ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบ E A T ร่วมกับการใช้กลวิธี เล่า เรียน เล่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาสื่อสาร สาหรับเด็กชั้นอนุบาล 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบ E A T ร่วมกับการใช้กลวิธี เล่า เรียน เล่น

เพื่อพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาสื่อสาร สาหรับเด็กชั้นอนุบาล 3

ผู้วิจัย นางสาวพรทิวา ชุติมันตานนท์

หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาล ๔ (เพาะชา) สังกัดสานักการศึกษา เทศบาลนครนครราชสีมา

อาเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

ปีที่ทาวิจัย 2563

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัญหาและความต้องการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้

แบบ E-A-T ร่วมกับการใช้กลวิธี เล่า เรียน เล่น 2) เพื่อสร้างรูปแบบและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบ

การเรียนรู้แบบ E-A-T ร่วมกับการใช้กลวิธี เล่า เรียน เล่น 3) เพื่อศึกษาการใช้รูปแบบการเรียนรู้

แบบ E-A-T ร่วมกับการใช้กลวิธี เล่า เรียน เล่น และ 4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้

แบบ E-A-T ร่วมกับการใช้กลวิธี เล่า เรียน เล่น ดาเนินการวิจัย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษา

ปัญหาและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ จากการสนทนากลุ่มครูที่สอนระดับปฐมวัย

และครูที่รับผิดชอบงานวิชาการ และศึกษาจากเอกสาร ขั้นตอนที่ 2 สร้างรูปแบบและตรวจสอบ

คุณภาพรูปแบบการเรียนรู้ และจัดทาแผนการจัดประสบการณ์ตามรูปแบบการเรียนรู้ที่สร้างขึ้น

โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และทดลองใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ขั้นตอนที่ 3 ศึกษาผลการใช้รูปแบบ

รูปแบบการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นกับกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นเด็กชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนเทศบาล ๔ (เพาะชา)

สังกัดสานักการศึกษา เทศบาลนครนครราชสีมา ปีการศึกษา 2563 จานวน 30 คน จานวน 1 ห้องเรียน

จัดการทดลองโดยให้กลุ่มตัวอย่างได้เรียนรู้ตามแผนการจัดประสบการณ์ตามรูปแบบการเรียนรู้

แบบ E-A-T ร่วมกับการใช้กลวิธี เล่า เรียน เล่น 6 หน่วยประสบการณ์ รวม 28 ครั้ง ครั้งละประมาณ

30 นาที ทาการประเมินผลความสามารถในการใช้ภาษาสื่อสารทั้งก่อนและหลังการจัดประสบการณ์

ด้วยแบบประเมินความสามารถในการใช้ภาษาสื่อสารสาหรับชั้นอนุบาล 3 ที่สร้างขึ้น ขั้นตอนที่ 4

ประเมินผลรูปแบบการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นโดยการสอบถามจากครูผู้ใช้และผู้เกี่ยวข้อง และประเมิน

แนวโน้มพัฒนาการความสามารถในการใช้ภาษาสื่อสารของกลุ่มตัวอย่างเมื่อเวลาผ่านไป 6 สัปดาห์

ด้วยวิธีการประเมินซ้า สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน

มาตรฐาน Dependent sample t-test, การวิเคราะห์พัฒนาการด้วยการวัดอัตราพัฒนาการเฉลี่ย

ฐานนิยม ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การสรุปเป็นรายประเด็น ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาปัญหาและความต้องการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้พบว่า เด็กมีความสามารถ

ในการใช้ภาษาสื่อสารระดับค่อนข้างต่าถึงปานกลาง ควรได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น รูปแบบการเรียนรู้

เพื่อพัฒนาการใช้ภาษาสื่อสารที่เหมาะสม ควรมีขั้นตอนไม่ซับซ้อน มีกลวิธีการจัดกรรมที่เป็นรูปแบบ

