ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ศธ.แถลงข่าวผลประเมิน PISA ปี 2012


ข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ 6 ธ.ค. 2556 เวลา 09:29 น. เปิดอ่าน : 7,481 ครั้ง
ศธ.แถลงข่าวผลประเมิน PISA ปี 2012

Advertisement

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการแถลงข่าวผลการประเมินโครงการประเมินนักเรียนนานาชาติ Programme for International Student Assessment : PISA ประจำปี 2012 โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.กิตติ ลิ่มสุกล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งผู้บริหาร และสื่อมวลชน เข้าร่วมกว่า 100 คน จัดโดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2556 ที่ห้องบอลรูม 2 ชั้น 5

รมว.ศธ.กล่าวว่า จากการที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ประกาศนโยบายให้ผลการจัดอันดับการศึกษาไทย ผลการประเมิน PISA ของไทยให้ดีขึ้น และให้เป็นส่วนหนึ่งของการรวมพลังยกระดับคุณภาพการศึกษา เนื่องจากเห็นว่าการประเมินของ PISA ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ การรู้เรื่องคณิตศาสตร์ การรู้เรื่องการอ่าน และการรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ เป็นการประเมินที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้

โดย ศธ.จะศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการประเมิน PISA ปี 2012 ทั้งภายในประเทศ เป็นรายกลุ่มโรงเรียนและรายวิชา เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจผลการจัดการศึกษาของประเทศ รวมทั้งเปรียบเทียบกับประเทศอื่นด้วย ซึ่งคณะกรรมการขับเคลื่อนการเลื่อนอันดับ PISA จะได้มีการหารือและจัดทำกลไก กระบวนการ แผนปฏิบัติการขึ้นมารองรับการทำงานอย่างต่อเนื่องจริงจังทั้งระบบ เพื่อยกระดับผลการประเมินให้ดีขึ้น รวมทั้งกำหนดอันดับในการประเมิน PISA ครั้งต่อไป (ปี 2558) ว่าควรจะอยู่ในอันดับที่เท่าใด ซึ่งทั้งหมดนี้จะไม่กำหนดจากเจตนารมณ์ด้านนโยบายเพียงอย่างเดียว แต่จะอาศัยพื้นฐานทางด้านวิชาการและข้อเท็จจริงมาประกอบ โดยคาดว่าจะจัดกลไกและกระบวนการขึ้นมารองรับได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ จากนั้นจะเผยแพร่และรณรงค์อย่างกว้างขวางต่อไป

 



ทั้งนี้ ผลการประเมิน PISA ในปี 2012 ซึ่งประกาศและเผยแพร่ผล เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2556 ตามเวลาในประเทศไทย โดยประเมินจากนักเรียนกลุ่มตัวอย่างอายุ 15 ปี จำนวน 510,000 คน จาก 65 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มตัวอย่างของนักเรียนไทย 6,606 คน จาก 239 โรงเรียนทุกสังกัด สรุปดังนี้

ผลการประเมินภาพรวม

  • ประเทศ/เขตเศรษฐกิจในเอเชีย ได้แก่ เซี่ยงไฮ้-จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง-จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และมาเก๊า-จีน มีผลการประเมินทั้ง 3 วิชา อยู่ในกลุ่มบนสุด

  • ประเทศตะวันตก ที่มีผลการประเมินอยู่ในกลุ่มบนสุดทุกวิชาหรือบางวิชา ได้แก่ ฟินแลนด์และโปแลนด์ มีคะแนนการอ่านและวิทยาศาสตร์อยู่ในกลุ่มบนสุด, ลิกเตนสไตน์ สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ มีคะแนนคณิตศาสตร์อยู่ในกลุ่มบนสุด, รวมทั้งเอสโตเนีย เวียดนาม และแคนาดา มีคะแนนวิทยาศาสตร์อยู่ในกลุ่มบนสุด

  • ใน 10 อันดับแรก เป็นประเทศ/เขตเศรษฐกิจในเอเชีย 7 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ รวมทั้งเวียดนามที่เพิ่งเข้าร่วมโครงการในปีนี้เป็นครั้งแรกด้วย

  • สำหรับประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD ทั้ง 3 วิชา ซึ่งลำดับการประเมินของไทย ยังคงอยู่ในอันดับที่ 50

