ยอดครูผู้มีอุดมการณ์ ปี 2555

รมว.ศธ.กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับรางวัลยอดครูผู้มีอุดมการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นตัวแทนของครูทั่วประเทศ ที่ได้ทำงานเสียสละ เพื่อลูกศิษย์ ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า ยากลำบากเพียงใด ครูก็ทำเพื่อให้ลูกศิษย์ได้ดีและประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นความภาคภูมิใจและเป็นความผูกพันระหว่างครูกับลูกศิษย์ นับเป็นเกียรติประวัติอย่างยิ่งในชีวิตครูที่จะได้รับเสมาทองคำ ซึ่งเป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ ศธ. โดยมีผู้ได้รับรางวัล จำนวน ๔ คน จาก ๔ ภูมิภาค ดังนี้
 
๑.ดาบตำรวจคณิต ช่างเงิน ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่กลองคี อำเภออุ้งผาง จังหวัดตาก กองกำกับการตระเวนชายแดนที่ ๓๔ ซึ่งได้กล่าวแสดงความรู้สึกว่า “ภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัลเกียรติยศครั้งยิ่งใหญ่ ตลอดเวลาที่ทำหน้าที่มีอุปสรรคปัญหาทั้งความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม การเดินทาง การติดต่อสื่อสาร ความปลอดภัย และความขัดแย้งในชุมชน แม้จะไม่ใช่ครูมืออาชีพ แต่ก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะปั้นแต่งเด็กน้อยในดงป่า ในชุมชน ในมุมเล็กๆ ที่ห่างไกลความศิวิไลซ์ให้มีโอกาสได้รับการศึกษา มีสุขภาพอนามัยที่ดี และเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป โดยรางวัลที่ได้รับจะเป็นแบบอย่างให้กับนักเรียน เพื่อนร่วมงาน และเป็นกำลังใจในการทำงานของตนเองตลอดไป”
 
๒.นายปรเมษฐ์ สีหะวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลพยุห์ อำเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต ๑ ได้กล่าวแสดงความรู้สึกว่า “ภาคภูมิใจและเป็นเกียรติกับชีวิตครูของตน ซึ่งได้เริ่มต้นจากครูผู้สอน ครูใหญ่ จนกระทั่งผู้อำนวยการในวันนี้ โดยยึดหลักการทำงานร่วมกันของครู นักเรียน และชุมชน ซึ่งได้ตั้งปณิธานไว้ว่าจะทำการเปลี่ยน ๔ เรื่องให้ได้ภายใน ๒ ปี ได้แก่ เปลี่ยนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนแบบใหม่ ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ เปลี่ยนการสอนของครูเป็นผู้อำนวยการจัดการเรียนรู้ และทำงานร่วมกับเด็ก เปลี่ยนกระบวนการบริหารจัดการ เป็นการร่วมลงมือทำกับครู และเปลี่ยนวิธีคิดของชุมชน โดยเปลี่ยนแหล่งเรียนรู้และบริเวณโดยรอบชุมชนรองรับการเรียนรู้แบบใหม่ ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ เกิดจากการสนับสนุนและแรงผลักดันของชุมชน ครู และที่สำคัญก็คือ นักเรียน”
 
๓.นายบุญสม ทองศรีพราย รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต ๑ ได้กล่าวแสดงความรู้สึกว่า “เป็นรางวัลเกียรติยศสำหรับชีวิตครู ตลอดระยะเวลาของการทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ตั้งปณิธานว่า จะช่วยดูแลครูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น มีความปลอดภัย และสร้างขวัญ/กำลังใจให้ครู โดยจะบอกกับเพื่อนครูเสมอว่า ใครก็ตามที่ทำดีโดยไม่หวังผลประโยชน์ ไม่หวังสิ่งตอบแทน ความดีก็จะกลับคืนมาสู่ชีวิต ดังเช่นผู้ที่ได้รับรางวัลในวันนี้ แม้ตนเองและครอบครัวจะต้องพบกับอุปสรรคต่างๆ แม้เพื่อนครูจะได้รับอันตรายหรือเสียชีวิต แต่ก็ไม่สามารถบั่นทอนความตั้งในการทำงานในพื้นที่ได้ จึงขอฝากให้รัฐบาลและ รมว.ศธ.ช่วยดูแลการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะการศึกษาเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยแก้ไขปัญหา และการศึกษาเท่านั้นที่จะช่วยพัฒนาเด็กให้มีความคิด มีโอกาส มีงานทำ และเป็นพลังสำคัญที่จะนำพาจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสู่สันติสุข ขอให้ช่วยดูแลครู ให้ครูทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกสังกัด ทุกเพศ ทุกศาสนา มีความปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีขวัญและกำลังใจ และมีความก้าวหน้าในวิชาชีพ เพราะเป็นครูวีรชนที่ทำงานเพื่อการศึกษาอย่างแท้จริง” 

๔.นายประยูร สุธาบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๘ ได้กล่าวแสดงความรู้สึกว่า “มีความยินดีที่ได้รับรางวัลทรงคุณค่าครั้งนี้ การทำงานในพื้นที่ชายแดนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ประเพณี มีแตกต่างทางภาษา ทำให้ตนต้องจัดการศึกษาโดยยึดวัฒนธรรมชุมชนเป็นต้นแบบ แม้จะมีปัญหา มีอุปสรรค แต่ครูทุกคนก็มีความมุ่งมั่นและฟันฝ่าจนทำให้เด็กได้มีโอกาสเรียนเพิ่มขึ้นจาก ๕๐๐ คน เป็น ๑,๐๐๐ คน โดยใช้วิธีทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและชุมชน ซึ่งต้องขอขอบคุณ รมว.ศธ. และผู้บริหาร ศธ. ที่จัดให้มีโครงการดีๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับครูที่ทำงานทุกคน” 

รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า เกียรติประวัติของครูทั้ง ๔ ท่าน นับเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของครูที่จะจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ครูผู้มีอุดมการณ์มุ่งมั่นที่จะดูแลลูกศิษย์ให้ดีที่สุด ซึ่งเป็นอุดมการณ์ของพวกเราทุกคนเช่นกัน ที่ต้องการพัฒนาลูกศิษย์ให้ประสบความสำเร็จ มีชีวิตที่ดี มีการศึกษาที่ดี และมีงานทำ รวมทั้งเป็นผู้นำของประเทศในยุคต่อๆ ไป ขอให้ครูรักษาเกียรติยศและดำรงความภาคภูมิใจไว้ในชีวิต ขอบคุณคณะกรรมการจัดงาน ที่ได้ดำเนินโครงการและรักษาโครงการนี้ไว้ เพื่อให้คุณครูทุกคนนำไปเป็นแบบอย่าง เป็นแรงผลักดันในการทำงานเพื่อลูกศิษย์มากยิ่งขึ้น สิ่งที่ปรากฎในวันนี้ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เป็นการทำเพื่อจิตวิญญาณของความเป็นครู เพื่อลูกศิษย์ และเพื่อทำให้สังคมดำรงไว้ซึ่งความรัก ความผูกพัน ระหว่างครูกับลูกศิษย์ที่แนบแน่นตลอดไป