ชัดเจน เน้นให้เด็กได้พูดสนทนาโต้ตอบ ฝึกทากิจกรรมที่ชอบ ฝึกการอ่าน เรียนรู้ผ่านการเล่น มีวิธีการ

วัดและประเมินผลความสามารถในการใช้ภาษาสื่อสารที่ง่ายและชัดเจน

2. รูปแบบการการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น ประยุกต์จากการนาแนวคิดพัฒนาการเรียนรู้ทางภาษา

รูปแบบการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ และกลวิธีการจัดกิจกรรมเรียนรู้ที่นิยมใช้กับเด็กปฐมวัยมาบูรณาการ

เป็นรูปแบบใหม่ ชื่อว่า “การเรียนรู้แบบ E-A-T ร่วมกับการใช้กลวิธี เล่า--เรียน--เล่น” มีองค์ประกอบ 5

องค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหาการจัดประสบการณ์ ขั้นตอนกิจกรรม และการวัดและ

ประเมินผล กิจกรรมการเรียนรู้มี 3 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นนา (Engagement: E) เป็นขั้นเตรียมความพร้อม

ทบทวนความรู้เดิมเชื่อมโยงประสบการณ์ใหม่ 2) ขั้นเรียนรู้ลงมือทา (Active Learning: A) เป็นขั้น

ทากิจกรรมตามกลวิธี คือ พูดเล่าเรื่อง ฟังครูเล่า อ่านภาพสัญลักษณ์ ทากิจกรรมที่เด็กชอบ เล่นเกม

การศึกษา และ 3) ขั้นสร้างความรู้ (Transformation: T) เป็นขั้นทบทวนสิ่งที่เรียน ทดสอบความเข้าใจ

และบันทึกผล แผนการจัดประสบการณ์ตามรูปแบบการเรียนรู้ที่สร้างขึ้นมีจานวน 6 หน่วย

3. ผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นกับกลุ่มตัวอย่างพบว่า คะแนนความสามารถ

ในการใช้ภาษาสื่อสารก่อนจัดประสบการณ์มีค่าเฉลี่ย 19.80 คะแนนหลังจัดประสบการณ์มีค่าเฉลี่ย

25.40 จากคะแนนเต็ม 30 ทดสอบด้วยค่าสถิติพบว่าคะแนนหลังจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนจัด

ประสบการณ์อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการทดสอบประสิทธิภาพของรูปแบบ (E1/E2)

เท่ากับ 84.54/84.67 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กาหนดไว้ที่ 80/80

4. ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นโดยครูผู้ใช้และผู้เกี่ยวข้อง

ภาพรวมมีความเหมาะสมระดับมากที่สุด เด็กชั้นอนุบาล 3 ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างมีความสามารถในการใช้

ภาษาสื่อสารตั้งแต่เริ่มจัดประสบการณ์และหลังจากจัดประสบการณ์ 6 สัปดาห์ มีแนวโน้มพัฒนาการ

ดีขึ้นโดยพิจารณาจากค่าอัตราพัฒนาการเฉลี่ยที่เป็นค่าบวก หมายถึงมีพัฒนาการดีขึ้น และได้ปรับปรุง

รูปแบบการเรียนรู้อีกเล็กน้อย เช่น เพิ่มเติมกิจกรรมให้มีหลากหลายและพอเหมาะกับเวลา ปรับปรุง

รูปภาพและให้น่าสนใจ ปรับปรุงแบบประเมินให้ใช้งานง่ายขึ้น แล้วเผยแพร่ในเว็บไซต์และโรงเรียนอื่น ๆ

โพสต์โดย ยุ้ย : [24 ก.พ. 2564 เวลา 08:21 น.]
อ่าน [2871] ไอพี : 182.53.201.164
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 28,544 ครั้ง
ใครที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ปวดเมื่อยแล้วนวดไม่หาย ต้องอ่านเรื่องนี้
ใครที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ปวดเมื่อยแล้วนวดไม่หาย ต้องอ่านเรื่องนี้

เปิดอ่าน 21,393 ครั้ง
ผอมสวยด้วยสมุนไพร..อันตรายที่ควรระวัง
ผอมสวยด้วยสมุนไพร..อันตรายที่ควรระวัง

เปิดอ่าน 7,646 ครั้ง
เชิญเข้าร่วมกิจกรรมอบรม "สิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตฯ..."
เชิญเข้าร่วมกิจกรรมอบรม "สิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตฯ..."