ผลการประเมินรายวิชา

1. การรู้เรื่องคณิตศาสตร์

  • ค่าเฉลี่ย OECD ของคณิตศาสตร์ ในปี 2012  ใช้คะแนนมาตรฐานที่ 494 คะแนน โดยมี 10 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่มีคะแนนสูงสุด ได้แก่ เซี่ยงไฮ้-จีน 613 คะแนน สิงคโปร์ 573 คะแนน ฮ่องกง-จีน 561 คะแนน จีนไทเป 560 คะแนน เกาหลี 554 คะแนน มาเก๊า-จีน 538 คะแนน ญี่ปุ่น 536 คะแนน ลิกเตนสไตน์ 535 คะแนน สวิตเซอร์แลนด์ 531 คะแนน และเนเธอร์แลนด์ 523 คะแนน

  • สำหรับประเทศไทย มีคะแนนเฉลี่ย 427 คะแนน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย OECD เกือบถึงหนึ่งระดับ และอยู่ในกลุ่มเดียวกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คาซัคสถาน ชิลี และมาเลเซีย ทั้งนี้มีประเทศในเอเชียที่มีคะแนนต่ำกว่าไทยเพียงประเทศเดียว คือ อินโดนีเซีย  อย่างไรก็ตาม แนวโน้มคณิตศาสตร์นักเรียนไทย เมื่อเทียบกับการประเมินคณิตศาสตร์ที่เป็นวิชาหลักใน PISA 2003-2009 พบว่า มีแนวโน้มสูงขึ้น แต่มีแนวโน้มลดต่ำลงเมื่อเทียบกับ PISA 2000 ซึ่งเป็นการประเมินครั้งแรก

2. การรู้เรื่องการอ่าน 

  • ค่าเฉลี่ย OECD ของการอ่าน ในปี 2012 โดยมี 10 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่มีคะแนนสูงสุด ได้แก่ เซี่ยงไฮ้-จีน 570 คะแนน ฮ่องกง-จีน 545 คะแนน สิงคโปร์ 542 คะแนน ญี่ปุ่น 538 คะแนน เกาหลี 536 คะแนน ฟินแลนด์ 524 คะแนน ไอร์แลนด์,จีนไทเป,แคนาดา 523 คะแนน และโปแลนด์ 518 คะแนน

  • สำหรับประเทศไทย มีคะแนนเฉลี่ยการอ่าน 441 คะแนน มีสัญญาณทางบวกที่ชี้ว่า การอ่านของนักเรียนไทยหยุดตกต่ำลง นับจาก PISA 2009 นักเรียนไทยมีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ยังมีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย OECD เกือบหนึ่งระดับ ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับเซอร์เบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ชิลี คอสตาริกา โรมาเนีย และบัลแกเรีย  ทั้งนี้ แนวโน้มการอ่านของนักเรียนไทยต่างกลุ่มโรงเรียน พบว่า นักเรียนจากกลุ่มโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยและกลุ่มโรงเรียนสาธิต มีคะแนนการอ่านสูงกว่าค่าเฉลี่ย OECD  ส่วนโรงเรียนอื่นๆ มีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย OECD ทั้งหมด

3. การรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ 

  • ค่าเฉลี่ย OECD ของวิทยาศาสตร์ในปี 2012  โดยมี 10 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่มีคะแนนสูงสุด ได้แก่ เซี่ยงไฮ้-จีน 580 คะแนน ฮ่องกง-จีน 555 คะแนน สิงคโปร์ 551 คะแนน ญี่ปุ่น 547 คะแนน ฟินแลนด์ 545 คะแนน เอสโตเนีย 541 คะแนน เกาหลี 538 คะแนน เวียดนาม 528 คะแนน โปแลนด์ 526 และแคนาดาและลิกเตนสไตน์ 525 คะแนน ทั้งนี้ใน 10 อันดับแรกเป็นประเทศ/เขตเศรษฐกิจจากเอเชีย 6 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ

  • สำหรับประเทศไทย มีคะแนนเฉลี่ยวิทยาศาสตร์ 444 คะแนน ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับ PISA 2009 (425 คะแนน) และPISA 2000 (436 คะแนน) แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย OECD มากกว่าครึ่งระดับ

 


ข้อสรุปและนัยทางการศึกษาในระดับนานาชาติ ของ สสวท.

