร่งจัดสรรวัคซีนให้กลุ่มครู รวมถึงธุรการ ภารโรงทุกคนเพื่อให้โรงเรียนเป็นทีาปลอดภัยที่สุด” น.ส.ตรีนุช กล่าว

ด้านนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ส่วนที่กังวลว่าเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่ได้รับวัคซีน ไม่ได้หมายความว่าเด็กจะมาเรียนในโรงเรียนไม่ได้ อาจจะมีรูปแบบการเรียนที่เปลี่ยนตามบริบท เพื่อให้เด็กสามารถเข้ามาเรียนที่โรงเรียนได้ เช่น ครูได้รับวัคซีนครบถ้วน และในชุมชนไม่มีการระบาดของโรค อาจจะให้เด็กสลับวันมาเรียนที่โรงเรียนได้ เป็นต้น สรุปคือการที่เด็กจะได้เรียนมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละพื้นที่ โดยให้แต่ละพื้นที่เป็นผู้ประเมินและพิจารณา อย่างไรก็ตามสำหรับเด็กที่ผู้ปกครองไม่ยินยอมให้ฉีกวัคซีน ในเบื้องต้นก็ยังสามารถเรียนออนไลน์ที่บ้านได้ แต่ถ้าจะมาเรียนที่โรงเรียนก็ต้องผ่านการคัดกรองโรคมากกว่าคนอื่น

ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพวศ์ อธิบดีควบคุมโรค กล่าวว่า ตามแผนที่วางไว้วัคซีนไฟเซอร์จะเข้ามาในช่วงปลายเดือนกันยายน นี้ ประมาณ 2 ล้านโดส และในเดือนตุลาคม จะทยอยเข้ามาประมาณสัปดาห์ละ 2 ล้านโดส ซึ่ง สธ.คาดว่าจะสามารถฉีดเข็มที่ 1 ให้นักเรียนได้เสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคม และจะเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ต่อไป การฉีดวัคซีนต้องคำนึง 2 อย่าง คือ ประสิทธิภาพของวัคซีน และความปลอดภัยของวัคซีน ซึ่งวัคซีนที่ฉีดในประเทศไทย ต้องผ่านการรับรองประสิทธิภาพและได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ด้วย ส่วนวัคซีนที่นำมาฉีดให้กับเด็กต้องคำนึงถึงความปลอดภัยให้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ อย.อนุมัติวัคซีนที่สามารถฉีดในเด็กได้คือ ไฟเซอร์และโมเดอนา

“ขอให้ผู้ปกครองเข้าใจว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย สธ.จะดูแลเรื่องนี้อย่างดีร่วมกับ ศธ. โดยการฉีดวัคซีนให้เด็กครั้งนี้ เป็นการฉีดวัคซีนตามความประสงค์ของผู้ปกครอง โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการฉีดวัคซีน นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ขอความร่วมมือให้ สธ.เร่งฉีดวัคซีนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งหมด ซึ่ง สธ.จะเร่งผลักดันเรื่องนี้และจะขยายขอบข่ายการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกับผู้ปกครองด้วย” นพ.โอภาส กล่าว.

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก แนวหน้า วันจันทร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2564

 


ศธ.กางแผนเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ระดมฉีดไฟเซอร์29จว.สีแดงเข้มศธ.กางแผนเปิดภาคเรียนที่22564ระดมฉีดไฟเซอร์29จว.สีแดงเข้ม

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 10 ราย เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 10 ราย เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567

เปิดอ่าน 18,907 ☕ 30 มี.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ปฏิทินการจ้างและการประเมินนักการภารโรง ระยะเวลา 5 เดือน (พฤษภาคม – กันยายน 2567)
ปฏิทินการจ้างและการประเมินนักการภารโรง ระยะเวลา 5 เดือน (พฤษภาคม – กันยายน 2567)
เปิดอ่าน 1,818 ☕ 24 เม.ย. 2567

คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัยระดับจังหวัด
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัยระดับจังหวัด
เปิดอ่าน 657 ☕ 24 เม.ย. 2567

เล็งจัดงบฯ อาหารเช้าให้นักเรียน
เล็งจัดงบฯ อาหารเช้าให้นักเรียน
เปิดอ่าน 473 ☕ 24 เม.ย. 2567

มาตรการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567
มาตรการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567
เปิดอ่าน 6,439 ☕ 23 เม.ย. 2567

การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัด สพฐ. (การย้ายกรณีปกติ) ประจำปี พ.ศ. 2567
การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัด สพฐ. (การย้ายกรณีปกติ) ประจำปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 5,736 ☕ 23 เม.ย. 2567

กฏ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2567
กฏ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 475 ☕ 23 เม.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

"จันทรุปราคา"กับ"ทางช้างเผือก" 15มิถุนาฯ-ค่ำคืนมองฟ้าสุดอัศจรรย์
"จันทรุปราคา"กับ"ทางช้างเผือก" 15มิถุนาฯ-ค่ำคืนมองฟ้าสุดอัศจรรย์
เปิดอ่าน 16,980 ครั้ง

ห.ร.ม. และ ค.ร.น.
ห.ร.ม. และ ค.ร.น.
เปิดอ่าน 44,185 ครั้ง

PHP Multi Elearning II
PHP Multi Elearning II
เปิดอ่าน 21,188 ครั้ง

อิทธิบาท 4
อิทธิบาท 4
เปิดอ่าน 24,251 ครั้ง

การศึกษาในศตวรรษที่ 21 รร.ต้องร่างหลักสูตรให้เด็กเป็นผู้บริหาร
การศึกษาในศตวรรษที่ 21 รร.ต้องร่างหลักสูตรให้เด็กเป็นผู้บริหาร
เปิดอ่าน 7,816 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