เปิดอ่าน 9,541 ครั้ง
ใยอาหาร สำคัญกว่าที่คิด
ใยอาหาร สำคัญกว่าที่คิด

เปิดอ่าน 13,630 ครั้ง
วันนี้คุณบำรุงผิวหน้าด้วยอโลเวร่าหรือยัง ?
วันนี้คุณบำรุงผิวหน้าด้วยอโลเวร่าหรือยัง ?

เปิดอ่าน 657 ครั้ง
การเรียนการสอนแบบ e-Learning
การเรียนการสอนแบบ e-Learning

เปิดอ่าน 34,229 ครั้ง
ขิงแก้ผมร่วง
ขิงแก้ผมร่วง

เปิดอ่าน 908 ครั้ง
เปิดตัวระบบย่อลิงก์ "dg.th" ลดปัญหาคุกคามทางไซเบอร์
เปิดตัวระบบย่อลิงก์ "dg.th" ลดปัญหาคุกคามทางไซเบอร์

เปิดอ่าน 25,332 ครั้ง
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางฯ 2551 ชั้นม. 6
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางฯ 2551 ชั้นม. 6

เปิดอ่าน 19,674 ครั้ง
วิธีควบคุมรถเมื่อ "สุนัข-มอไซค์" ตัดหน้า
วิธีควบคุมรถเมื่อ "สุนัข-มอไซค์" ตัดหน้า

เปิดอ่าน 18,815 ครั้ง
"ยุคนี้ใครๆ ก็อยากเป็นครู" โดย อ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์
"ยุคนี้ใครๆ ก็อยากเป็นครู" โดย อ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์

เปิดอ่าน 13,466 ครั้ง
เคล็ดลับน่ารู้วิธีเลิกติดกาแฟ
เคล็ดลับน่ารู้วิธีเลิกติดกาแฟ

เปิดอ่าน 33,820 ครั้ง
เคยรู้บ้างมั้ยว่า GNU/GPL คืออะไร
เคยรู้บ้างมั้ยว่า GNU/GPL คืออะไร

เปิดอ่าน 9,306 ครั้ง
ฤดูฝน กับยางของท่าน
ฤดูฝน กับยางของท่าน

เปิดอ่าน 25,278 ครั้ง
ปัสสาวะบอกโรค ลองสังเกตตัวเองดูสิ
ปัสสาวะบอกโรค ลองสังเกตตัวเองดูสิ

เปิดอ่าน 87,824 ครั้ง
โรงเรียนร่วมพัฒนา(Partnership School)
โรงเรียนร่วมพัฒนา(Partnership School)
เปิดอ่าน 15,566 ครั้ง
ซักซ้อมความเข้าใจเรื่องอำนาจการอนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้างตามระเบียบฯว่าด้วยการพัสดุ 2535 และที่แก้ไขฯ
ซักซ้อมความเข้าใจเรื่องอำนาจการอนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้างตามระเบียบฯว่าด้วยการพัสดุ 2535 และที่แก้ไขฯ
เปิดอ่าน 12,261 ครั้ง
แนะปรับกระจก-ท่านั่งเหมาะสม ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ
แนะปรับกระจก-ท่านั่งเหมาะสม ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ
เปิดอ่าน 1,828 ครั้ง
วิธีปลูกผักอีตู่ (แมงลัก) ในกระถาง
วิธีปลูกผักอีตู่ (แมงลัก) ในกระถาง
เปิดอ่าน 359,146 ครั้ง
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