  • ผลการประเมิน PISA 2012 พบว่า คุณภาพการศึกษาไทยยังห่างไกลจากความเป็นเลิศ เมื่อเทียบกับประเทศเอเชียตะวันออก แต่ความตกต่ำได้หยุดลงและการยกระดับได้เริ่มปรากฏใน PISA 2009 และเพิ่มสูงขึ้นในวิชาการอ่านและวิทยาศาสตร์อย่างชัดเจนใน PISA 2012

  • เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา ทำให้เกิดแปรปรวนทั้งระบบและต้องใช้เวลานานในการปรับตัว ดังนั้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงระบบ ควรมีการพิจารณาทบทวนผลกระทบที่จะทำให้เกิดความตกต่ำดังเช่นรอบที่ผ่านมา และการเปลี่ยนแปลงนั้นควรอยู่บนฐานของข้อมูลมากกว่าความคิดเห็น

  • ระบบการศึกษาต้องสร้างความเท่าเทียมกันทางการศึกษา ทั้งโอกาสการเข้าโรงเรียนและคุณภาพการเรียนรู้

  • ควรพัฒนาทักษะด้านการอ่านของนักเรียนทั้งกลุ่มสูงและกลุ่มต่ำ  เพราะทักษะทางภาษามีค่าสหสัมพันธ์สูงมากกับวิชาคณิตศาสตร์และใกล้เคียงกับวิชาวิทยาศาสตร์ เมื่อคุณภาพการอ่านต่ำ ทำให้วิชาอื่นมีคะแนนต่ำไปด้วย

  • ควรใช้ระบบการเรียนการสอนในโรงเรียนกลุ่มคะแนนสูงเป็นตัวแบบ และศึกษารายละเอียดกรณีนักเรียนโรงเรียนขยายโอกาส (สพฐ.1) มีคะแนนการประเมิน PISA 2012 สูงขึ้นมาก เพื่อใช้เป็นตัวแบบในการยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วย

  • ระบบการศึกษาไทยดีอยู่แล้ว แต่กระจุกตัวอยู่เฉพาะกลุ่มหรือเฉพาะพื้นที่เท่านั้น หากระดับนโยบายสามารถขยายระบบการศึกษาที่ดีไปสู่โรงเรียนทั่วประเทศ โรงเรียนในชนบท ไปสู่นักเรียนและโรงเรียนที่มีสถานะเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมต่ำ ก็จะทำให้ประเทศไทยมีผลการประเมินเทียมบ่าเทียมไหล่กับนานาชาติ

ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ


ศธ.แถลงข่าวผลประเมิน PISA ปี 2012ศธ.แถลงข่าวผลประเมินPISAปี2012

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ผลการประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 10/2556

ผลการประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 10/2556

เปิดอ่าน 15,339 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ศธ.เปิดรับสมัครโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ปี 2559 (คุณสมบัติ ปฏิทินการรับสมัคร)
ศธ.เปิดรับสมัครโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ปี 2559 (คุณสมบัติ ปฏิทินการรับสมัคร)
เปิดอ่าน 25,161 ☕ คลิกอ่านเลย

"พงศ์เทพ" ให้สัมภาษณ์กรณี "ลดการบ้านของนักเรียน"
"พงศ์เทพ" ให้สัมภาษณ์กรณี "ลดการบ้านของนักเรียน"
เปิดอ่าน 12,637 ☕ คลิกอ่านเลย

มติ ครม.ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ 12 มี.ค.2556
มติ ครม.ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ 12 มี.ค.2556
เปิดอ่าน 9,420 ☕ คลิกอ่านเลย

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เกี่ยวข้องกับ ศธ.
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เกี่ยวข้องกับ ศธ.
เปิดอ่าน 12,413 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักศธ. เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2557
ผลการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักศธ. เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2557
เปิดอ่าน 10,393 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลการประชุมองค์กรหลัก 19 พ.ย.2557
ผลการประชุมองค์กรหลัก 19 พ.ย.2557
เปิดอ่าน 9,584 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เสริมสร้างความเข้าใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการคิดแบบปิงปองดูสิ
เสริมสร้างความเข้าใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการคิดแบบปิงปองดูสิ
เปิดอ่าน 11,850 ครั้ง

กิน "ผัก" เหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร?
กิน "ผัก" เหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร?
เปิดอ่าน 13,454 ครั้ง

ประวัติวันเด็กแห่งชาติ
ประวัติวันเด็กแห่งชาติ
เปิดอ่าน 15,086 ครั้ง

วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน
เปิดอ่าน 10,403 ครั้ง

เคล็ดลับการยิ้มที่สมบูรณ์แบบเวลาถ่ายรูป
เคล็ดลับการยิ้มที่สมบูรณ์แบบเวลาถ่ายรูป
เปิดอ่าน 1,357 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